พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินประทานบัตรสิ้นอายุ: ผู้รับโอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จนกว่าจะได้รับประทานบัตรใหม่
ประทานบัตรของโจทก์หมดอายุแล้ว โจทก์ยังไม่ได้รับประทานบัตรใหม่ เพียงแต่เจ้าพนักงานรับเรื่องขอประทานบัตรใหม่ของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาทได้ เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้วและจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความ คดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินประทานบัตรหมดอายุ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ จนกว่าจะได้รับประทานบัตรใหม่
ประทานบัตรของโจทก์หมดอายุแล้ว โจทก์ยังไม่ได้รับประทานบัตรใหม่ เพียงแต่เจ้าพนักงานรับเรื่องขอประทานบัตรใหม่ของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาท และไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาทได้
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้ว และจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความคดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้ว และจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความคดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่ vs. สิทธิครอบครองที่ดิน: ประทานบัตรไม่สร้างสิทธิในที่ดิน การต่ออายุประทานบัตรล่าช้าทำให้สิทธิทำเหมืองแร่สิ้นสุด
ประทานบัตรที่โจทก์มีอยู่เดิมนั้นออกโดยพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ.2461 ซึ่งมาตรา 51 บัญญัติว่าประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้าม หรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินในเขตที่ได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่นั้นเลยคงเพียงให้ขุดล้างแร่ได้เท่านั้นแม้โจทก์จะเคยได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ในเขตที่ดินอันรวมถึงที่พิพาทด้วยแต่โจทก์ยื่นคำขอต่ออายุเกินกำหนดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีจึงสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ และแนะนำให้โจทก์ยื่นขอประทานบัตรใหม่ การขอประทานบัตรใหม่โดยยังมิได้รับประทานบัตรนั้น โจทก์ยังไม่มีสิทธิใดๆ ในที่พิพาทเท่ากับโจทก์ยื่นเรื่องราวขออนุญาตทำเหมืองแร่ใหม่เหมือนบุคคลทั่วๆ ไปเมื่อได้ความว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่จำเลยได้มาโดยการจับจองเมื่อ พ.ศ.2492 ได้รับใบเหยียบย่ำเมื่อ พ.ศ.2493 จำเลยได้แจ้งการครอบครองและทางการได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยแล้ว จำเลยได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ตลอดมาทุกปีปลูกข้าว มันสำปะหลังและยางพารา กรีดน้ำยางได้มา 10 ปีเศษแล้วดังนี้จำเลยย่อมมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ และย่อมมีสิทธิคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่ว่าประทานบัตรที่โจทก์ขอใหม่นั้นทับที่ของจำเลยซึ่งครอบครองและมี น.ส.3 แล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ห้ามจำเลยและขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านนั้น(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1889/2514 และที่ 1890/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่ vs. สิทธิครอบครองที่ดิน: ประทานบัตรไม่สร้างสิทธิในที่ดิน การครอบครองโดยชอบธรรมมีน้ำหนักกว่า
ประทานบัตรที่โจทก์มีอยู่เดิมนั้นออกโดยพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ.2461 ซึ่งมาตรา 51 บัญญัติว่า ประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้าม หรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินในเขตที่ได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่นั้นเลย คงเพียงให้ขุดล้างแร่ได้เท่านั้น แม้โจทก์จะเคยได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ในเขตที่ดินอันรวมถึงที่พิพาทด้วย แต่โจทก์ยื่นคำขอต่ออายุเกินกำหนดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีจึงสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ และแนะนำให้โจทก์ยื่นขอประทานบัตรใหม่ การขอประทานบัตรใหม่โดยยังมิได้รับประทานบัตรนั้น โจทก์ยังไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาท เท่ากับโจทก์ยื่นเรื่องราวขออนุญาตทำเหมืองแร่ใหม่เหมือนบุคคลทั่ว ๆ ไป เมื่อได้ความว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่จำเลยได้มาโดยการจับจองเมื่อ พ.ศ.2492 ได้รับใบเหยียบย่ำเมื่อ พ.ศ.2493 จำเลยได้แจ้งการครอบครองและทางการได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยแล้ว จำเลยได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ตลอดมาทุกปี ปลูกข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา กรีดน้ำยางได้มา 10 ปีเศษแล้ว ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ และย่อมมีสิทธิคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่ว่าประทานบัตรที่โจทก์ขอใหม่นั้นทับที่ของจำเลยซึ่งครอบครองและมี น.ส.3 แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ห้ามจำเลยและขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านนั้น
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1889/2514 และที่ 1890/2514)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1889/2514 และที่ 1890/2514)