คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประชา บุญวนิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตายจากอุบัติเหตุและการคุ้มครองประกันชีวิต แม้ข้อเท็จจริงไม่ชัดเจนว่าตายจากอุบัติเหตุหรือถูกทำร้าย
แม้สัญญาประกันชีวิตจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตามแต่เมื่อข้อเท็จจริงนอกจากจะไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันภัยเป็นใครแล้ว ยังฟังไม่ได้แน่ชัดผู้เอาประกันภัยถึงแก่ความตายเพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหรือเพราะอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ ดังนั้นจึงนับว่า การตายของผู้เอาประกันภัยเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณภัยเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันชีวิตได้แจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบถึงอุบัติเหตุและได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันภัยเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าฤชาธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์นั้น ศาลต้องสั่งให้จำเลยชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยมรณกรรม: การตายจากอุบัติเหตุแม้ยังไม่ชัดเจนผู้กระทำผิด ผู้รับประกันภัยต้องจ่ายตามสัญญา
แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตามแต่ เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่าผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูก คนร้ายใช้ อาวุธปืนยิง เพราะยังไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครแล้ว นับว่าการตาย ของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดย อุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้ แจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบถึง อุบัติเหตุและได้ ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ย ของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้อง ใช้ แทนโจทก์ชั้นศาล ต้อง สั่งให้จำเลยชำระต่อ ศาลในนามของโจทก์ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 158.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยอุบัติเหตุ vs. ฆาตกรรม, การพิสูจน์เหตุการณ์, และดอกเบี้ยผิดสัญญา
แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครและยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่าผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนับว่าการตายของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่.
เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้แจ้งให้ผู้รับประกันทราบถึงอุบัติเหตุและได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด.
ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์ชั้นศาล ต้องสั่งให้จำเลยชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ตามป.วิ.พ. มาตรา 158.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยมรณกรรม: การตายจากอุบัติเหตุแม้ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน & สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยกรณีผู้รับประกันผิดสัญญา
แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตามแต่ เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่าผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูก คนร้ายใช้ อาวุธปืนยิง เพราะยังไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครแล้ว นับว่าการตาย ของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดย อุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่
เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้ แจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบถึง อุบัติเหตุและได้ ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ย ของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด
ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้อง ใช้ แทนโจทก์ชั้นศาล ต้อง สั่งให้จำเลยชำระต่อ ศาลในนามของโจทก์ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๕๘.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: หน้าที่ของผู้ประกันในการนำตัวจำเลยไปศาล แม้จำเลยชำระหนี้และโจทก์ถอนฟ้อง ศาลไม่ลดค่าปรับ
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยทั้งสองในคดีอาญาไว้ต่อศาลชั้นต้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษา ผู้ประกันทราบนัดแล้วจึงมีหน้าที่ต้องนำส่งจำเลยทั้งสองตามนัด ความเข้าใจผิดของผู้ประกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่เป็นเหตุอันสมควรที่ศาลจะลดค่าปรับให้ และเมื่อนับตั้งแต่วันผู้ประกันทราบหมายนัดของศาลให้นำเงินไปชำระค่าปรับจนถึงวันที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเป็นเวลาถึง 2 ปีเศษ ผู้ประกันก็ไม่นำจำเลยทั้งสองไปศาล แสดงว่าผู้ประกันไม่ได้พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประกัน จึงไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: ความเข้าใจผิดในกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นเหตุลดค่าปรับ หากผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยทั้งสองไว้ต่อศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษา ผู้ประกันทราบนัดแล้วจึงมีหน้าที่ต้องนำส่งจำเลยทั้งสองตามนัด ความเข้าใจผิดของผู้ประกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่เป็นเหตุอันสมควรที่ศาลจะลดค่าปรับให้ และเมื่อนับตั้งแต่วันผู้ประกันทราบหมายนัดของศาลให้นำเงินไปชำระค่าปรับจนถึงวันที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเป็นเวลา ถึง 2 ปีเศษผู้ประกันก็ไม่นำจำเลยทั้งสองไปศาล แสดงว่าผู้ประกันไม่ได้พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประกัน จึงไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อการสูญหายของสินค้า และสิทธิของบริษัทประกันภัยในการรับช่วงสิทธิ
บริษัท ล. ขายสินค้าผ้าให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศโดยบริษัทล. ได้ว่าจ้างจำเลยทั้งสองขนสินค้าดังกล่าวซึ่งบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ และบริษัท ล. ได้ประกันภัยสินค้ารายนี้ไว้กับโจทก์ เมื่อปรากฏว่าได้มีการบรรจุสินค้าผ้าจำนวน 1,149 ม้วนลงในตู้บรรจุสินค้าดังกล่าวและสินค้าผ้าจำนวน 1,078 ม้วนได้สูญหายไปขณะอยู่ในความรับผิดของจำเลยทั้งสอง การสูญหายดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งสินค้านั้นเองหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง จำเลยทั้งสองในฐานะผู้ขนส่งจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ล. เมื่อโจทก์ได้ใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ล. ไปตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของบริษัท ล. ผู้เอาประกันภัยมาฟ้องร้องจำเลยทั้งสองได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อทรัพย์สินสูญหาย: การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยเข้าเวรรักษาราชการตาม หน้าที่ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม วิสัยเช่น วิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตน แล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้ เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียน และงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย: การรักษาความระมัดระวังตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยเข้าเวรรักษาราชการตาม หน้าที่ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม วิสัยเช่น วิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตน แล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้ เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียน และงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่เวรรักษาการณ์ เน้นป้องกันอัคคีภัย ไม่ถือเป็นหน้าที่ยามรักษาความปลอดภัย การประมาทเลินเล่อต้องพิจารณาตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยไม่มีหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยโดยตรง แต่ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่เวรรักษาราชการ โดยทางโรงเรียนจัดที่นอนให้เวรยามด้วย การอยู่เวรยามเน้นหนักไปในทางป้องกันอัคคีภัยจำเลยเข้าเวรรักษาราชการตามหน้าที่และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยเช่นวิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตนแล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียนและงัดประตูห้องเก็บเครื่องพิมพ์ดีดซึ่งอยู่คนละชั้นกับที่จำเลยนอน แล้วลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจ หรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริม)
of 64