พบผลลัพธ์ทั้งหมด 440 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่รับผิดต่อการรับฝากเงินนอกสถานที่โดยตัวแทน แม้จะไม่มีการนำเงินเข้าบัญชีจริง
โจทก์เป็นลูกค้าของธนาคารจำเลยที่ 3 สาขาลาดพร้าว ได้ติดต่อรับซื้อลดเช็คจาก พ. พนักงานฝ่ายสินเชื่อของจำเลยที่ 3 ซึ่งเช็คดังกล่าว พ. อ้างว่าเป็นของลูกค้าจำเลยที่ 3 โดยโจทก์กับ พ. แบ่งผลประโยชน์ในส่วนลดกัน เมื่อเช็คถึงกำหนด พ. จะนำไปเก็บเงินจากลูกค้าแล้วนำเข้าบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ ดังนี้เท่ากับ พ. เป็นผู้ไปรับฝากเงินจากโจทก์โดยที่โจทก์ไม่ต้องนำเงินเข้าบัญชีด้วยตนเอง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีและผู้จัดการของจำเลยที่ 3 สาขา ลาดพร้าว ก็ทราบเรื่องที่ พ.นำเงินเข้าบัญชีโจทก์ดังกล่าว ถือว่าจำเลยทั้งสามเชิดให้ พ.เป็นตัวแทนออกไปรับฝากเงินจากลูกค้านอกสถานที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 หาก พ. ได้รับเงินจากลูกค้าผู้สั่งจ่ายเช็คเพื่อนำมาเข้าบัญชีโจทก์แล้ว ถึงแม้ พ.จะทุจริตมิได้นำเข้าบัญชีจำเลยที่ 3 ก็จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820 821
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการรับฝากเงินโดยตัวแทน แม้จะเกิดความผิดพลาดในการลงบัญชี
โจทก์เป็นลูกค้าของธนาคารจำเลยที่ 3 สาขา ลาดพร้าว ได้ติดต่อรับซื้อลดเช็คจาก พ. พนักงานฝ่ายสินเชื่อของจำเลยที่ 3 ซึ่งเช็คดังกล่าว พ. อ้างว่าเป็นของลูกค้าจำเลยที่ 3 โดยโจทก์กับ พ. แบ่งผลประโยชน์ในส่วนลดกันเมื่อเช็คถึงกำหนด พ. จะนำไปเก็บเงินจากลูกค้าแล้วนำเข้าบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ ดังนี้เท่ากับ พ. เป็นผู้ไปรับฝากเงินจากโจทก์โดยที่โจทก์ไม่ต้องนำเงินเข้าบัญชีด้วยตนเอง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีและผู้จัดการของจำเลยที่ 3 สาขา ลาดพร้าว ก็ทราบเรื่องที่ พ.นำเงินเข้าบัญชีโจทก์ดังกล่าว ถือว่าจำเลยทั้งสามเชิดให้ พ.เป็นตัวแทนออกไปรับฝากเงินจากลูกค้านอกสถานที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 หาก พ. ได้รับเงินจากลูกค้าผู้สั่งจ่ายเช็คเพื่อนำมาเข้าบัญชีโจทก์แล้ว ถึงแม้ พ.จะทุจริตมิได้นำเข้าบัญชีจำเลยที่ 3 ก็จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820821.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่รับผิดต่อความเสียหายจากการที่ตัวแทนเชิดรับฝากเงินจากลูกค้า แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการรับฝากจริง
โจทก์เป็นลูกค้าของธนาคารจำเลยที่ 3 สาขาลาดพร้าวได้ติดต่อรับซื้อลดเช็คจาก พ.พนักงานฝ่ายสินเชื่อของจำเลยที่ 3ซึ่งเช็คดังกล่าว พ.อ้างว่าเป็นของลูกค้าจำเลยที่ 3 โดยโจทก์กับ พ.แบ่งผลประโยชน์ในส่วนลดกันเมื่อเช็คถึงกำหนดพ.จะนำไปเก็บเงินจากลูกค้าแล้วนำเข้าบัญชีกระแสรายวันของโจทก์เท่ากับ พ.เป็นผู้ไปรับฝากเงินจากโจทก์โดยที่โจทก์ไม่ต้องนำเงินเข้าบัญชีด้วยตนเอง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีและผู้จัดการของจำเลยที่ 3 สาขาลาดพร้าวก็ทราบเรื่องที่ พ.นำเงินเข้าบัญชีโจทก์ ถือว่าจำเลยทั้งสามเชิดให้ พ. เป็นตัวแทนออกไปรับฝากเงินจากลูกค้านอกสถานที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 821 หาก พ. ได้รับเงินจากลูกค้าผู้สั่งจ่ายเช็คเพื่อนำมาเข้าบัญชีโจทก์แล้ว ถึงแม้ พ. จะทุจริตมิได้นำเข้าบัญชีจำเลยที่ 3 ก็จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม มาตรา 820,821
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดของธนาคารต่อการกระทำของตัวแทนเชิดในการรับฝากเงิน และผลของการนำเช็คที่ไม่มีผู้สั่งจ่ายที่แท้จริงไปขึ้นเงิน
โจทก์เป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยที่ 3 สาขาลาดพร้าวได้ติดต่อรับซื้อลดเช็คจาก พ. พนักงานฝ่ายสินเชื่อของจำเลยที่ 3 ซึ่งเช็คดังกล่าว พ. อ้างว่าเป็นของลูกค้าจำเลยที่ 3 โดยโจทก์กับ พ. แบ่งผลประโยชน์ในส่วนลดกัน เมื่อเช็คถึงกำหนด พ. จะนำไปเก็บเงินจากลูกค้าแล้วนำเข้าบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ ดังนี้ เท่ากับ พ. เป็นผู้ไปรับฝากเงินจากโจทก์โดยที่โจทก์ไม่ต้องนำเงินเข้าบัญชีด้วยตนเองจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีและผู้จัดการของจำเลยที่ 3 สาขาลาดพร้าว ก็ทราบเรื่องที่ พ. นำเงินเข้าบัญชีโจทก์ดังกล่าว ถือว่าจำเลยทั้งสามเชิดให้ พ. เป็นตัวแทนออกไปรับฝากเงินจากลูกค้านอกสถานที่ตาม ป.พ.พ.มาตรา 821 หาก พ. ได้รับเงินจากลูกค้าผู้สั่งจ่ายเช็คเพื่อนำมาเข้าบัญชีโจทก์แล้ว ถึงแม้ พ. จะทุจริตมิได้นำเข้าบัญชี จำเลยที่ 3 ก็จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา820,821.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอพิสูจน์ความผิด จำเลยได้รับการยกฟ้อง
