พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,435 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดสรรรายได้จากสัญญาต่างประเทศ: ค่าสิทธิ vs. วิชาชีพอิสระ (วิศวกรรม) และการหักภาษี
โจทก์ทำสัญญาตกลงจ่ายค่าตอบแทนเป็นค่าสิทธิในการใช้ชื่อและเครื่องหมายการค้าให้แก่บริษัท ซ. และโจทก์ยังได้ทำสัญญาจ่ายค่าตอบแทนการให้ความรู้ทางวิศวกรรมกับบริษัท น. โดยบริษัท ซ. และบริษัท น. มีสำนักงานบริษัทตั้งอยู่ที่ เวเว่ย์ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ แห่งเดียวกันสัญญาที่โจทก์ทำกับบริษัททั้งสองดังกล่าวมีอายุสัญญาและมีรายละเอียดเริ่มต้นกับวันสิ้นสุดเหมือนกันทั้งมีเงื่อนไขว่าหากบริษัท น. เลิกสัญญากับโจทก์บริษัท ซ.ก็มีสิทธิเลิกสัญญากับโจทก์เช่นเดียวกันและสัญญาทั้งสองฉบับยังระบุให้บริษัททั้งสองซึ่งเป็นสัญญากับโจทก์จัดหาและแนะนำกรรมวิธีการผลิตตำรับสูตรหรือความรู้อื่นที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของโจทก์โดยเฉพาะข้อตกลงซึ่งโจทก์ทำไว้กับบริษัท น. นั้นนอกจากบริษัท น. จะต้องให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเทคนิคทางวิศวกรรมแล้วยังต้องให้ข้อแนะนำวิธีในการผลิตแก่โจทก์ศึกษาและแนะนำวิธีการใช้กรรมวิธีใหม่และพัฒนาให้ดีขึ้นส่วนบริษัท ซ.ไม่ปรากฏว่าเคยให้ข้อแนะนำแก่โจทก์เกี่ยวกับเรื่องสูตรหรือกรรมวิธีการผลิตเลยแสดงว่าการผลิตของโจทก์อยู่ภายใต้เงื่อนไขและควบคุมของบริษัท น. เงินค่าตอบแทนที่บริษัท น. ได้รับจึงไม่ใช่เงินได้จากวิชาชีพอิสระประเภทวิศวกรรมตามความหมายของประมวลรัษฎากรมาตรา40(6)แต่เป็นเงินได้พึงประเมินประเภทค่าแห่งสิทธิตามมาตรา40(3) บริษัท น. เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยดังนั้นเงินได้ซึ่งบริษัท น.ได้รับจากโจทก์โจทก์ต้องหักภาษีแล้วนำส่งจำเลยตามประมวลรัษฎากรมาตรา70(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2571/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งให้ส่งตัวผู้ต้องหาล่าช้าไม่ถือเป็นการบอกกล่าวโดยมิได้กำหนดวันนัด ผู้ประกันภัยไม่ต้องรับผิด
โจทก์มีหนังสือแจ้งจำเลยซึ่งเป็นผู้ประกันตัวผู้ต้องหาให้ส่งตัวผู้ต้องหาวันที่4พฤศจิกายน2530เวลา8นาฬิกาแต่หนังสือดังกล่าวไปถึงจำเลยภายหลังวันเวลาตามกำหนดเพราะความผิดของโจทก์เองถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวให้ส่งตัวผู้ต้องหาโดยมิได้กำหนดวันนัดอันเป็นเหตุให้จำเลยต้องส่งตัวผู้ต้องหาแก่โจทก์โดยพลันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา203เมื่อจำเลยได้ส่งตัวผู้ต้องหาแก่โจทก์แล้วแม้จะมิได้ส่งโดยพลันก็ไม่ผิดสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2532/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: ศาลไม่ต้องผูกพันข้อเท็จจริงจากคดีอาญา และมีอำนาจแก้ไขค่าทนายความ
ในคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ปัญหาว่าคดีแพ่งต้องถือตามข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับคดีอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 หรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ได้ให้การในเรื่องนี้ไว้ก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคสอง
การที่โจทก์ที่ 3 ยอมให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับในข้อหาขับรถยนต์ด้วยความประมาททำให้คดีอาญาระงับ แต่ผลของการเปรียบเทียบปรับดังกล่าวไม่ใช่คำพิพากษาในคดีส่วนอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจึงไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตาม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์กำหนดค่าทนายความให้จำเลยทั้งหกใช้แทนโจทก์เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ตามตาราง 6 ท้าย ป.วิ.พ. แม้จำเลยทั้งหกจะไม่ได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดใหม่ให้ถูกต้องได้
การที่โจทก์ที่ 3 ยอมให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับในข้อหาขับรถยนต์ด้วยความประมาททำให้คดีอาญาระงับ แต่ผลของการเปรียบเทียบปรับดังกล่าวไม่ใช่คำพิพากษาในคดีส่วนอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจึงไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตาม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์กำหนดค่าทนายความให้จำเลยทั้งหกใช้แทนโจทก์เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ตามตาราง 6 ท้าย ป.วิ.พ. แม้จำเลยทั้งหกจะไม่ได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดใหม่ให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเข้าหุ้นส่วน: การผิดสัญญา, การบอกเลิกสัญญา, และการชำระบัญชี
ตามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างโจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันว่าต่างฝ่ายต่างจะลงหุ้นโดยชำระเงินค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการฝ่ายละครึ่งถือได้ว่าเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1026แล้วแม้ฝ่ายหนึ่งจะไม่ส่งเงินหรือทรัพย์สินตามที่ตกลงก็หาทำให้สัญญาเข้าหุ้นส่วนดังกล่าวเสียไปไม่ แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาร่วมลงทุนจำเลยในฐานะหุ้นส่วนก็จะต้องบอกเลิกสัญญาเสียก่อนเมื่อจำเลยยังไม่ได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์สัญญาร่วมทุนระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังไม่เลิกกันโจทก์จึงมีสิทธิขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเข้าหุ้นส่วนและการเลิกสัญญา: แม้ฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา อีกฝ่ายต้องบอกเลิกก่อนจึงมีผล
ตามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างโจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันว่าต่างฝ่ายต่างจะลงหุ้นโดยชำระเงินค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการฝ่ายละครึ่งถือได้ว่าเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1026แล้วแม้ฝ่ายหนึ่งจะไม่ส่งเงินหรือทรัพย์สินตามที่ตกลงก็หาทำให้สัญญาเข้าหุ้นส่วนดังกล่าวเสียไปไม่ แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาร่วมลงทุนจำเลยในฐานะหุ้นส่วนก็จะต้องบอกเลิกสัญญาเสียก่อนเมื่อจำเลยยังไม่ได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์สัญญาร่วมทุนระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังไม่เลิกกันโจทก์จึงมีสิทธิขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเข้าหุ้นส่วนและการเลิกสัญญา: แม้ฝ่ายหนึ่งไม่ส่งเงินตามสัญญา ก็ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
ตามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างโจทก์จำเลยระบุว่าการร่วมลงทุนและการดำเนินกิจการจะขาดทุนหรือกำไรทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรับผิดชอบร่วมกันคนละครึ่ง และการชำระเงิน ค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินให้เป็นไปตาม สัญญาร่วมลงทุนฉบับนี้ ซึ่งหมายถึงให้ฝ่ายโจทก์จำเลยชำระคนละครึ่ง แสดงว่าทั้งโจทก์และจำเลยต่างให้สัญญาซึ่งกันและกันว่าต่างฝ่ายจะลงหุ้นโดยชำระเงินค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฝ่ายละครึ่ง ถือได้ว่าเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนกัน ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาลงหุ้นด้วยในห้างหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1026 แล้ว แม้ฝ่ายหนึ่ง จะไม่ส่งเงินหรือทรัพย์สินตามที่ตกลงกันมาลงหุ้น ก็ไม่ทำให้สัญญาเข้าหุ้นส่วนเสียไปสัญญาร่วมลงทุนระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่ขัดต่อมาตรา 1026
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเข้าหุ้นส่วนยังไม่เลิก แม้ฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา อีกฝ่ายต้องบอกเลิกก่อน
ตามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างโจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันว่าต่างฝ่ายต่างจะลงหุ้นโดยชำระเงินค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการฝ่ายละครึ่ง ถือได้ว่าเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันตามนัยแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 1026 แล้ว แม้ฝ่ายหนึ่งจะไม่ส่งเงินหรือทรัพย์สินตามที่ตกลง ก็หาทำให้สัญญาเข้าหุ้นส่วนดังกล่าวเสียไปไม่
แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาร่วมลงทุน จำเลยในฐานะหุ้นส่วนก็จะต้องบอกเลิกสัญญาเสียก่อน เมื่อจำเลยยังไม่ได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์ สัญญาร่วมทุนระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังไม่เลิกกัน โจทก์จึงมีสิทธิขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีได้
แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาร่วมลงทุน จำเลยในฐานะหุ้นส่วนก็จะต้องบอกเลิกสัญญาเสียก่อน เมื่อจำเลยยังไม่ได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์ สัญญาร่วมทุนระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังไม่เลิกกัน โจทก์จึงมีสิทธิขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ: สิทธิฟ้องคดีต่อศาลยังคงมีอยู่
ใบตราส่งมีข้อความระบุแต่เพียงว่า ข้อพิพาทใด ๆ ตามใบตราส่งฉบับนี้คู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเท่านั้น ไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ กรณียังถือไม่ได้ว่าข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามใบตราส่งนั้นจะต้องมีการชี้ขาดตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2530 มาตรา 10 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการในใบตราส่ง ไม่ผูกมัดให้ต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการก่อนฟ้องคดี
ตามใบตราส่งระบุแต่เพียงว่าข้อพิพาทใด ๆ ตามใบตราส่ง คู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการพ.ศ. 2530 มาตรา 10 โจทก์จึงมีสิทธินำคดีมาฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการในใบตราส่ง ไม่ผูกพันให้ต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตฯ ก่อนฟ้องคดี
ตามใบตราส่งระบุแต่เพียงว่าข้อพิพาทใดๆตามใบตราส่งคู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการพ.ศ.2530มาตรา10โจทก์จึงมีสิทธินำคดีมาฟ้องได้