พบผลลัพธ์ทั้งหมด 498 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาเกินกำหนด แม้ศาลอนุญาตขยายเวลา แต่โจทก์เพิกเฉยไม่ได้ติดตามคำสั่ง ศาลไม่รับพิจารณา
ก่อนครบกำหนดยื่นฎีกาทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 15 วัน นับแต่วันครบกำหนด ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องนี้ในวันรุ่งขึ้นแต่ยังอยู่ในระยะเวลายื่นฎีกาว่า อนุญาตให้ขยายได้ 7 วันนับแต่วันสุดท้าย ดังนี้ แม้จะถือไม่ได้ว่าโจทก์ทราบคำสั่งแต่ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องขวนขวายให้ทราบก่อนครบกำหนดยื่นฎีกาว่าศาลอนุญาตให้ขยายเวลาหรือไม่เพียงใด โจทก์กลับเพิกเฉยและยื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาต การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาโจทก์จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ฆ่า: การพิจารณาจากลักษณะบาดแผลและพฤติการณ์
มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายมีความยาวรวมทั้งด้ามประมาณ 6 นิ้วฟุต จำเลยเลือกแทงผู้เสียหายที่หน้าอกด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีบาดแผลบริเวณอก ด้านซ้าย มีเลือดและลมในช่องเยื่อหุ้มปอด บาดแผลจะหายในเวลา 7 วัน ในกรณีไม่มีภาวะแทรกซ้อน บาดแผลดังกล่าวเพียงแต่ลึกถึงเยื่อหุ้มปอด ไม่ได้ถึงเนื้อปอด แสดงว่าจำเลยไม่ได้แทงโดยแรง และเมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายเพียงทีเดียวแล้วหลบหนีไป ไม่ได้แทงซ้ำอีกทั้ง ๆที่มีโอกาสกระทำได้ จึงส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าตั้งใจเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. ฆ่า: การพิจารณาจากลักษณะบาดแผลและพฤติการณ์
มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายมีความยาวรวมทั้งด้ามประมาณ ๖ นิ้วฟุต จำเลยเลือกแทงผู้เสียหายที่หน้าอกด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีบาดแผลบริเวณอก ด้านซ้าย มีเลือดและลมในช่องเยื่อหุ้มปอด บาดแผลจะหายในเวลา ๗ วัน ในกรณีไม่มีภาวะแทรกซ้อน บาดแผลดังกล่าวเพียงแต่ลึกถึงเยื่อหุ้มปอด ไม่ได้ถึงเนื้อปอด แสดงว่าจำเลยไม่ได้แทงโดยแรง และเมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายเพียงทีเดียวแล้วหลบหนีไป ไม่ได้แทงซ้ำอีกทั้ง ๆที่มีโอกาสกระทำได้ จึงส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าตั้งใจเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์หลังการกระทำ
มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายมีความยาวรวมทั้งด้ามประมาณ 6 นิ้วฟุต จำเลยเลือกแทงผู้เสียหายที่หน้าอกด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีบาดแผลบริเวณด้านซ้ายมีเลือดและลมในช่องเยื่อหุ้มปอด บาดแผลจะหายในเวลา 7 วัน ในกรณีไม่มีภาวะแทรกซ้อน บาดแผลดังกล่าวเพียงแต่ลึกถึงเยื่อหุ้มปอดไม่ได้ถึงเนื้อปอด แสดงว่าจำเลยไม่ได้แทงโดยแรงและเมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายเพียงทีเดียวแล้วหลบหนีไป ไม่ได้แทงซ้ำอีกทั้ง ๆ ที่มีโอกาสกระทำได้ ดังนี้ส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าตั้งใจเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาฆ่า จึงเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายมีความยาวรวมทั้งด้ามประมาณ 6 นิ้วฟุต จำเลยเลือกแทงผู้เสียหายที่หน้าอกด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีบาดแผลบริเวณอกด้านซ้าย มีเลือดและลมในช่องเยื่อหุ้มปอดบาดแผลจะหายในเวลา 7 วัน ในกรณีไม่มีภาวะแทรกซ้อน บาดแผลดังกล่าว เพียงแต่ลึกถึงเยื่อหุ้มปอด ไม่ได้ถึงเนื้อปอด แสดงว่าจำเลยไม่ได้แทงโดยแรงและเมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายเพียงทีเดียวแล้วหลบหนีไป ไม่ได้แทงซ้ำอีก ทั้ง ๆที่มีโอกาสกระทำได้ จึงส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าตั้งใจเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานแวดล้อมและคำเบิกความของผู้เสียหายในคดีบุกรุกและกระทำอนาจาร
