พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนเช็คโดยไม่สุจริตต้องเกิดขึ้นขณะรับโอน หากเกิดภายหลังไม่ถือว่าผู้ทรงคบคิดฉ้อฉล
การคบคิดกันฉ้อฉลหรือความไม่สุจริตอันจะทำให้ผู้สั่งจ่ายยกความเกี่ยวพันระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนขึ้นต่อสู้ผู้ทรงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 นั้น จะต้องเกิดขึ้นขณะที่ผู้ทรงรับโอนเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคบคิดฉ้อฉลในการรับโอนเช็ค: ต้องเกิดขึ้นขณะรับโอนเพื่อยกเว้นความรับผิดของผู้สั่งจ่าย
การคบคิดกันฉ้อฉลหรือความไม่สุจริตอันจะทำให้ผู้สั่งจ่ายยกความเกี่ยวพันระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนขึ้นต่อสู้ผู้ทรงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 นั้น จะต้องเกิดขึ้นขณะที่ผู้ทรงรับโอนเช็ค.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีหลังยึดทรัพย์ก่อนศาลตัดสิน: ผู้ร้องมีสิทธิจดทะเบียนได้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตาม คำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๐ตราบใด ที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้ สิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๗ ได้(คำพิพากษาฎีกาที่ ๗๓๘/๒๕๑๑ ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษา vs. สิทธิของเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษา
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 ตราบใดที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับตามคำพิพากษาหลังยึดทรัพย์ก่อนศาลตัดสิน: ผู้ร้องมีสิทธิจดทะเบียนได้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตาม คำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300ตราบใด ที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้ สิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้(คำพิพากษาฎีกาที่ 738/2511 ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยึดทรัพย์ชำระหนี้ vs. สิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง แต่เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 ตราบใดที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน: น้ำหนักพยานผู้เห็นเหตุการณ์มีน้ำหนักกว่ารายงานผลการตรวจลายมือชื่อ
การวินิจฉัยปัญหาว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์หรือไม่นั้น แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียว แต่ ก็เบิกความอย่างมีเหตุผล ไม่มีข้อพิรุธสงสัยยืนยันว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ต่อหน้าพยาน ย่อมมีน้ำหนักดีกว่าพยานของจำเลยซึ่ง มีเพียงแต่ รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจ พิสูจน์ลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินว่าน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โดยที่ตัว จำเลยมิได้มาเบิกความสนับสนุนข้ออ้างของตน แต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานสำคัญกว่าความเห็นผู้เชี่ยวชาญ: การพิสูจน์การออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
การวินิจฉัยปัญหาว่า จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์หรือไม่นั้น แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียว แต่ก็เบิกความอย่างมีเหตุผลไม่มีข้อพิรุธสงสัยยืนยันว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ต่อหน้าพยานย่อมมีน้ำหนักดีกว่าพยานของจำเลยซึ่งมีเพียงแต่รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินว่า น่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โดยที่ตัวจำเลยมิได้มาเบิกความสนับสนุนข้ออ้างของตนแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
น้ำหนักพยานหลักฐาน: ประจักษ์พยานยืนยันการออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีน้ำหนักกว่าความเห็นผู้เชี่ยวชาญและจำเลยไม่เบิกความ
การวินิจฉัยปัญหาว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์หรือไม่ นั้น แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียว แต่ก็เบิกความอย่างมีเหตุผลไม่มีข้อพิรุธสงสัยยืนยันว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ต่อหน้าพยาน ย่อมมีน้ำหนักดีกว่าพยานของจำเลยซึ่งมีเพียงแต่รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงิน ว่าน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โดยที่ตัวจำเลยมิได้มาเบิกความสนับสนุนข้ออ้างของตน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานทางคดี: น้ำหนักพยานผู้เห็นเหตุการณ์สำคัญกว่ารายงานผลตรวจลายมือชื่อ
การวินิจฉัยปัญหาว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์หรือไม่นั้น แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียว แต่ ก็เบิกความอย่างมีเหตุผล ไม่มีข้อพิรุธสงสัยยืนยันว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ต่อหน้าพยาน ย่อมมีน้ำหนักดีกว่าพยานของจำเลยซึ่ง มีเพียงแต่ รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจ พิสูจน์ลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินว่าน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โดยที่ตัว จำเลยมิได้มาเบิกความสนับสนุนข้ออ้างของตน แต่อย่างใด.