พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3020/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินบำเหน็จข้าราชการได้รับการคุ้มครองจากการบังคับคดี หากยังมิได้ปะปนกับเงินอื่น
จำเลยมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเนื่องจากลาออกจากราชการ และจำเลยเพิ่งได้รับเงินบำเหน็จมาจากเจ้าหน้าที่การเงินโดยที่เงินบำเหน็จนั้นยังมิได้ปะปนกับเงินอื่นของจำเลยจนแยกไม่ออกเช่นนี้ โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินบำเหน็จดังกล่าวจากจำเลยเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3020/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินบำเหน็จข้าราชการได้รับการคุ้มครองจากการบังคับคดี หากยังไม่ได้ปะปนกับเงินอื่น
จำเลยมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเนื่องจากลาออกจากราชการและจำเลยเพิ่งได้รับเงินบำเหน็จมาจากเจ้าหน้าที่การเงินโดยที่เงินบำเหน็จนั้นยังมิได้ปะปนกับเงินอื่นของจำเลยจนแยกไม่ออกเช่นนี้ โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินบำเหน็จดังกล่าวจากจำเลยเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาหาได้ไม่.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2532)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2532)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกันและยังไม่ได้แบ่งปัน ทำให้คดีไม่ขาดอายุความแม้ฟ้องเกิน 1 ปี
หลังจากเจ้ามรดกตาย โจทก์จำเลยซึ่งเป็นทายาทได้ตกลงเรื่องทรัพย์มรดกโดยให้ขายที่ดินบางส่วนนำเงินมาทำศพเจ้ามรดกนอกจากนี้บุตรโจทก์ก็ได้เข้าไปไถที่นามรดก ถือได้ว่าโจทก์ได้ร่วมครอบครองทรัพย์มรดกกับจำเลย โดยยังมิได้แบ่งปันทรัพย์มรดกกันเป็นสัดส่วน แม้โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การครอบครองทรัพย์มรดกโดยทายาทร่วมกันทำให้คดีไม่ขาดอายุความ แม้ฟ้องเกิน 1 ปี
หลังจากเจ้ามรดกตาย โจทก์จำเลยซึ่งเป็นทายาทได้ตกลงเรื่องทรัพย์มรดกโดยให้ขายที่ดินบางส่วนนำเงินมาทำศพเจ้ามรดกนอกจากนี้บุตรโจทก์ก็ได้เข้าไปไถที่นามรดก ถือได้ว่าโจทก์ได้ร่วมครอบครองทรัพย์มรดกกับจำเลย โดยยังมิได้แบ่งปันทรัพย์มรดกกันเป็นสัดส่วน แม้โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาด: ผู้ซื้อมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย และมีสิทธิขอคืนเงินที่ชำระแล้ว
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาด ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ดังกล่าวได้เมื่อผู้ร้องไปทำการจดทะเบียนโอนที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องเจ้าพนักงานที่ดินได้เรียกเก็บภาษีเงินได้จากผู้ร้อง ผู้ร้องได้ชำระภาษีเงินได้จากการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์และค่าอากรแสตมป์แก่เจ้าพนักงานที่ดิน เมื่อประกาศขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ร้องประมูลซื้อได้ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าให้ผู้ซื้อเป็นผู้เสียภาษีเงินได้ ผู้ร้องจึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้จากการขายทอดตลาด และมีสิทธิขอรับเงินที่ได้ชำระภาษีเงินได้คืนโดยให้หักจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด ส่วนค่าอากรแสตมป์ได้กำหนดเงื่อนไขในการขายทอดตลาดให้ผู้ซื้อต้องเสียค่าธรรมเนียมเองและตามหนังสือที่ศาลชั้นต้นแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ร้องก็ระบุว่าค่าอากรแสตมป์การขายให้เรียกเก็บจากผู้ร้อง ดังนั้นผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าอากรแสตมป์คืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2935/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยของเด็กเกิดในไทยจากมารดาถูกเพิกถอนสัญชาติ การพิสูจน์สถานะทางกฎหมาย และสิทธิในการออกบัตรประจำตัวประชาชน
จำเลยที่ 1 ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ยอมออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่โจทก์ที่ 1และไม่ยอมให้โจทก์ที่ 2 ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนโดยอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าว ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิเรื่องสัญชาติของโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง การที่บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยจะถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ได้จะต้องปรากฏว่า บุคคลนั้นมีบิดาเป็นคนต่างด้าวหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น เมื่อโจทก์ทั้งสามเกิดในราชอาณาจักรไทยในขณะที่มารดายังคงเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ และมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนสัญชาติไทย หาใช่โจทก์ทั้งสามเกิดจากมารดาซึ่งเป็นคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายไม่ ดังนั้น แม้ภายหลังมารดาโจทก์ถูกเพิกถอนสัญชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337ข้อ 1(3) โจทก์ทั้งสามก็ไม่ใช่บุคคลที่ต้องถูกเพิกถอนสัญชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ข้อ 1 โจทก์จึงยังคงเป็นบุคคลสัญชาติไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผูกพันตามเช็คพิพาท แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ไม่ทำให้คดีเสีย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลัง เป็นอาวัล แม้โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 2 นำเช็คของจำเลยที่ 1 มาชำระหนี้ของจำเลยที่ 2 เองต่อโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังไว้เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คและจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คแล้วเป็นอันถือได้ว่าจำเลยที่ 2 มีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คพิพาทแม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้าง ก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผูกพันตามเช็ค: แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องก็ไม่ทำให้คดีเสีย หากจำเลยลงลายมือชื่อสลักหลัง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลัง เป็นอาวัล แม้โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 2 นำเช็คของจำเลยที่ 1 มาชำระหนี้ของจำเลยที่ 2เองต่อโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังไว้เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คและจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คแล้วเป็นอันถือได้ว่าจำเลยที่ 2 มีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คพิพาทแม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้าง ก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดี: ตราประทับบริษัทใช้ได้แม้ขนาดเล็กกว่าที่จดทะเบียน หากเป็นตราที่ใช้ในกิจการทั่วไป
ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดีโดยใช้ตราบริษัทที่จดทะเบียน แม้ขนาดเล็กกว่าก็ใช้ได้หากเป็นตราที่ใช้ประจำ
ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว