พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,261 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนกิจการพร้อมหนี้สิน และผลผูกพันตามสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอก
จำเลยที่ 2 ตกลงรับโอนกิจการโรงเรียนจากจำเลยที่ 1 พร้อมกับหนี้สินของโรงเรียน และแจ้งให้เจ้าหนี้ไปขอรับชำระหนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอกรวมอยู่ด้วย เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เนื่องจากกิจการของโรงเรียนที่จำเลยที่ 2 รับโอนมาตามสัญญาดังกล่าวได้ขอรับชำระหนี้จากจำเลยที่ 2 จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามสัญญาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นแล้ว จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตามสัญญาในอันที่จะต้องชำระหนี้ให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนกิจการพร้อมหนี้สิน และสัญญาเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ ทำให้ลูกหนี้ตามสัญญาต้องผูกพันชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เดิม
จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์เนื่องจากการดำเนินกิจการโรงเรียนจำเลยที่ 2 รับโอนกิจการโรงเรียนดังกล่าวไปดำเนินการพร้อมทั้งหนี้สินของโรงเรียนและประกาศให้เจ้าหนี้ของกิจการไปขอรับชำระหนี้จากจำเลยที่ 2 ถือเป็นการตกลงที่จำเลยที่ 2 ยอมรับชำระหนี้อันเนื่องมาจากกิจการที่รับโอน มีลักษณะเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้อันเป็นบุคคลภายนอก เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาขอรับชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวจากจำเลยที่ 2 เป็นการแสดงเจตนาแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามสัญญาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นแล้ว จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตามสัญญาในอันที่จะต้องชำระหนี้ให้โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 374 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2581/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมหลอกลวงพาผู้อื่นไปค้าประเวณี โดยมีเจตนาช่วยเหลือและนัดหมายล่วงหน้า
จำเลยพาผู้เสียหายและนางสาวพ. ขึ้นรถจากอำเภอก. ไปลงที่สี่แยกอำเภอน.พบผู้หญิงคนหนึ่งรออยู่ จำเลยลงจากรถไปพบพูดกับผู้หญิงนั้นถึงครึ่งชั่วโมง โดยผู้เสียหายไม่รู้ถึง เรื่องที่พูดจากัน แล้วจำเลยให้ผู้เสียหายและนางสาวพ. ไปกับผู้หญิงนั้น ผู้หญิงคนนั้นพาผู้เสียหายและนางสาวพ. ตระเวนไปตามแหล่งที่มีผู้หญิงค้าประเวณีและพาไปที่ ซ่องโสเภณี ดังนี้ พฤติการณ์เห็นได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมิใช่เจตนาพาไปหางานที่สุจริต แต่เป็นการพาไปเพื่อให้ผู้เสียหายค้าประเวณีอันอยู่ในความหมายของคำว่าพาไปเพื่อการอนาจาร และจำเลยกับผู้หญิงนั้นได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากจำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปทำงานสุจริต ก็น่าจะพูดจากับผู้หญิงที่มารับตัวต่อหน้าผู้เสียหายให้ได้รับรู้ด้วย พฤติการณ์ของจำเลยที่ได้นัดหมายกับผู้หญิงคนนั้นให้มารับตัวผู้เสียหาย และได้มีการพูดจากันเป็นส่วนตัวก่อนที่จะพาผู้เสียหายไปเช่นนี้เป็นข้อบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยย่อมรู้แล้วว่า ผู้หญิงคนนั้นจะพาผู้เสียหายไปเพื่อการใดถือได้ว่าจำเลยมีส่วนร่วมในการหลอกลวงผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร อันเป็นตัวการในการกระทำผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิถอนคำร้องทุกข์ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวทำให้สิทธิฟ้องระงับ
(คำสั่งศาลฎีกาที่ 2573/2534) คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวและยังไม่ถึงที่สุด ผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สัญชาติไทยโดยการเกิด: การพิสูจน์ความเป็นบุตรและสถานที่เกิดมีผลต่อการได้สัญชาติ
ผู้ร้องเกิดที่ประเทศจีน มีบิดาเป็นคนสัญชาติจีน แม้มารดาจะเป็นคนสัญชาติไทย ผู้ร้องก็ไม่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทดอกเบี้ยเกินอัตรา: การออกเช็คไม่เป็นความผิด หากดอกเบี้ยผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น
เช็คพิพาทที่จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมให้แก่ อ. มีดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วย การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายย่อมเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 อ. ไม่มีสิทธิที่จะทำได้ การออกเช็ครายนี้จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว แม้ อ. จะโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วมไม่ทราบว่ามี ดอกเบี้ย เกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยก็ตาม ก็ไม่ทำให้ออกเช็คของจำเลยซึ่งไม่ผิดกฎหมายกลับเป็นผิดกฎหมายขึ้นมาอีกเพราะจำเลยจะรับผิดในทางอาญาต้องเป็นการกระทำของจำเลย มิใช่จะถือเอาข้อที่โจทก์ร่วมได้รับเช็คมาโดยไม่ทราบว่าเช็คดังกล่าวมี ดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่มาเป็นข้อกำหนดความผิดจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทดอกเบี้ยเกินอัตรา: การกระทำผิดทางอาญาต้องพิจารณาจากการกระทำของจำเลยโดยตรง
เช็คพิพาทที่จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมให้แก่ อ.มีดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วย การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายย่อมเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 อ.ไม่มีสิทธิที่จะทำได้ การออกเช็ครายนี้จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว แม้ อ.จะโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วมไม่ทราบว่ามีดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยก็ตาม ก็ไม่ทำให้การออกเช็คของจำเลยซึ่งไม่ผิดกฎหมายกลับเป็นผิดกฎหมายขึ้นมาอีก เพราะจำเลยจะรับผิดในทางอาญาต้องเป็นการกระทำของจำเลย มิใช่จะถือเอาข้อที่โจทก์ร่วมได้รับเช็คมาโดยไม่ทราบว่าเช็คดังกล่าวมีดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่มาเป็นข้อกำหนดความผิดจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2369/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน, การเช่าช่วง, ล้มละลาย, สิทธิการเช่า, การขับไล่
เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นมจำกัด ลูกหนี้แล้ว อำนาจในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ รวมทั้งการฟ้องร้องหรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ย่อมตกอยู่แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 22 ดังนั้น เมื่อมีกรณีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของบริษัทลูกหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็มีอำนาจที่จะฟ้องคดีได้ เดิมจำเลยที่ 1 ออกทุนช่วยการก่อสร้างเป็นเงินประมาณ 3 ล้านบาท แล้วบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ ตกลงให้จำเลยที่ 1เช่าตึกอาคารและโรงงานพิพาทมีกำหนด 20 ปี ซึ่งต่อมาได้มีการจดทะเบียนการเช่าไว้ตามหนังสือสัญญาเช่าลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2513ข้อตกลงให้จำเลยที่ 1 เช่ามีกำหนด 20 ปีดังกล่าว มีลักษณะเป็นการต่างตอบแทนนอกเหนือจากสัญญาเช่าที่ได้จดทะเบียนไว้ ความผูกพันระหว่างคู่กรณีจึงมิใช่เฉพาะที่ปรากฏในสัญญาเช่าเท่านั้น แต่ต้องผูกพันต่อกันในลักษณะของสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาดังนั้น ถึงแม้ต่อมาการจดทะเบียนการเช่าระหว่างบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ กับจำเลยที่ 1 จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลบทะเบียนการเช่าในคดีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัดฟ้องบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้และจำเลยที่ 1 เป็นจำเลยก็เป็นกรณีที่การเช่าที่จดทะเบียนไว้นั้นถูกลบไปเพื่อประโยชน์ของธนาคารกรุงไทย จำกัด เจ้าหนี้ผู้รับจำนอง ในการที่จะบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์จำนอง ในทางที่มิให้มูลค่าของทรัพย์จำนองต้องลดลงเพราะมีภาระติดพันในเรื่องการเช่าที่จดทะเบียนไว้เท่านั้นไม่มีผลที่จะเป็นการยกเลิกหรือเพิกถอนข้อตกลงอันเป็นการต่างตอบแทนระหว่างบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ กับจำเลยที่ 1การที่สัญญาต่างตอบแทนระหว่างคู่กรณียังมีอยู่ แม้ต่อมาบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งได้เข้ามาจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483ก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนของลูกหนี้ผู้ล้มละลายที่มีอยู่เดิม และแม้ว่าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 122ได้ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาก็ตามแต่กรณีการฟ้องคดีนี้นั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ใช้อำนาจตามบทกฎหมายดังกล่าว คงอ้างสิทธิในการขับไล่จำเลยที่ 1โดยอาศัยผลของคำพิพากษาที่ถึงที่สุดให้ลบสิทธิการเช่าจากทะเบียนเท่านั้นซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจนำมาอ้างเพื่อลบล้างหรือยกเลิกข้อตกลงอันเป็นการต่างตอบแทนระหว่างบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ผู้ล้มละลายกับจำเลยที่ 1 ได้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1เพราะสิทธิที่จะอยู่ในที่พิพาทตามสัญญาต่างตอบแทนของจำเลยที่ 1นั้นยังมีผลบังคับอยู่ กรณีนี้ สำหรับจำเลยที่ 2 โจทก์จะขอให้ขับไล่ได้หรือไม่ก็อยู่ที่ว่าจำเลยที่ 1 มีสิทธิให้เช่าช่วงทรัพย์ที่ตนมีข้อตกลงเป็นการต่างตอบแทนกับบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้หรือไม่ซึ่งตามสัญญาต่อท้ายสัญญาเช่าที่จดทะเบียนไว้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า"ผู้เช่ารับว่าจะไม่เอาสถานที่เช่านี้ไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงหรือโอนต่อไปอีกทอดหนึ่งเป็นอันขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อน" อันเป็นการแสดงว่าข้อตกลงที่เป็นการต่างตอบแทนกันระหว่างบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้กับจำเลยที่ 1 นั้น จำเลยที่ 1 จะนำทรัพย์ที่เช่าไปให้เช่าช่วงไม่ได้ เมื่อจำเลยที่ 1 นำสืบรับฟังไม่ได้ว่าบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ยินยอมให้เช่าช่วงตามสัญญาแล้วจำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะเข้ามาอยู่ในทรัพย์สินที่จำเลยที่ 1 มีสิทธิจะอยู่โดยอาศัยสัญญาต่างตอบแทน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยที่ 2 ออกไปได้ การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเรื่องค่าเสียหายไว้ว่า"ค่าเสียหายของโจทก์มีหรือไม่เพียงใด" ประเด็นที่กำหนดไว้ดังกล่าวจึงไม่มีข้อที่จะต้องวินิจฉัยว่ามีการปลดหนี้ค่าเช่าตามที่จำเลยที่ 1 ยกขึ้นมาในฎีกา เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้โต้แย้งการกำหนดประเด็นของศาลชั้นต้นไว้ถือว่าจำเลยที่ 1 ยินยอมดำเนินกระบวนพิจารณาเท่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้เท่านั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อนี้ให้ สำหรับจำเลยที่ 3 ซึ่งเช่าช่วงตึกอาคารและโรงงานพิพาทจากจำเลยที่ 2 อีกต่อหนึ่งนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิจะนำทรัพย์ของบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัด ลูกหนี้ไปให้เช่าช่วง เมื่อมีการนำไปให้เช่าช่วงจึงเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ การที่จำเลยที่ 3เข้าไปอยู่ในอาคารอันเป็นทรัพย์ของบริษัทป๊อบผลิตภัณฑ์นม จำกัดลูกหนี้ จึงเป็นการเข้าไปอยู่โดยละเมิดตั้งแต่ต้น มิใช่จะเป็นละเมิดเมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยที่ 3 ออกจากอาคาร จำเลยที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดในการที่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในอาคารที่พิพาทด้วยส่วนเรื่องค่าเสียหายที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ค่าเสียหายที่จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดเป็นหนี้รายเดียวกันกับที่จำเลยที่ 3 พิพาทกับโจทก์ในอีกคดีหนึ่งนั้น มิใช่ประเด็นที่ยกขึ้นว่ากันมาในศาลล่างทั้งสองศาลฎีกาไม่เห็นสมควรที่จะรับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งข้ามกฎหมาย: สิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน เมื่อถูกเพิกถอนแล้วมีผลในทุกกรณี
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 แล้วต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณีรวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ. 2482 ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดโดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 64 การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งขยายผลถึงการเลือกตั้งทุกประเภท จำเลยทราบดีว่าถูกเพิกถอนสิทธิแล้ว
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 แล้ว ต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณี รวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด โดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 64
การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง
การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง