คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 ม. 15

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 83 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7990/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานนำเข้า-จำหน่ายยาเสพติด พยานหลักฐานเพียงพอ ศาลยืนตามคำพิพากษา
ร้อยตำรวจเอก ป. และนายดาบตำรวจ ว. ผู้จับกุมจำเลยเป็นผู้ร่วมวางแผนล่อซื้อยาเสพติดให้โทษตามที่สายลับได้แจ้งว่ามีพ่อค้ายาเสพติดให้โทษสัญชาติลาวจะขายฝิ่นและเมทแอมเฟตามีนให้มาตั้งแต่ต้น และได้มีการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้จนสามารถจับกุมจำเลยซึ่งมีสัญชาติลาวได้พร้อมฝิ่นสุกและเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ตกลงซื้อขายกัน คำเบิกความของร้อยตำรวจเอก ป. และ นายดาบตำรวจ ว. สอดคล้องต่อเนื่องเชื่อมโยงกันในข้อสาระสำคัญโดยไม่มีข้อพิรุธตั้งแต่จำเลยได้ร่วมเจรจาตกลงซื้อขายยาเสพติดให้โทษกับสายลับและเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของประเทศสหรัฐอเมริกา กับเจ้าพนักงานตำรวจที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้า และร้อยตำรวจเอก ป. ได้ถ่ายรูปจำเลยไว้ในวันดังกล่าวด้วยซึ่งจำเลยก็ยอมรับว่ามีจำเลยอยู่ในภาพถ่ายดังกล่าวจริง นอกจากนั้นจำเลยยังร่วมตรวจสอบเงินที่ใช้ล่อซื้อ เป็นผู้บอกพวกของจำเลยให้พานายดาบตำรวจ ว. ไปรับยาเสพติดให้โทษโดยจำเลยมิได้ไปด้วย แต่รออยู่ที่ห้องพักในโรงแรมกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับมอบเงิน เมื่อนายดาบตำรวจ ว. รับมอบยาเสพติดให้โทษที่ตกลงซื้อแล้วพวกของจำเลยที่พาไปเอายาเสพติดให้โทษก็ไม่กลับไปกับนายดาบตำรวจ ว. แต่บอกให้นายดาบตำรวจ ว. นำจำเลยมาส่งที่จุดรับยาเสพติดให้โทษเมื่อจำเลยรับเงินค่ายาเสพติดแล้ว พฤติกรรมของจำเลยกับพวกดังกล่าวเห็นได้ว่ามีการวางแผนเป็นอย่างดี โดยแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อป้องกันมิให้ถูกจับกุมได้พร้อมยาเสพติดให้โทษที่ตกลงซื้อขายโดยไม่นำยาเสพติดให้โทษติดตัวมาด้วย เพื่อจำเลยจะใช้เป็นข้อต่อสู้เมื่อถูกจับกุมได้ พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยกับพวกเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7759/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำซัดทอดผู้ต้องหาอื่นไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานอื่นประกอบ หากไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน คำพิพากษาไม่น่าฟัง
เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยตามที่ อ. บอกแก่เจ้าพนักงานตำรวจว่า จำเลยเป็นผู้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ อ. จำหน่าย ในส่วนคำซัดทอดของ อ. นั้น ปรากฏว่า อ. ให้การต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาญาอื่นที่ถูกฟ้องว่าจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน กับให้ถ้อยคำต่อพนักงานคุมประพฤติผู้สืบเสาะข้อเท็จจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแสดงให้เห็นถึงการไม่อยู่กับร่องกับรอยของ อ. คำซัดทอดของอ. จึงไม่มีน้ำหนัก เมื่อโจทก์มีเพียงคำซัดทอดของ อ. เท่านั้นว่าจำเลยเป็นผู้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ อ. จำหน่าย และโจทก์ก็ไม่ได้นำ อ. มาเบิกความต่อศาล เพื่อจำเลยจะได้มีโอกาสซักค้านและนำสืบหักล้างเพื่อศาลจะได้พิจารณาคำเบิกความของ อ. ว่าน่าเชื่อถือหรือพอจะรับฟังได้หรือไม่พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักที่จะฟังว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองร่วมกับ อ. เพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7585/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐาน, ความเชื่อมโยงของวัตถุพยาน, และการพิสูจน์ความผิดทางอาญาที่ต้องปราศจากข้อสงสัย
ตามบันทึกการจับกุมระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ "WY"โดยมีนายดาบตำรวจ ว. ผู้จับกุมเบิกความสนับสนุนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางแต่ละเม็ดมีอักษร "WY" และตามคำให้การชั้นสอบสวนของนายดาบตำรวจ ว. ก็ระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางมีตัวอักษร"WY" ทั้งไม่ปรากฏเหตุผลว่าเหตุใดบัญชีของกลางซึ่งทำขึ้นโดยพนักงานสอบสวนจึงได้มีข้อความเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนของกลางคดีอาญาว่าเป็นยาเสพติดให้โทษสีม่วงมีอักษรภาษาอังกฤษ"เอ็มวาย"ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากอักษร "WY" เป็นอย่างมาก และข้อเท็จจริงที่ได้จากคำเบิกความของ ล. พยานโจทก์ซึ่งเบิกความประกอบรายงานผลการตรวจพิเคราะห์ว่าของกลางที่ได้รับมาเพื่อตรวจพิสูจน์นั้น ด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีอักษรคล้ายตัวอักษร "เอ็ม" อีกด้านหนึ่งมีตัวเลข 99 และ ล. ยังตอบคำถามติงของผู้แทนโจทก์อีกว่าอักษร "เอ็ม" บนยาเม็ดของกลางมีขนาดเกือบเต็มเม็ด ดังนี้เกี่ยวกับตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏบนเมทแอมเฟตามีนแต่ละเม็ดเป็นสัญญลักษณ์ที่ผู้จัดทำทำขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกต อันเป็นลักษณะเฉพาะของเมทแอมเฟตามีนแต่ละชนิด จึงถือว่าเป็นสาระสำคัญ หาใช่เป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดไม่ เมื่อสิ่งของดังกล่าวที่พนักงานสอบสวนส่งไปเพื่อตรวจพิสูจน์ให้ทราบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยแล้ว จึงไม่อาจนำผลการตรวจพิสูจน์มาใช้ยันจำเลยว่า วัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้ค้นพบเมทแอมเฟตามีนที่ตัวจำเลยและภายในบ้านจำเลยและโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ฟังได้ว่าวัตถุของกลางที่ยึดได้จากจำเลยเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7412/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์นำสืบพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดจำเลย แม้จำเลยรับสารภาพก็ต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุน
ในคดีอาญา เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธแล้วก็เป็นหน้าที่ของโจทก์โดยตรงที่ต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบเพื่อสนับสนุนฟ้องและพิสูจน์ให้ได้ความชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดตามฟ้อง เพราะแม้ในคดีที่จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องในความผิดที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานหนักกว่านั้น โจทก์ก็ยังมีหน้าที่นำพยานหลักฐานเข้าสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยให้ศาลรับฟังได้จนเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่งแม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134จะบัญญัติไว้ว่าถ้อยคำของจำเลยหรือผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ก็ตามแต่ถ้อยคำหรือคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนก็เป็นเพียงพยานหลักฐานของโจทก์อย่างหนึ่งที่โจทก์จะนำสืบสนับสนุนฟ้องเท่านั้น ดังนั้น ลำพังแต่คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะยกขึ้นมายันลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6856/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ ไม่ถือเป็นความผิดฐานจำหน่าย แม้มีพฤติการณ์ร่วมกันซื้อยา
โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่า จำเลยมีพฤติกรรมอย่างไรที่แสดงว่าจะนำยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ของกลางไปจำหน่ายหรือไปขาย นอกจากนั้นตามคำให้การของผู้ต้องหาที่ 1ก็ได้ความว่าเพื่อน ๆ ร่วมกันมอบเงินให้จำเลยไปหาซื้อยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์เพื่อนำไปเสพด้วยกันที่งานแต่งงานเพื่อนคนหนึ่งหาใช่จำเลยจำหน่าย จ่าย แจก หรือขายให้เพื่อนไม่พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอที่จะให้รับฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5794/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาและพฤติการณ์ร่วมกระทำความผิดค้ายาเสพติด แม้ไม่ได้ครอบครองเองก็ผิดได้
จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน และพฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลางนับแต่การที่จำเลยที่ 3 ร่วมเดินทางกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไปพบนายดาบตำรวจ พ. กับพวกซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ซื้อเมทแอมเฟตามีนที่จุดนัดพบ เมื่อนายดาบตำรวจ พ. ขอให้จำเลยที่ 1 ไปส่งมอบเมทแอมเฟตามีนที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 3 ก็ได้ร่วมเดินทางตามไปด้วย และขณะที่จำเลยที่ 1 นำเมทแอมเฟตามีนออกมาส่งมอบให้นายดาบตำรวจ พ. ตรวจนับ จำเลยที่ 3 ก็ได้นั่งล้อมวงดูอยู่ด้วย และขณะนายดาบตำรวจ พ. นับไปได้ 4 ถึง 5 เม็ด จำเลยที่ 3 ยังพูดรับรองว่าไม่ต้องนับหรอก ของที่เอามาเต็มจำนวน 200 เม็ด เช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นโดยชัดเจนว่า จำเลยที่ 3 ได้รู้เห็นและมีเจตนาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมาตั้งแต่ต้น แม้จะมิได้เป็นผู้ครอบครองเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวด้วยตนเองก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน: การพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 และ 3
เมทแอมเฟตามีน 2 ถุง จำนวน 4,000 เม็ด ฝังดินอยู่ข้างบ่อน้ำในบริเวณรั้วบ้านของจำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2 ชี้จุดที่ซุกซ่อน เมทแอมเฟตามีนให้เจ้าพนักงานตำรวจถ่ายรูปไว้ และจำเลยที่ 2 และที่ 3 เสนอให้เงินเจ้าพนักงานตำรวจ 200,000 บาท เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นสามีภริยาอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน แสดงพฤติการณ์ว่าต่างยอมรับการกระทำของแต่ละฝ่ายเป็นการกระทำของตน จึงเป็นตัวการกระทำความผิดด้วยกันในการสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5681/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง คดีแก้ไขโทษเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานผลิตและมีไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ความผิดฐานผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานผลิตซึ่งมีโทษหนักที่สุด ให้จำคุกตลอดชีวิต ลงโทษฐานจำหน่าย จำคุก 5 ปี ลดโทษหนึ่งในสามแล้วฐานผลิต จำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานจำหน่ายจำคุก 3 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีน แต่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและมีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน เช่นนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดทั้งสองข้อหาตรงกันกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น การที่ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษในความผิดฐานนี้ ความผิดฐานนี้จึงมีการแก้ไขเฉพาะโทษ ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ส่วนความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น ความผิดทั้งสองฐานศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกกระทงละไม่เกิน ห้าปี จึงเป็นคดีต้องห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5397/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานต้องชัดเจนถึงเจตนา
จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีบ้านอยู่ใกล้กัน จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยจำเลยที่ 2 นั่งอยู่ด้วยในขณะที่ อ. เข้ามาพูดคุยกับจำเลยที่ 2จำเลยที่ 1 ย่อมทราบเรื่องดี เมื่อจำเลยที่ 2 รับสิ่งของแล้ว จำเลยที่ 1ก็ขับรถยนต์ออกไป เช่นนี้แสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 1 ทราบรายละเอียดของการที่ตนขับรถยนต์พาจำเลยที่ 2 มายังสถานที่เกิดเหตุเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เมื่อ อ. นำเมทแอมเฟตามีนมาส่งให้จำเลยที่ 2ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการในการรับมอบเมทแอมเฟตามีนนั้นร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วยโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีไว้ในครอบครองซึ่งเมทแอมเฟตามีนนั้น
สำหรับความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นโจทก์มีเพียงคำรับในชั้นจับกุมของจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับคำรับของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนเท่านั้น โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำการใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งยังไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 15 วรรคสองกรณียังถือไม่ได้ว่าเป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2424/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: เจตนาสำคัญกว่าปริมาณ หากมีหลักฐานการจำหน่ายแล้วไม่ต้องอาศัยข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย
บทบัญญัติมาตรา 15 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มีความหมายว่าถ้าผู้ครอบครองยาเสพติดให้โทษมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ 20 กรัมขึ้นไป กฎหมายให้สันนิษฐานโดยเด็ดขาดว่าเป็นการครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย แม้จำเลยจะมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 7 เม็ด และไม่ปรากฏว่าคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เพียงใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายก็เป็นความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,66 วรรคหนึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าข้อสันนิษฐานตามมาตรา 15 วรรคสอง
of 9