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลคงมีแต่เพียงคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายทั้งสามที่ได้กระทำลับหลังจำเลย กับคำเบิกความของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม และพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเพียงพยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้ายเท่านั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังว่าจำเลยกระทำผิด เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานเบิกความต่อศาล
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลคงมีแต่เพียงคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายทั้งสามที่ได้กระทำลับหลังจำเลย กับคำเบิกความของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม และพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเพียงพยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้ายเท่านั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์: การครอบครองต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิเดิม ทำให้สิทธิครอบครองเดิมขาดอายุความ
โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แม้จำเลยได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นการยอมรับสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์แล้วก็ตาม แต่อีกสองเดือนถัดมาจำเลยก็ได้คัดค้าการที่ทางราชการจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาท และจำเลยได้เข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทตลอดมาเช่นนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนภายใน 1 ปีย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทำประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิ การฟ้องคืนสิทธิที่ดินต้องทำภายใน 1 ปี
จำเลยเป็นฝ่ายเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทแต่ฝ่ายเดียว แม้จำเลยได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นการยอมรับสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ แต่อีกสองเดือนถัดมาจำเลยก็ได้คัดค้านการที่ทางราชการจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาท เช่นนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนภายใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตาม ป.พ.พ.มาตรา 1375.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์: การครอบครองต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิเดิมทำให้เกิดอายุความ
โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แม้จำเลยได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นการยอมรับสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์แล้วก็ตาม แต่อีกสองเดือนถัดมาจำเลยก็ได้คัดค้าการที่ทางราชการจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาท และจำเลยได้เข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทตลอดมาเช่นนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนภายใน 1 ปีย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจเงินทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบของกลางที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
จำเลยที่ 1 ประกอบธุรกิจเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ในรูปบริษัทมหาชน จำกัด โดยไม่ได้รับความเห็นชอบและไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินทุนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ความผิดของจำเลยที่ 1เกิดขึ้นเนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ฉะนั้นของกลางซึ่งเป็นสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาให้กู้ยืมเงินสมุดบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ไม่ใช่ของที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงริบไม่ได้.