พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5218/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของ ผวจ. ในคดีละเมิดต่อหน่วยงานอื่น: ต้องเสียหายโดยตรงจึงมีอำนาจฟ้อง
แม้โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัดและรับผิดชอบงานบริหารราชการจังหวัดและมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติราชการของจำเลยที่ 1 ซึ่งรับราชการอยู่ในจังหวัดและอยู่ในบังคับบัญชารับผิดชอบของโจทก์ที่ 2 แต่เงินค่าเช่าบ้านที่จำเลยที่ 1 เบิกเอาไปโดยไม่มีสิทธินั้น มิใช่เป็นเงินงบประมาณของโจทก์ที่ 2 แต่เป็นเงินงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการโจทก์ที่ 1 เมื่อมีการกระทำละเมิดเอาเงินดังกล่าวไป ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงคือโจทก์ที่ 1 ส่วนประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ข้อ 50,51,53 และฉบับที่ 310 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะละเมิดนั้นเป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัดเท่านั้น หาได้ให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเป็นผู้ดำเนินการแทนหน่วยราชการในส่วนกลาง ที่เป็นผู้เสียหายด้วยไม่เมื่อโจทก์ที่ 2 ไม่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงไม่ถูกโต้แย้งสิทธิ และไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบของหน่วยงานราชการต่อหนี้ที่เกิดจากการปฏิบัติงานของส่วนราชการในสังกัด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกำหนดหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารงานส่วนจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลให้การดำเนินการต่าง ๆ ตามโครงการของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามที่จำเลยอนุมัติเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติราชการเท่านั้น การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามอนุมัติและมอบอำนาจให้หัวหน้าสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามทำสัญญาซื้อน้ำมันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ เป็นการทำหน้าที่แทนจำเลยตามกฎหมาย จำเลยซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต้องรับผิดชอบในการกระทำของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามเป็นหนี้โจทก์จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ชำระหนี้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหน่วยงานราชการต่อหนี้ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล
ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกำหนดหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารส่วนจังหวัด การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามอนุมัติและมอบอำนาจให้หัวหน้าสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามสั่งซื้อน้ำมัน และผู้ว่าราชการจังหวัดทำสัญญาซื้อน้ำมัน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพัสดุ เป็นการทำหน้าที่แทนจำเลยตามกฎหมาย จำเลยซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต้องรับผิดชอบในการกระทำของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามเป็นหนี้โจทก์จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระหนี้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิด: ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ใช่ตัวแทนกรมอนามัยในการฟ้องคดีแทน
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการ และกำหนดอำนาจหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัดเท่านั้น หาได้ให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเป็นผู้ดำเนินการแทนหน่วยราชการในส่วนกลางที่เป็นผู้เสียหายไม่ เมื่อโจทก์มิได้รับความเสียหายโดยตรงเนื่องจากการกระทำของจำเลย การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะเป็นผู้เสียหาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอนุมัติคนต่างด้าวเป็นอำนาจเฉพาะผู้ว่าฯ การมอบอำนาจต้องทำเป็นหนังสือ การกระทำโดยไม่มีอำนาจไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.157
การอนุมัติให้คนต่างด้าวเข้ามาในเขตจังหวัดเป็นอำนาจเฉพาะตัวของผู้ว่าราชการจังหวัด และการอนุมัติให้คนต่างด้าวออกนอกเขตจังหวัดเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดในบางกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดมิได้มอบหมายเป็นหนังสือให้จำเลยซึ่งเป็นปลัดจังหวัดเป็นผู้ทำการแทน จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ในการพิจารณาอนุมัติให้คนต่างด้าวเข้ามาหรือออกนอกเขตจังหวัด การที่จำเลยสั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำแบบหนังสืออนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาหรือออกนอกเขตจังหวัด ลงนามในตำแหน่งปลัดจังหวัดทำการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประทับตราจังหวัดและแจกจ่ายหนังสืออนุญาตที่มีลายมือชื่อจำเลยนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติราชการชายแดนไทยพม่านำไปกรอกเติมข้อความมอบให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3214/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของจังหวัด: กรมป่าไม้เป็นผู้เสียหายจากการทุจริตยักยอกเงินของสำนักงานป่าไม้จังหวัด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัดหาได้ให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเป็นผู้ดำเนินการแทนหน่วยราชการในส่วนกลางที่เป็นผู้เสียหายไม่ดังนั้นเมื่อมีผู้ทุจริตยักยอกเงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านค่าภาคหลวงและเงินมัดจำเพื่อตรวจวัดตีตราค่าภาคหลวงของสำนักงานป่าไม้จังหวัดลำพูน เงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านและค่าภาคหลวงเป็นเงินในงบประมาณของกรมป่าไม้ส่วนเงินวางมัดจำแม้จะเป็นเงินนอกงบประมาณ แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัดของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จึงเป็นผู้เสียหายที่จะฟ้องเรียกเงินคืนจังหวัดลำพูนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมูลภาครัฐ: การสงวนสิทธิในการเลือกผู้ประมูล และผลผูกพันของผู้เข้าประมูล
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เข้าประมูลเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันร่วมกับจำเลยที่ 3 และผู้อื่น ได้ยินยอมตกลงตามแจ้งความของทางราชการที่สงวนสิทธิในการเลือกผู้เข้าประมูลรายใดก็ได้ให้เป็นผู้เช่าตามที่เห็นสมควร โดยผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนี้เมื่อทางราชการได้ใช้สิทธิเลือกจำเลยที่ 3 ให้เป็นผู้เช่า โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าที่ทางราชการได้ทำขึ้นกับผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้เช่าหรือขอให้ใช้ค่าเสียหาย
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขัน เป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขัน เป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมูลที่ราชการสงวนสิทธิเลือกผู้ประมูล ผู้เข้าประมูลยินยอมแล้ว ไม่มีสิทธิฟ้อง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เข้าประมูลเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันร่วมกับจำเลยที่ 3 และผู้อื่น ได้ยินยอมตกลงตามแจ้งความของทางราชการที่สงวนสิทธิในการเลือกผู้เข้าประมูลรายใดก็ได้ให้เป็นผู้เช่าตามที่เห็นสมควร โดยผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนี้เมื่อทางราชการได้ใช้สิทธิเลือกจำเลยที่ 3 ให้เป็นผู้เช่า โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าที่ทางราชการได้ทำขึ้นกับผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้เช่า หรือขอให้ใช้ค่าเสียหาย
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันเป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้บริษัท ส. เป็นผู้ประมูลได้ และลงมติอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันเป็นการปฏิบัติราชการตามอำนาจและหน้าที่ของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนมติดังกล่าวหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ยินยอมให้ทางราชการสงวนสิทธิที่จะเลือกผู้เข้าประมูลคนใดให้เป็นผู้เช่าได้ตามที่เห็นสมควร โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานะเจ้าพนักงาน: กำหนดจากกฎหมายแต่งตั้งและหน้าที่ราชการ แม้ระเบียบไม่ใช่กฎหมายแต่ชอบด้วยกฎหมายหากสอดคล้องนโยบายรัฐ
เจ้าพนักงานย่อมหมายถึงบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย กล่าวคือในการแต่งตั้งนั้นมีกฎหมายระบุถึงวิธีการแต่งตั้งไว้ และได้มีการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมายที่ระบุไว้นั้น จำเลยที่ 1เป็นกำนัน จำเลยที่ 2 เป็นแพทย์ประจำตำบล จำเลยที่ 3 เป็นผู้ใหญ่บ้านโดยได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ฯ จำเลยทั้งสามจึงมีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน เมื่อจำเลยทั้งสามเป็นกรรมการสภาตำบลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารของตำบล และมีระเบียบของสำนักนายกว่าด้วยการปฏิบัติตามโครงการพัฒนาท้องถิ่นและช่วยประชาชนในชนบทในฤดูแล้ง พ.ศ. 2518 กำหนดให้กำนันแพทย์ประจำตำบล และผู้ใหญ่บ้าน เป็นคณะกรรมการดำเนินการตามโครงการพัฒนาท้องถิ่นและช่วยประชาชนในชนบทฯ เรียกโดยย่อว่าปชลต. ซึ่งระเบียบดังกล่าวนั้นเป็นระเบียบที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมายการที่จำเลยทั้งสามดำเนินการในฐานะเป็นคณะกรรมการ ปชลต.ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการของเจ้าพนักงานผู้มีตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น อันอาจเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้
จำเลยที่ 4 และที่ 5 เป็นกรรมการสภาตำบลผู้ทรงคุณวุฒิตาม ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 326 หาใช่ข้าราชการหรือได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมายอย่างใดไม่ แม้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการดังกล่าวด้วยแต่ระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติตามโครงการพัฒนาท้องถิ่นฯ มิใช่กฎหมาย เมื่อจำเลยทั้งสองมิได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย และไม่มีกฎหมายใด บัญญัติไว้ว่าให้เป็นเจ้าพนักงาน ถึงแม้ว่าจำเลยทั้งสองจะได้รับมอบหมาย ให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการก็หาใช่เจ้าพนักงานไม่
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น ถึงบุคคลธรรมดากระทำ โดยลำพังจะไม่เป็นความผิด แต่เมื่อร่วมกับเจ้าพนักงานก็อาจเป็น ผู้สนับสนุนได้
จำเลยที่ 4 และที่ 5 เป็นกรรมการสภาตำบลผู้ทรงคุณวุฒิตาม ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 326 หาใช่ข้าราชการหรือได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมายอย่างใดไม่ แม้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการดังกล่าวด้วยแต่ระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติตามโครงการพัฒนาท้องถิ่นฯ มิใช่กฎหมาย เมื่อจำเลยทั้งสองมิได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย และไม่มีกฎหมายใด บัญญัติไว้ว่าให้เป็นเจ้าพนักงาน ถึงแม้ว่าจำเลยทั้งสองจะได้รับมอบหมาย ให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการก็หาใช่เจ้าพนักงานไม่
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น ถึงบุคคลธรรมดากระทำ โดยลำพังจะไม่เป็นความผิด แต่เมื่อร่วมกับเจ้าพนักงานก็อาจเป็น ผู้สนับสนุนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสำนักงานสลากฯ ไม่เป็นราชการส่วนกลาง จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชย
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำเลยได้จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลโดยพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 วัตถุประสงค์ของจำเลยไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดิน มีคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลทำหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการและวางนโยบายของจำเลยแยกต่างหากจากการบริหารราชการแผ่นดิน จำเลยจึงมิใช่ส่วนราชการที่เป็นราชการส่วนกลางตามที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ระบุไว้ ไม่เข้าข่ายยกเว้นใช้บังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน
โจทก์ซึ่งออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุ มีสิทธิที่จะได้รับทั้งเงินบำเหน็จและค่าชดเชย คณะกรรมการของจำเลยให้โจทก์ขอรับเงินได้ประเภทเดียว เป็นการปฏิเสธจ่ายเงินอีกประเภทหนึ่ง โจทก์ขอรับเงินบำเหน็จจึงหาใช่เป็นการสละสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยไม่
โจทก์ซึ่งออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุ มีสิทธิที่จะได้รับทั้งเงินบำเหน็จและค่าชดเชย คณะกรรมการของจำเลยให้โจทก์ขอรับเงินได้ประเภทเดียว เป็นการปฏิเสธจ่ายเงินอีกประเภทหนึ่ง โจทก์ขอรับเงินบำเหน็จจึงหาใช่เป็นการสละสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยไม่