คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประชา บุญวนิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3975/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การโอนสิทธิจากผู้ไม่เป็นเจ้าของ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือ และสิทธิเรียกร้องคืน
แม้จำเลยซื้อที่ดินพิพาทจากผู้ขายและเข้าอยู่ในที่ดินพิพาทแล้วก็ตาม เมื่อปรากฏว่าผู้ขายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท เป็นแต่เพียงผู้อาศัยสิทธิของโจทก์อยู่ในที่พิพาท จำเลยย่อมไม่ได้สิทธิครอบครองที่พิพาท เพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีไปกว่าผู้โอน จำเลยคงมีสิทธิเท่าที่ผู้ขายมีอยู่ จึงเท่ากับอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์เช่นกัน ดังนั้น จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทนานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง เว้นแต่จะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
จำเลยเพิ่งโต้แย้งสิทธิโจทก์ซึ่งถือว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาท ซึ่งนับถึงวันฟ้องแล้วยังไม่เกิน 1 ปี โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเอาคืนที่ดินพิพาทจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3952/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คมีมูลหนี้จากการเล่นแชร์: การรับชำระหนี้โดยนายวงแชร์ทำให้ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรง
ข้อตกลงในการเล่นแชร์มีว่า เมื่อลูกวงแชร์คนใดประมูลได้จะต้องออกเช็คมอบให้ ส. นายวงแชร์เพื่อนำไปแลกเงินสดจากลูกวงแชร์ที่ยังมิได้ประมูลทุก ๆ คน แล้ว ส. จะนำมามอบให้ผู้ที่ประมูลได้ ถ้ายังได้เงินไม่ครบ ส. นายวงแชร์จะต้องรับผิดดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ส. ได้นำเช็คของจำเลยจาก อ. ลูกวงแชร์ผู้ประมูลได้ไปแลกเงินสดจากโจทก์มา 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้นำเงินมาให้ อ. เพราะยังรวบรวมเงินได้ไม่ครบทุกมือ ก็ถือได้ว่า อ. ได้รับเงินจากโจทก์แล้ว เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้เมื่อเช็คเบิกเงินไม่ได้ จำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3952/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คมีมูลหนี้เมื่อมีการแลกเงินตามข้อตกลงในวงแชร์ แม้เงินยังไม่ครบถึงมือผู้รับเช็ค ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิด
ข้อตกลงในการเล่นแชร์มีว่า เมื่อลูกวงแชร์คนใดประมูลได้จะต้องออกเช็คมอบให้ ส. นายวงแชร์เพื่อนำไปแลกเงินสดจากลูกวงแชร์ที่ยังมิได้ประมูลทุก ๆ คน แล้ว ส. จะนำมามอบให้ผู้ที่ประมูลได้ ถ้ายังได้เงินไม่ครบ ส. นายวงแชร์จะต้องรับผิดดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ส.ได้นำเช็คของจำเลยจากอ. ลูกวงแชร์ผู้ประมูลได้ไปแลกเงินสดจากโจทก์มา 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้นำเงินมาให้ อ. เพราะยังรวบรวมเงินได้ไม่ครบทุกมือ ก็ถือได้ว่า อ. ได้รับเงินจากโจทก์แล้ว เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้เมื่อเช็คเบิกเงินไม่ได้ จำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการใช้ประโยชน์ที่ดินติดกัน และการก่อสร้างรุกล้ำเขตที่ดิน การก่อสร้างในที่ดินของตนเองย่อมชอบธรรม
ที่ดินของจำเลยอยู่ชิดผนังตึกของโจทก์ จำเลยชอบที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินของตนได้ จำเลยได้สร้างคันหินคอนกรีตกับกำแพงซ้อนคันหินและหลังคาในที่ดินของจำเลย ซึ่งแม้จะปิดช่องหน้าต่างของโจทก์แต่มิได้รุกล้ำที่ดินโจทก์ อาคารของโจทก์ก็สร้างผนังตึกชิดติดแนวเขตที่ดินจำเลย ซึ่งโจทก์ย่อมคาดหมายได้ว่าฝาผนังตึกของโจทก์ย่อมมีสภาพเหมือนเป็นกำแพงรั้วกั้นเขตที่ดินโจทก์และจำเลยจำเลยย่อมใช้ประโยชน์จากฝาผนังตึกนี้ได้ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเปิดหน้าต่างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย และไม่มีสิทธิเปิดช่องทางเดินผ่านไปยังที่ดินของจำเลย การที่จำเลยได้ทำการก่อสร้างดังกล่าว แม้จะทำให้โจทก์ไม่สามารถเปิดหน้าต่างชั้นลอยด้านที่ติดกับที่ดินของจำเลยและไม่สามารถใช้ช่องทางผ่านเข้าออกสู่ที่ดินของจำเลยได้ ก็ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ และไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต แม้การก่อสร้างของจำเลยจะไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายไม่เกี่ยวกับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3938/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการรับฎีกา: ศาลชั้นต้นทำหน้าที่แทนศาลฎีกา การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาโดยตรง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยก คำร้อง ของจำเลยในกระบวนพิจารณาชั้นรับฎีกา เป็นกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นทำแทนศาลฎีกา หากจำเลยไม่พอใจก็ชอบที่จะร้องอุทธรณ์คำสั่ง ดังกล่าวต่อศาลฎีกาโดยตรงที่จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นได้ส่งอุทธรณ์ของจำเลยตรงมายังศาลฎีกานั้น พอถือได้ว่าจำเลยได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาที่จำเลยอุทธรณ์มานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3860/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทย แม้บิดามารดาถูกถอนสัญชาติภายหลัง สิทธิสัญชาติของบุตรยังคงอยู่
การที่จำเลยที่ 1 อ้างว่า โจทก์ที่ 1 เป็นคนต่างด้าว ถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นบุตร จึงถูกถอนสัญชาติไทยด้วย และไม่ยอมออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่โจทก์ที่ 4 ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิเรื่องสัญชาติของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 แล้ว โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5จึงมีอำนาจฟ้อง บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยจะถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 นั้นจะต้องปรากฏว่าบุคคลนั้นมีบิดาเป็นคนต่างด้าว หรือมารดาเป็นคนต่างด้าว แต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย การที่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยขณะที่เกิดนั้นโจทก์ที่ 1 ผู้เป็นมารดาเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7(3) โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5จึงได้สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทยด้วย แม้ภายหลังโจทก์ที่ 1 ถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337ก็หาเป็นผลให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ต้องถูกถอนสัญชาติไทยไปด้วยไม่ การจะออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ใดนั้นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องพิจารณาว่าผู้ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามกฎหมายเสียก่อนศาลจึงไม่อาจบังคับให้จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่โจทก์ที่ 4 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3856/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบงานล่าช้า สิทธิเรียกเบี้ยปรับ และการสงวนสิทธิของคู่สัญญา
คณะกรรมการตรวจการจ้างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก.ผู้ว่าจ้างตั้งขึ้นเพื่อตรวจรับมอบงานที่โจทก์ได้ทำตามสัญญาจ้างว่าถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ แล้วเสนอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. นั้น ไม่มีอำนาจในการที่จะสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับโจทก์เท่านั้นที่มีอำนาจที่จะรับมอบงานจากโจทก์หรือไม่ เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก.ได้เรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญาโดยหักจากเงินค่าจ้างแสดงว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก.หาได้ยอมรับมอบงานโดยมิได้อิดเอื้อน อันจะทำให้โจทก์พ้นจากความรับผิดในการส่งมอบเนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 597 ไม่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. แจ้งแก่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ที่ให้มารับเงินแทนว่าจะหักเงินค่าปรับจากเงินค่าจ้าง ถือว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 แล้วจำเลยผู้เข้าเป็นคู่ความแทนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงมีสิทธิเรียกเบี้ยปรับจากโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3856/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าปรับจากการส่งมอบงานล่าช้า การสงวนสิทธิ และการรับมอบงาน
คณะกรรมการตรวจการจ้างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ผู้ว่าจ้างตั้งขึ้นเพื่อตรวจรับมอบงานที่โจทก์ได้ทำตามสัญญาจ้างว่าถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ แล้วเสนอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก, นั้น ไม่มีอำนาจในการที่จะสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ซึ่งเป็นคู่สัญญากับโจทก์เท่านั้นที่มีอำนาจที่จะรับมอบงานจากโจทก์หรือไม่
เมื่อโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ไปขอรับเงินค่าจ้าง องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ได้เรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญา แสดงว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. หาได้ยอมรับมอบงานโดยมิได้อิดเอื้อนอันจะทำให้โจทก์พ้นจากความรับผิดในการส่งมอบเนิ่นช้าตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 597 ไม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. แจ้งแก่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ที่ให้มารับเงินแทนว่าจะหักเงินค่าปรับจากเงินค่าจ้าง ถือว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 แล้ว จำเลยจึงมีสิทธิเรียกเบี้ยปรับจากโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3847/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การด่าทอหยาบคายและประพฤติไม่เคารพผู้ให้
จำเลยที่ 2 ด่าโจทก์ซึ่งเป็นมารดาว่า "เจ้าหยังมาหน้าเข่งแท่ อีหน้าบ่อมีสกุล หน้าบ่อมีสกุลลูกเฒ่าใสมึงอยากเกือกเลือดตี" คำว่า "อีหน้าบ่อมีสกุล" มีความหมายในตัวเป็นที่ทราบได้โดยทั่วไปว่าคนที่ถูกด่าหมายถึงคนนั้นตระกูลเลวทรามหรือคนเกิดมาไม่มีตระกูล และด่าโจทก์อีกว่า"อีหมอความใหญ่ มึงมีเงินพอกระสอบบ่อ ไปซื้อขี้ให้หมากินดีกว่า" เป็นถ้อยคำที่กล่าวไปถึงสัตว์เดรัจฉาน ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์ผู้เป็นบุพการี หามีความเคารพยำเกรงตามวิสัยของบุตรทั่วไปไม่ เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์มารดาอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) โจทก์เรียกทรัพย์ที่ให้จำเลยที่ 2 โดยเสน่หาคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3847/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากประพฤติเนรคุณ การด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายถือเป็นการหมิ่นประมาท
จำเลยที่ 2 ค่าโจทก์ซึ่งเป็นมารดาว่า "เจ้าหยังมาหน้าเข่งแห่อีหน้าบ่อมีสกุล หน้าบ่อมีสกุลลูกเฒ่าใสมึงอยากเกือกเลือดดี" คำว่า "อีหน้าบ่อมีสกุล" มีความหมายในตัวเป็นที่ทราบได้โดยทั่วไปว่าคนที่ถูกด่าหมายถึงคนนั้นมีตระกูลเลวทราบหรือเป็นคนเกิดมาไม่มีตระกูล และด่าโจทก์อีกว่า "อีหมอความใหญ่ มึงมีเงินพอกระสอบบ่อไปซื้อขี้ให้หมากินดีกว่า" เป็นถ้อยคำที่กล่าวไปถึงสัตว์เดรัจฉาน ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์ผู้เป็นบุพการี หามีความเคารพยำเกรงตามวิสัยของบุตรทั่วไปไม่ เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์มารดาอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) โจทก์เรียกทรัพย์ที่ให้จำเลยที่ 2 โดยเสน่หาคืนได้
of 64