พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการคืนเงินค่าที่ดินและค่าใช้จ่ายในการจัดสรร
จำเลยตกลงขายที่ดินให้โจทก์นำไปจัดสรรขาย โดยอนุญาตให้โจทก์เข้าไปดำเนินการแบ่งแยกเป็นแปลงย่อยและขายที่ดินที่แบ่งแยกได้ เพื่อนำเงินมาชำระราคาที่ดินให้จำเลย เมื่อชำระครบถ้วนแล้วจำเลยจะไปทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนให้แก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันจัดสรรที่ดินขาย โดยโจทก์ลงทุนปรับปรุงที่ดินจำเลยลงทุนเป็นที่ดิน จำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงฟ้องเรียกเงินที่ลงทุนไปคืน ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาซื้อขายซึ่งตกเป็นโมฆะ ให้จำเลยคืนเงินค่าที่ดินที่โจทก์ชำระไปแล้ว เป็นการพิพากษานอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง นิติกรรมอันเป็นโมฆะที่คู่กรณีกลับคืนยังฐานะเดิม จะต้องเป็นนิติกรรมที่เป็นโมฆียะแล้วมีการบอกล้าง มิใช่นิติกรรมที่เป็นโมฆะมาแต่แรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การผลิตและครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกัน
กัญชาแห้งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นกัญชาแห้งจำนวนเดียวกันกับกัญชาแห้งถุงใหญ่ที่จำเลยผลิตโดยการแบ่งบรรจุเป็นถุงเล็กเพื่อสะดวกในการจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตและครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกัน
กัญชาแห้งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นกัญชาแห้งจำนวนเดียวกันกับกัญชาแห้งถุงใหญ่ที่จำเลยผลิตโดยการแบ่งบรรจุเป็นถุงเล็กเพื่อสะดวกในการจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การผลิตและครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกัน
กัญชาแห้งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นกัญชาแห้งจำนวนเดียวกันกับกัญชาแห้งถุงใหญ่ที่จำเลยผลิตโดยการแบ่งบรรจุเป็นถุงเล็กเพื่อสะดวกในการจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์หนังสือมอบอำนาจ: การกระทำครั้งเดียว vs. หลายครั้ง และขอบเขตอำนาจที่มอบให้
ฎีกาของจำเลยที่ว่าโจทก์ปิดอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ครบถ้วน เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยไม่ได้ให้การเป็นประเด็นและไม่ได้อุทธรณ์ซึ่งถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม จำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นฎีกาได้ การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนที่โจทก์ผู้มอบอำนาจระบุข้อความในหนังสือมอบอำนาจว่า ให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์ เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องการถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายความและรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลนั้น เป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณาของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีที่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์เสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์ในการมอบอำนาจฟ้องคดี: การพิจารณาอำนาจกระทำการครั้งเดียวและการแต่งทนายความ
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนที่โจทก์ผู้มอบอำนาจระบุข้อความในหนังสือมอบอำนาจว่า ให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง การถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายความและรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลนั้นเป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณา ของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีที่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์ผู้มอบอำนาจเสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม และสิทธิเรียกร้องเงินคืนหลังชำระหนี้
โจทก์จำเลยตกลง ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถ้า โจทก์เห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไรก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาให้ศาลสูงแก้ไขได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 โจทก์จะมายื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเพิกถอนคำพิพากษาของศาลนั้นเองไม่ได้ เพราะคำพิพากษามีผลผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ได้อ่านแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาตามยอมมีผลผูกพันคู่ความ การแก้ไขต้องใช้วิธีอุทธรณ์ฎีกา ไม่ใช่ฟ้องใหม่
โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถ้าโจทก์เห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร ก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาให้ศาลสูงแก้ไขได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 โจทก์จะมายื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเพิกถอนคำพิพากษาของศาลนั้นเองไม่ได้ เพราะคำพิพากษามีผลผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ได้อ่านแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม การอุทธรณ์ และการฟ้องเพิกถอน
โจทก์จำเลยตกลง ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถ้า โจทก์เห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไรก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาให้ศาลสูงแก้ไขได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 โจทก์จะมายื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเพิกถอนคำพิพากษาของศาลนั้นเองไม่ได้ เพราะคำพิพากษามีผลผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ได้อ่านแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และดุลพินิจเจ้าพนักงานบังคับคดีในการรักษาสินทรัพย์ยึด
จำเลยชำระหนี้ตาม คำพิพากษาให้กับ ส. ภริยาโดยชอบด้วย กฎหมายของโจทก์ แต่ ส. ไม่ได้เป็นตัว เจ้าหนี้และไม่เป็นผู้มีอำนาจรับชำระหนี้แทนโจทก์ นอกจากนี้ ส. ไม่ได้อยู่ร่วมกับโจทก์และในวันที่ ส. รับชำระหนี้โจทก์ก็ไม่ได้อยู่รู้เห็นด้วย จึงหาเป็นการแสดงว่าโจทก์ให้ ส. รับชำระหนี้แทนและเป็นการให้สัตยาบันในการชำระหนี้ไม่ การชำระหนี้ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมอบทรัพย์สินที่ยึดมาจากลูกหนี้ให้ผู้ใดรักษาเป็นดุลพินิจ ของเจ้าพนักงานบังคับคดี.
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมอบทรัพย์สินที่ยึดมาจากลูกหนี้ให้ผู้ใดรักษาเป็นดุลพินิจ ของเจ้าพนักงานบังคับคดี.