คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 70 (2)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับทราบกำหนดนัดพิจารณาคดี: การเกษียนสั่งในคำให้การและหมายนัด ถือว่าจำเลยทราบวันนัด แม้จะเข้าใจผิด
ศาลชั้นต้นได้เกษียนสั่งกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ในคำให้การจำเลยในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ต้องถือว่าจำเลยทราบกำหนดนัดวันสืบพยานโจทก์ตั้งแต่วันที่จำเลยนำคำให้การไปยื่นต่อศาล จำเลยได้รับหมายนัด และได้ทราบกำหนดนัดวันสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว การที่จำเลยเข้าใจหรือจำเวลานัดสืบพยานโจทก์ผิดพลาดไปเพราะความเข้าใจผิดหรือหลงลืมของจำเลยเอง ไม่มีเหตุสมควรที่จะขอให้ พิจารณาใหม่และไม่จำต้องไต่สวนคำร้อง ของ จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5633/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกาให้คู่ความ
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยและสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกา แก่โจทก์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฎีกา ดังนี้ แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลย ลงชื่อทราบคำสั่ง แต่เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า 'ฯลฯ และ รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว' และศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยทราบคำสั่งแล้วการที่จำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5633/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกาให้คู่ความ
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยและสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกา แก่โจทก์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฎีกา ดังนี้ แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลย ลงชื่อทราบคำสั่ง แต่เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า 'ฯลฯ และ รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว' และศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยทราบคำสั่งแล้วการที่จำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาวางเงินตามคำสั่งศาล: ผลของการไม่รอฟังคำสั่งและการป่วยหลังทราบคำสั่ง
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจกท์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินตามประกาศกระทรวงฯ เพื่อรับฟ้องคดี การนับระยะเวลา และผลของการไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกา และผลของการมีข้อความท้ายฎีกาที่ระบุการรับทราบ
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลย และสั่งให้โจทก์(น่าจะเป็นจำเลย)นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 7 วัน ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดฝ่ายจำเลยเซ็นทราบคำสั่งนี้ ต่อมาอีก 1 เดือนเศษ จำเลยยังไม่นำส่งสำเนาฎีกา ดังนี้ เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า "ฯลฯ และรอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว" และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งผิดพลาดไปควรจะสั่งว่า " ให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์" ก็ตามแต่ผู้ที่ทราบคำสั่งก็ย่อมจะทราบได้ว่าตามคำสั่งนั้นหมายถึงให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกานั่นเอง เพราะจำเลยเป็นผู้ฎีกา เมื่อจำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเช่นนี้ จำเลยจึงทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกา แม้คำสั่งจะผิดพลาด
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลย และสั่งให้โจทก์ (น่าจะเป็นจำเลย) นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 7 วัน ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดฝ่ายจำเลยเซ็นทราบคำสั่งนี้ ต่อมาอีก 1 เดือนเศษ จำเลยยังไม่นำส่งสำเนาฎีกา ดังนี้ เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า "ฯลฯ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว" และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งผิดพลาดไป ควรจะสั่งว่า "ให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์" ก็ตาม แต่ผู้ที่ทราบคำสั่งก็ย่อมจะทราบได้ว่าตามคำสั่งนั้นหมายถึงให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกานั่นเอง เพราะจำเลยเป็นผู้ฎีกา เมื่อจำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเช่นนี้ จำเลยจึงทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