คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อากาศ บำรุงชีพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,261 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์จากการประกันภัย แม้มีข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายอื่นแล้ว
แม้ข้อตกลงระหว่างพันจ่าอากาศเอก ส. กับจำเลยตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันจะมีใจความว่า พันจ่าอากาศเอก ส. ได้เรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเองและของภรรยาเป็นเงินรวม 27,500 บาทและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดอีกต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญาก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อความอีกว่า สำหรับรถยนต์ของพันจ่าอากาศเอก ส. นั้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไปทำการเจรจากันในภายหลังต่อไป แสดงว่าคู่กรณีเจตนาแยกการเรียกค่าเสียหายจากการซ่อมแซมรถยนต์ออกจากค่าเสียหายจำนวน 27,500 บาท พันจ่าอากาศเอกส. จึงไม่สูญสิทธิที่จะเรียกร้องค่าซ่อมแซมรถยนต์ในภายหลังเมื่อโจทก์ผู้รับประกันภัยรถยนต์ของพันจ่าอากาศเอก ส. ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อมแซมและชำระค่าซ่อมแซมแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของพันจ่าอากาศเอก ส. ในอันทีจะเรียกร้องเงินค่าซ่อมแซมรถยนต์จากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีร่วมกันยิงผู้เสียหายหลายคน ศาลฎีกาแก้โทษจำคุกเฉพาะความผิดฐานฆ่า
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลา เพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนซึ่งจำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบผู้ตายกับผู้เสียหายต่างแต่งกายชุดวิทยาลัยเทคนิคยะลา และยืนอยู่ใกล้กัน จึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน โดยไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยที่ยิงมีเจตนายิงเฉพาะผู้ตาย แต่เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในภายหลังเป็นพิเศษแล้วก็ต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่า จำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่สองกรรมสองกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: เจตนาเพิ่มเติมในการกระทำความผิด
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้ อาวุธปืนยิงนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคยะลา เพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนซึ่ง จำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบผู้ตายกับผู้เสียหายต่าง แต่งกาย ชุด วิทยาลัยเทคนิคยะลา และยืนอยู่ใกล้กันจึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยที่ยิงมีเจตนายิงเฉพาะ ผู้ตายแต่ เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในภายหลังเป็นพิเศษแล้ว ก็ต้อง ฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท มิใช่สองกรรมสองกระทง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า: การร่วมกระทำผิดกรรมเดียว
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลาเพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนซึ่งจำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบผู้ตายกับผู้เสียหายต่างแต่งกายชุดวิทยาลัยเทคนิคยะลาและยืนอยู่ใกล้กัน จึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยที่ยิงมีเจตนายิงเฉพาะผู้ตายแต่เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในภายหลังเป็นพิเศษแล้ว ก็ต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่สองกรรมสองกระทง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: เจตนายิงต่อเนื่องในคดีวิวาท
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้ อาวุธปืนยิงนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคยะลา เพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนซึ่ง จำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบผู้ตายกับผู้เสียหายต่าง แต่งกาย ชุด วิทยาลัยเทคนิคยะลา และยืนอยู่ใกล้กันจึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยที่ยิงมีเจตนายิงเฉพาะ ผู้ตายแต่ เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในภายหลังเป็นพิเศษแล้ว ก็ต้อง ฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท มิใช่สองกรรมสองกระทง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษ์คดีแชร์ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือของโจทก์ และการชำระหนี้ที่ครบถ้วนของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาเล่นแชร์ส่งค่าแชร์ให้โจทก์ไม่ครบ จำเลยให้การว่าได้ส่งค่าแชร์ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วประเด็นแห่งคดีคือจำเลยชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้วหรือไม่การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้นำลูกวงแชร์มาเบิกความสนับสนุนคำเบิกความของโจทก์ในเรื่องที่โจทก์ออกเงินชำระหนี้ค่าแชร์แทนจำเลย ทำให้น้ำหนักพยานของโจทก์น้อยนั้นเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยถึงข้อพิรุธของพยานหลักฐานโจทก์เพื่อชั่งน้ำหนักพยานและเป็นการวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้วหรือไม่ คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6371/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โฉนดที่ดินออกทับธรณีสงฆ์เป็นโมฆะ แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ต่อมา ผู้รับโอนก็ไม่ได้รับกรรมสิทธิ์ ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้
โฉนดที่ดินออกทับที่ธรณีสงฆ์ของวัดโจทก์เป็นการออกโฉนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีการโอนทางทะเบียน ต่อมาจนถึงจำเลยผู้มีชื่อรายสุดท้ายจำเลยผู้รับโอนก็หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ตนรับโอนไม่ และเมื่อโฉนดที่ดินออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วโจทก์จะขอให้ลงชื่อโจทก์แทนชื่อจำเลยในโฉนดดังกล่าวหาได้ไม่ และแม้โจทก์จะมิได้ขอให้เพิกถอนโฉนดดังกล่าว ศาลฎีกาก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนโฉนดดังกล่าวที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6371/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โฉนดที่ดินออกทับที่ธรณีสงฆ์เป็นโมฆะ แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ต่อมา ก็ไม่ทำให้กรรมสิทธิ์สมบูรณ์ ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้
โฉนดที่ดินออกทับที่ธรณีสงฆ์ของวัดโจทก์เป็นการออกโฉนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีการโอนทางทะเบียนต่อมาจนถึงจำเลยผู้มีชื่อรายสุดท้าย จำเลยผู้รับโอนก็หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ตนรับโอนไม่ และเมื่อโฉนดที่ดินออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์จะขอให้ลงชื่อโจทก์แทนชื่อจำเลยในโฉนดดังกล่าวหาได้ไม่และแม้โจทก์จะมิได้ขอให้เพิกถอนโฉนดดังกล่าว ศาลฎีกาก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนโฉนดดังกล่าวที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5979/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: วงเงินตกลง, การสืบสวนข้อเท็จจริง, การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย, การตีความสัญญา
จำเลยตกลงจ้างโจทก์ในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงจากภรรยาจำเลยในประเทศไทยว่า จำเลยจะถูกฟ้องข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงานหรือไม่ และขอคำแนะนำทางด้านกฎหมาย ถ้าจำเป็นก็ให้ตั้งทนายความสู้คดี โดยกำหนดจำนวนเงิน 20,000 บาท เป็นค่าจ้างเหมาในกิจการดังกล่าว การที่โจทก์สืบสวนข้อเท็จจริงให้คำปรึกษาและแนะนำแก่จำเลย เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าคู่กรณีต่างตกลงคิดค่าจ้างกันเป็นรายชั่วโมงหรือโจทก์แจ้งจำเลยขอคิดค่าจ้างนอกเหนือจากเงินจำนวน 20,000 บาทเป็นพิเศษ ต้องถือว่าจำเลยตกลงจ้างโจทก์กระทำการในวงเงิน 20,000 บาท โจทก์ไม่อาจเรียกร้องเอาเงินค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนอกวงเงินที่จำเลยกำหนด แม้เพื่อใช้จ่ายในกิจการดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5916/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำบอกเล่าผู้ตายก่อนสิ้นใจต้องเชื่อได้ว่าหมดหวังในการรอดชีวิต จึงใช้เป็นหลักฐานได้
คำบอกเล่าของผู้ตายนั้นก่อนที่จะรับฟังต้องปรากฎว่าในเวลาที่ผู้ตายต้องพูดเช่นนั้น ผู้ตายคิดว่าตนจะตายไม่มีหวังจะรอดชีวิต แต่โจทก์ไม่ได้สืบข้อความนี้ จึงฟังลงโทษจำเลยไม่ได้
of 127