พบผลลัพธ์ทั้งหมด 345 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวโจทก์ และการพิพากษาคดีซื้อขายถ่านหิน
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเหลือเพียงรอฟังคำพิพากษาเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 86 วรรคท้าย และ 187 จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดแต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์ และการคิดดอกเบี้ยจากวันผิดนัด
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเพียงรอฟัง คำพิพากษา เพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย และ 187
จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดรถยนต์โดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อละเมิดต่อโจทก์
รถยนต์คันพิพาทเป็นรถยนต์ที่ประกอบดัดแปลงโดยใช้ชิ้นส่วนเก่าภายในประเทศ มิใช่รถยนต์ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาภายในประเทศหรือมีการลักลอบนำแค้ปของรถยนต์คันพิพาทเข้ามาภายในประเทศโดยไม่เสียภาษี จำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจที่จะยึดรถคันพิพาทของโจทก์ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อในการยึดรถยนต์คันพิพาทอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดรถยนต์โดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อ ละเมิดสิทธิเจ้าของรถ
รถยนต์คันพิพาทเป็นรถยนต์ที่ประกอบดัดแปลงโดยใช้ชิ้นส่วนเก่าภายในประเทศ มิใช่รถยนต์ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาภายในประเทศหรือมีการลักลอบนำแค้ปของรถยนต์คันพิพาทเข้ามาภายใน ประเทศโดยไม่เสียภาษีจำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจที่จะยึดรถคันพิพาทของโจทก์ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อในการยึดรถยนต์คันพิพาทอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5097/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองทรัพย์มีสิทธิฟ้องยักยอกทรัพย์ แม้มิใช่เจ้าของ
ผู้ครอบครองทรัพย์ แม้มิใช่เป็นเจ้าของ ก็เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5043/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทจากหนี้ผิดกฎหมาย: ผู้ออกเช็คไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เมื่อเช็คพิพาทออกในมูลหนี้กู้ยืมเงินและมีดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดรวมอยู่ด้วย แม้ต่อมาธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ผู้ออกเช็คก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5043/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทที่มีดอกเบี้ยเกินอัตรา: ผู้สั่งจ่ายไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากมูลหนี้ผิดกฎหมาย
เมื่อเช็คพิพาทออกในมูลหนี้กู้ยืมเงินและมี ดอกเบี้ย เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดรวมอยู่ด้วย แม้ต่อมาธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ผู้ออกเช็คก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 248 และแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการรื้อถอนทรัพย์สิน
ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องแย้ง โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์ เพราะจำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทที่ปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าว แต่ไม่ได้ใช้อยู่อาศัยเอง หากให้ผู้อื่นเช่าอยู่จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่ว่า จำเลยไม่ได้อยู่ในบ้านพิพาทฟังไม่ได้ จำเลยอยู่ในเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์ อันเป็นฎีกาโต้เถียงให้ศาลฎีการับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ซึ่งขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละห้าพันบาท และจำเลยไม่ได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือไม่ได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาที่ก่อให้เกิดสิทธิอยู่บนที่พิพาทนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยจึงต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาจำเลยต้องห้ามตามมาตรา 248 หลังศาลล่างพิพากษายกฟ้องแย้งในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องแย้ง โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์เพราะจำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทที่ปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าว แต่ไม่ได้ใช้อยู่อาศัยเอง หากให้ผู้อื่นเช่า จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในบ้านพิพาท ฟังไม่ได้จำเลยอยู่ในเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์อันเป็นฎีกาโต้เถียงให้ศาลฎีการับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละห้าพันบาทและจำเลยไม่ได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือไม่ได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาที่ก่อให้เกิดสิทธิอยู่บนที่พิพาทนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยจึงต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4641/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทมาตราในความผิดอาญาและการแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาที่ศาลชั้นต้นไม่รับ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335ตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป เข้าองค์ประกอบของมาตรา 335 วรรคสามศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวโดยไม่ได้ระบุวรรค ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาแก้ระบุวรรคให้ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้นได้ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ถึงปัญหานี้ เพราะมิได้เป็นการเพิ่มโทษจำเลยแต่อย่างใด แต่ที่แก้เป็นมาตรา 335 วรรคสองนั้นยังไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาย่อมแก้ให้ถูกต้องเป็นมาตรา335 วรรคสามได้ จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาข้อ ก. มาในกำหนดระยะเวลาที่จะฎีกาได้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยในข้อ ก. แล้วจึงไม่มีฎีกาในข้อ ก. ที่จะให้จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาในข้อ ก.มาจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย