พบผลลัพธ์ทั้งหมด 498 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3614/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ปลอมเป็นเหตุให้ขาดอายุความฟ้อง และจำเลยมีสิทธิโต้แย้งการเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร
กู้เงินเพียง 30,000 บาท โดยผู้กู้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้ซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความ แล้วโจทก์มากรอกข้อความเป็นว่ากู้จำนวน90,000 บาท ในภายหลังโดยผู้กู้มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญากู้จึงเป็นเอกสารปลอม โจทก์ไม่อาจใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมมาฟ้องบังคับคดี จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้คดีไว้ว่าสัญญากู้เป็นเอกสารปลอมจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคสอง ส่วนการนำสืบว่ารับเงินจากโจทก์จำนวน 28,200 บาทเป็นการอ้างเหตุผลประกอบว่าสัญญากู้ที่มีข้อความว่ากู้ 90,000 บาทเป็นเอกสารปลอมไม่ใช่เรื่องนำสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ ต้องเข้าเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 เท่านั้น
การที่ผู้ให้จะถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้นกรณีต้องเข้าเหตุใดเหตุหนึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 แต่ที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินที่โจทก์ยกให้แก่จำเลยโดยเสน่หาคืนโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ไม่เคยให้ความช่วยเหลือ ทำให้โจทก์ต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อนบ้านเพื่อประทังชีพนั้นไม่เข้าเหตุที่จะเรียกถอนคืนการให้ตามมาตรา 531โจทก์จึงไม่อาจฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินคืนโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกคืนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณ ต้องเข้าเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ตามสัญญา ไม่เคยให้ความช่วยเหลือ โจทก์ต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อนบ้านเพื่อประทังชีพถือว่าจำเลยประพฤติชั่วและเนรคุณโจทก์ ขอให้จำเลยโอนที่ดินที่โจทก์ยกให้โดยเสน่หาแก่จำเลยคืนโจทก์ จำเลยไม่ยินยอม กลับพูดจาเสียดสีด่าว่าโจทก์ แต่การเรียกถอนคืนการให้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณมีเพียงกรณีที่ผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดอาญาอย่างร้ายแรงตาม ป.อ.หรือผู้รับทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเลยเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้ ข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ไม่เข้าเหตุที่จะเรียกถอนคืนการให้ตามที่บัญญัติไว้ดังกล่าว ไม่อาจฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินที่โจทก์ยกให้คืนแก่โจทก์ได้ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบ-ร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกคืนการให้เนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณ ต้องเข้าเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 531 เท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ตามสัญญาไม่เคยให้ความช่วยเหลือ โจทก์ต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อนบ้านเพื่อประทังชีพ ถือว่าจำเลยประพฤติชั่วและเนรคุณโจทก์ ขอให้จำเลยโอนที่ดินที่โจทก์ยกให้โดยเสน่หาแก่จำเลยคืนโจทก์ จำเลยไม่ยินยอมกลับพูดจาเสียดสีด่าว่าโจทก์ แต่การเรียกถอนคืนการให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณมีเพียงกรณีที่ผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญา หรือผู้รับทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเลยเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้ ข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ไม่เข้าเหตุที่จะเรียกถอนคืนการให้ตามที่บัญญัติไว้ดังกล่าวไม่อาจฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินที่โจทก์ยกให้คืนแก่โจทก์ได้ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3523/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระบือเพื่อนำไปทำลูกชิ้น ไม่ถือเป็นการซื้อขายสัตว์พาหนะที่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ
กระบือทั้ง 6 ตัว ที่โจทก์ขายให้จำเลยทั้งสามมีตั๋วรูปพรรณแล้ว จึงเป็นสัตว์พาหนะตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะพ.ศ. 2483 ซึ่งการซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456มิฉะนั้นเป็นโมฆะ แต่จำเลยทั้งสามได้ซื้อกระบือจากโจทก์เพื่อนำไปฆ่าทำลูกชิ้นที่โรงงานของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นการซื้อขายสัตว์พาหนะซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนตามกฎหมายไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3523/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระบือเพื่อทำลูกชิ้น ไม่ถือเป็นการซื้อขายสัตว์พาหนะที่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ
ซื้อกระบือเพื่อนำไปฆ่าทำลูกชิ้น ไม่เป็นการซื้อขายสัตว์พาหนะซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนตาม ป.พ.พ.มาตรา 456 วรรคหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประพฤติเนรคุณและการถอนคืนการให้ทรัพย์สินเนื่องจากคำพูดดูหมิ่นและขับไล่
หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2)หาจำเป็นต้องถึงกับเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาททางอาญาไม่เพียงแต่ได้ความว่า เจตนาดูหมิ่นก็ถือว่าประพฤติเนรคุณแล้ว จำเลยซึ่งได้รับการให้ที่ดินจากโจทก์ผู้เป็นบิดาด่าว่าโจทก์ว่า "ไอ้แก่กูไม่นับมึงเป็นพ่อ ออกไปให้พ้น ไม่ไปมึงตายกูไม่รับรู้" เป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์เรียกโจทก์ว่าไอ้แก่ ขึ้นมึงขึ้นกูกับโจทก์ว่าไม่นับถือโจทก์เป็นบิดา ขับไล่โจทก์ออกไปให้พ้น มิฉะนั้นโจทก์ตายจำเลยไม่รับรู้ ย่อมทำให้โจทก์อับอายเสียชื่อเสียงและเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3493/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานและการผิดนัดชำระหนี้
แม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90 แต่ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจรับฟังพยานเอกสารเพราะเห็นว่าเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นอำนาจตามมาตรา 87 (2) จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ไม่ตรงตามงวดที่ได้กำหนดเวลาชำระไว้ในสัญญากู้ แต่โจทก์ก็ได้รับเงินไว้แล้วนำไปหักชำระดอกเบี้ยและต้นเงินที่ค้างชำระเรื่อยมาแสดงว่าโจทก์มิได้ถือกำหนดเวลาชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้เป็นสำคัญ เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์อีก จึงต้องถือว่าจำเลยผิดนัดต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ในต้นเงินที่ค้างชำระตั้งแต่วันถัดจากวันที่ชำระเงินครั้งสุดท้ายเป็นต้นไป
จำเลยผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ไม่ตรงตามงวดที่ได้กำหนดเวลาชำระไว้ในสัญญากู้ แต่โจทก์ก็ได้รับเงินไว้แล้วนำไปหักชำระดอกเบี้ยและต้นเงินที่ค้างชำระเรื่อยมาแสดงว่าโจทก์มิได้ถือกำหนดเวลาชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้เป็นสำคัญ เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์อีก จึงต้องถือว่าจำเลยผิดนัดต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ในต้นเงินที่ค้างชำระตั้งแต่วันถัดจากวันที่ชำระเงินครั้งสุดท้ายเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3493/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบ และการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญา
แม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า3 วัน ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 แต่ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจรับฟังพยานเอกสารเพราะเห็นว่าเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นอำนาจตามมาตรา 87(2) จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ไม่ตรงตามงวดที่ได้กำหนดเวลาชำระไว้ในสัญญากู้ แต่โจทก์ก็ได้รับเงินไว้แล้วนำไปหักชำระดอกเบี้ยและต้นเงินที่ค้างชำระเรื่อยมาแสดงว่าโจทก์มิได้ถือกำหนดเวลาชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้เป็นสำคัญเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์อีก จึงต้องถือว่าจำเลยผิดนัดต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ในต้นเงินที่ค้างชำระตั้งแต่วันถัดจากวันที่ชำระเงินครั้งสุดท้ายเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุไฟไหม้รถแทรกเตอร์: ศาลยกฟ้องข้อหาประมาท เพราะเหตุเกิดจากอุบัติเหตุทางเครื่องยนต์
จำเลยขับรถแทรกเตอร์ไถเกรดหญ้าไปได้ 1 รอบครึ่งเครื่องยนต์เกิดขัดข้องและดับลง จำเลยสตาร์ต เครื่องยนต์จึงเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่เครื่องยนต์ก่อน แล้วลามไหม้ตัวรถแทรกเตอร์และไหม้สวนยางพาราของผู้เสียหาย เหตุไฟไหม้เครื่องยนต์น่าจะเป็นอุบัติเหตุ เพราะปกติธรรมดาแล้วการสตาร์ต เครื่องยนต์ก็เพื่อให้เครื่องยนต์ติดไม่ใช่เหตุที่ต้องเกิดไฟลุกไหม้เครื่องยนต์เป็นปกติธรรมดา การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225