ขณะผู้เสียหายนอนกับลูกในห้องนอนยังไม่ทันหลับ จำเลยเข้ามานั่งยอง ๆ ที่ปลายเท้า ผู้เสียหายถามถึงจุดประสงค์ที่เข้ามาจำเลยก็ห้ามส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะเชือดคอ แล้วจำเลยใช้มือซ้ายจับมือขวาผู้เสียหายใช้มือขวาซึ่งถือมีดกดหัวเข่าผู้เสียหายไว้ผู้เสียหายดิ้น ศอกผู้เสียหายไปถูกลูกคนเล็กร้องขึ้น พอผู้เสียหายพูดขึ้นว่าสามีผู้เสียหายมา จำเลยก็หนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 และฐานกระทำอนาจารตามมาตรา 278 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกเคหะสถานข่มขู่ทำอนาจาร
ขณะผู้เสียหายนอนกับลูกในห้องนอนยังไม่ทันหลับ จำเลยเข้ามานั่งยอง ๆ ที่ปลายเท้า ผู้เสียหายถาม ถึง จุดประสงค์ที่เข้ามา จำเลยก็ห้ามส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะเชือด คอ แล้วจำเลยใช้ มือซ้ายจับมือขวาผู้เสียหาย ใช้ มือขวาซึ่ง ถือ มีดกดหัวเข่าผู้เสียหายไว้ ผู้เสียหายดิ้น ศอกผู้เสียหายไปถูก ลูกคนเล็กร้องขึ้น พอผู้เสียหายพูดขึ้นว่าสามีผู้เสียหายมาจำเลยก็หนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐาน บุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ และฐาน กระทำอนาจารตาม มาตรา ๒๗๘ เป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานและคำเบิกความสนับสนุนในคดีบุกรุกและกระทำอนาจาร
ขณะผู้เสียหายนอนกับลูกในห้องนอนยังไม่ทันหลับ จำเลยเข้ามานั่งยองๆ ที่ปลายเท้า ผู้เสียหายถามถึงจุดประสงค์ที่เข้ามา จำเลยก็ห้ามส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะเชือดคอ แล้วจำเลยใช้มือซ้ายจับมือขวาผู้เสียหาย ใช้มือขวาซึ่งถือมีดกดหัวเข่าผู้เสียหายไว้ผู้เสียหายดิ้น ศอกผู้เสียหายไปถูกลูกคนเล็กร้องขึ้น พอผู้เสียหายพูดขึ้นว่าสามีผู้เสียหายมาจำเลยก็หนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 และฐานกระทำอนาจารตามมาตรา 278 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกและกระทำอนาจารในเคหสถาน
ขณะผู้เสียหายนอนกับลูกในห้องนอนยังไม่ทันหลับ จำเลยเข้ามานั่งยอง ๆ ที่ปลายเท้า ผู้เสียหายถาม ถึง จุดประสงค์ที่เข้ามา จำเลยก็ห้ามส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะเชือด คอ แล้วจำเลยใช้ มือซ้ายจับมือขวาผู้เสียหาย ใช้ มือขวาซึ่ง ถือ มีดกดหัวเข่าผู้เสียหายไว้ ผู้เสียหายดิ้น ศอกผู้เสียหายไปถูก ลูกคนเล็กร้องขึ้น พอผู้เสียหายพูดขึ้นว่าสามีผู้เสียหายมาจำเลยก็หนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐาน บุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 และฐาน กระทำอนาจารตาม มาตรา 278 เป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บัญชีเดินสะพัดเป็นหลักฐานทางบัญชีได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อรับรอง หากคำนวณโดยสุจริตและตรงกับความจริง
จำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ แม้บัญชีเดินสะพัดและบัญชีหนี้ค้างนาน โจทก์เป็นฝ่ายทำขึ้นเองโดย จำเลยมิได้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง แต่ โจทก์เป็นธนาคารมีหน้าที่จะต้องจัดทำบัญชีและหลักฐานต่าง ๆ ขึ้นสำหรับลูกค้าของโจทก์ทุกรายเพื่อแสดงยอด เงินฝากและเงินถอน ระหว่างโจทก์กับลูกค้าแต่ละรายว่าเป็นหนี้ต่อกันหรือไม่เพียงใด เมื่อมีเหตุผลทำให้เชื่อ ว่ายอดหนี้ตาม บัญชีเดินสะพัดและบัญชีหนี้ค้างนาน โจทก์คิดคำนวณโดยสุจริตในการดำเนิน ธุรกิจของตน ถูกต้อง ตรง กับความจริง ศาลก็รับฟังบัญชีดังกล่าวนั้นได้ แม้โจทก์มิได้อ้างเช็ค ที่จำเลยสั่งจ่ายเบิกเงินไปจากบัญชีรวมทั้งใบแจ้งยอดหนี้ประจำเดือน มาเป็นพยานก็ไม่ถึงกับทำให้รับฟังบัญชีดังกล่าวไม่ได้.