คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประชา บุญวนิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจปลอมมีผลให้สัญญาประกันเป็นโมฆะ ศาลต้องไต่สวนเพื่อพิสูจน์ความจริง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ร้องตามสัญญาประกัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่เคยประกันหรือมอบให้ผู้ใดประกันจำเลย ผู้ร้องได้นำหนังสือมอบอำนาจให้ทำนิติกรรมขายที่ดินตามแบบพิมพ์ของกรมที่ดินซึ่งผู้ร้องลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจ มอบให้ จ.ผู้ซื้อที่ดินไปโอนที่ดินตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย แต่ จ.ได้ลงข้อความปลอมเป็นว่ามอบอำนาจให้ค้ำประกันจำเลย ดังนี้ ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยคือหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องปลอมหรือไม่หากฟังว่า หนังสือมอบอำนาจปลอม สัญญาประกันที่ จ. ทำไว้ก็เป็นโมฆะไม่ผูกพันผู้ร้อง คำร้อง ของ ผู้ร้องจึงมีเหตุสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความชัดในประเด็นดังกล่าวก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนหนังสือมอบอำนาจปลอมเพื่อพิสูจน์ความสมบูรณ์ของสัญญาประกันตัว จำเป็นต้องมีการสืบพยานหลักฐานก่อนวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ร้องตามสัญญาประกัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่เคยประกันหรือมอบให้ผู้ใดประกันจำเลย ผู้ร้องได้นำหนังสือมอบอำนาจให้ทำ นิติกรรมขายที่ดินตามแบบพิมพ์ของกรมที่ดินซึ่งผู้ร้องลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจ มอบให้ จ. ผู้ซื้อที่ดินไปโอนที่ดินตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย แต่ จ. ได้ลงข้อความปลอมเป็นว่ามอบอำนาจให้ค้ำประกันจำเลย ดังนี้ ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยคือหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องปลอมหรือไม่ หากฟังว่า หนังสือมอบอำนาจปลอม สัญญาประกันที่ จ. ทำไว้ก็เป็นโมฆะไม่ผูกพันผู้ร้อง คำร้องของผู้ร้องจึงมีเหตุสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความชัดในประเด็นดังกล่าวก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ให้ความช่วยเหลือการกระทำผิดของผู้อื่น ไม่ถือเป็นเจตนาเข้าร่วมกระทำผิด
จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองพบกับผู้ตายและ ว. โดยบังเอิญ จำเลยที่ 1 ใช้ ท่อนไม้ไล่ตีผู้ตาย จำเลยที่ 2 ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายไม่ได้ร่วมไล่ตีด้วย แต่เมื่อ ว. หยิบไมผู้ตายจำเลยที่ 2 หยิบไม้คานมาถือ และห้ามไม่ให้ ว. ไปช่วย ผู้ตายจึงเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด จำเลยที่ 2 หามีเจตนาร่วมกระทำผิดด้วยไม่ เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 ตีตาย จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือการกระทำผิดทางอาญา: เจตนาและความรับผิดชอบของผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองพบกับผู้ตายและ ว. โดยบังเอิญจำเลยที่ 1 ใช้ท่อนไม้ไล่ตีผู้ตาย จำเลยที่ 2 ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายไม่ได้ร่วมไล่ตีด้วย แต่เมื่อ ว. หยิบไม้จะไปช่วยผู้ตาย จำเลยที่ 2 หยิบไม้คานมาถือและห้ามไม่ให้ ว.ไปช่วยผู้ตาย จึงเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด จำเลยที่ 2 หามีเจตนาร่วมกระทำผิดด้วยไม่ เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 ตีตาย จำเลยที่ 2มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น: การช่วยเหลือให้กระทำผิด vs. เจตนาเข้าร่วม
จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน วันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองพบกับผู้ตายและ ว. โดยบังเอิญ จำเลยที่ 1 ใช้ท่อนไม้ไล่ตีผู้ตาย จำเลยที่ 2ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายไม่ได้ร่วมไล่ตีด้วย แต่เมื่อ ว. หยิบไม้จะไปช่วยผู้ตายจำเลยที่ 2 หยิบไม้คานมาถือและห้ามไม่ให้ ว. ไปช่วยผู้ตาย จึงเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด จำเลยที่ 2 หามีเจตนาร่วมกระทำผิดด้วยไม่เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 ตีตาย จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสนับสนุนการทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย การกระทำที่เข้าข่ายช่วยเหลือ
จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองพบกับผู้ตายและ ว. โดย บังเอิญ จำเลยที่ 1ใช้ ท่อนไม้ไล่ตี ผู้ตาย จำเลยที่ 2 ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายไม่ได้ร่วมไล่ตี ด้วย แต่เมื่อ ว. หยิบไมผู้ตายจำเลยที่ 2 หยิบไม้คานมาถือ และห้ามไม่ให้ ว. ไปช่วย ผู้ตายจึงเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด จำเลยที่ 2 หามีเจตนาร่วมกระทำผิดด้วย ไม่ เมื่อผู้ตายถูก จำเลยที่ 1 ตีตาย จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วย มาตรา 86.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลชั่วคราวต้องอยู่ในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ซึ่ง อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตาม คำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้อง เท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดย กำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่ง เป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตาม คำพิพากษาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ในขอบเขตประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ภายในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมพยายามฆ่าเพื่อสะดวกในการปล้นทรัพย์: เล็งเห็นผลการกระทำของพวก
พวกของจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ช. คนขับรถขณะที่จำเลยกำลังปลดทรัพย์ผู้เสียหายและคนโดยสารอื่น แม้จำเลยจะไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง ช. ด้วยตนเอง แต่พวกของจำเลยรวมทั้งจำเลยเองก็มีอาวุธปืนติดตัวมาด้วยในการปล้นทรัพย์จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่า พวกของจำเลยอาจใช้อาวุธปืนยิงผู้ใดผู้หนึ่งในรถคันเกิดเหตุหากผู้นั้นขัดขืน เพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ เมื่อพวกของจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ช. แต่ ช. ไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ด้วย
of 64