คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประชา บุญวนิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์และการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย
ผู้เสียหายขับรถยนต์โดยสารไปส่งคนโดยสารที่ปลายทาง เมื่อจอดรถให้คนโดยสารลงแล้ว จำเลยเดินตรงมาตบหน้าผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะชกจำเลย จำเลยขึ้นไปบนรถขับรถแล่นวนไปวนมาในบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 5 นาที แล้วขับไปจอดทิ้งไว้ในทุ่งนาซึ่งมีป่าละเมาะห่างจากถนนประมาณครึ่งกิโลเมตร และห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเอารถยนต์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยตบหน้าผู้เสียหายเพื่อการอย่างหนึ่งอย่างใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339(1) ถึง (5) จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์ คงมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายตามมาตรา 391 กระทงหนึ่งและฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334 อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขตควบคุมการแปรรูปไม้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และจำเลยได้ทราบประกาศกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ของทางราชการแล้ว เป็นการระบุมาในฟ้องแล้วว่าสถานที่ซึ่งจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองนั้นอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ถือได้ว่าโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดแล้ว ส่วนที่โจทก์มิได้แนบสำเนาประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้มาพร้อมฟ้อง ก็ไม่ใช่สาระสำคัญอันจะทำให้ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์สำหรับสถานที่ซึ่งอ้างว่าจำเลยกระทำผิดอยู่ภายในเขตควบคุมหรือไม่ ก็เป็นเพียงประเด็นข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาได้ ทั้งโจทก์บรรยายด้วยว่าประกาศดังกล่าวกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัด คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายเขตควบคุมการแปรรูปไม้และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และจำเลยได้ทราบประกาศกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ของทางราชการแล้ว ดังนี้ โจทก์ได้ระบุมาในฟ้องแล้วว่าสถานที่ซึ่งจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองนั้นอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ถือได้ว่าโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดแล้ว ส่วนที่โจทก์มิได้แนบสำเนาประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้มาพร้อมฟ้อง ก็ไม่ใช่สาระสำคัญอันจะทำให้ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ สำหรับสถานที่ซึ่งอ้างว่าจำเลยกระทำผิดอยู่ภายในเขตควบคุมหรือไม่ ก็เป็นเพียงประเด็นข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาได้ ทั้งโจทก์บรรยายด้วยว่าประกาศดังกล่าวกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัด คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5).(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องค่าเสียหายจากการขนส่งทางทะเล: ใช้ พ.พ.พ.มาตรา 624 หากยังไม่มีกฎหมายเฉพาะ
การที่บริษัท ป. ขนสินค้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นท่าเรือปลายทางเป็นการรับขนของทางทะเล ป.พ.พ. มาตรา 609 วรรคท้ายบัญญัติว่า รับขนทางทะเลให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการนั้นแต่ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการรับขนของทางทะเลของประเทศไทยยังไม่มี ในเรื่องอายุความฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนส่งทางทะเลจึงต้องนำ ป.พ.พ.มาตรา 624 ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 8 หมวด 1 ว่าด้วยรับขนของ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับคดีตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 4 วรรคสาม ซึ่งในข้อความรับผิดของผู้ขนส่งห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่วันส่งมอบของ เมื่อปรากฏว่าผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งรับสินค้าไปเมื่อ พ.ศ. 2524 โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันภัยรับช่วงสิทธิเรียกร้องมาจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งมาฟ้องเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2526 คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายสินค้าสูญหายจากการขนส่งทางทะเล ใช้มาตรา 624 พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์
อายุความฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนส่งทางทะเล ต้องนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 8 หมวด 1 ว่าด้วยรับขนของ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง มาปรับแก่คดีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสาม จึงมีกำหนด 1 ปี นับแต่วันส่งมอบหรือวันที่ควรจะได้ส่งมอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายสินค้าสูญหายจากการขนส่งทางทะเล: 1 ปีนับจากวันส่งมอบ
อายุความฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนส่งทางทะเล ต้อง นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 ซึ่ง เป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 8 หมวด 1 ว่าด้วยรับขนของ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง มาปรับแก่คดีตาม ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสาม จึงมีกำหนด 1 ปีนับแต่วันส่งมอบหรือวันที่ควรจะได้ ส่งมอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกรับเงินเพื่อลดหย่อนภาษี ถือเป็นการกระทำผิดในตำแหน่ง
กรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ระดับ 3 ขึ้นไป และเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ระดับ 4 ขึ้นไป เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานเก็บภาษีตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ โดยมีหน้าที่รับแบบตรวจสอบรายการ สถานที่ กำหนดค่ารายปี เสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการตามคำสั่งหัวหน้าเขตจำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ตามคำสั่งกรุงเทพมหานครหรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินน้อยกว่าที่ควรจะต้องเสีย จึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่ กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจัดเก็บภาษีเรียกรับเงินเพื่อลดหย่อนภาษี: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149
กรุงเทพมหานคร ได้ มีคำสั่งแต่งตั้ง ให้เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ระดับ 3 ขึ้นไป และเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ระดับ 4 ขึ้นไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานเก็บภาษีตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ โดย มีหน้าที่ รับแบบตรวจสอบรายการ สถานที่ กำหนดค่ารายปี เสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการตาม คำสั่งหัวหน้าเขตจำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ตาม คำสั่งกรุงเทพมหานครหรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินน้อยกว่าที่ควรจะต้อง เสียจึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่ กระทำการอย่างใดในตำแหน่งอันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเงินเพื่อลดหย่อนภาษีโรงเรือน: การกระทำความผิดฐานเจ้าพนักงานใช้อำนาจในทางที่ผิด
กรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ระดับ 3 ขึ้นไป และเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ระดับ 4 ขึ้นไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ โดยมีหน้าที่ รับแบบตรวจสอบรายการ สถานที่ กำหนดค่ารายปี เสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการตามคำสั่งหัวหน้าเขต จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ตามคำสั่งกรุงเทพมหานครหรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินน้อยกว่าที่ควรจะต้องเสีย จึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกรับเงินเพื่อลดหย่อนภาษีโรงเรือนและที่ดิน เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
กรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ระดับ 3 ขึ้นไปและเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ระดับ 4 ขึ้นไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานเก็บภาษีตามพ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ฯ จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ โดยมีหน้าที่ รับแบบตรวจสอบรายการ สถานที่ กำหนดค่ารายปีเสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการตามคำสั่งหัวหน้าเขต จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ฯ ตามคำสั่งกรุงเทพมหานครหรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินน้อยกว่าที่ควรจะต้องเสีย จึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งอันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 149.
of 64