พบผลลัพธ์ทั้งหมด 640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากเรือทัก การรับผิดของเจ้าของเรือและผู้รับขนส่ง ค่าเสียหายจากสินค้าเสียหาย
โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดเมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่ง โจทก์ย่อมจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดตามสัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดแล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัทไม้อัดไทย จำกัด และมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ผู้กระทำละเมิดและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 4 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งได้
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ ว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยกู้เงินโจทก์ และจำเลยทั้งสองไม่เคยทำสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันกับโจทก์ตาม ฟ้อง โจทก์จะต้อง อ้างสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐานในคดี เมื่อสัญญากู้ที่โจทก์อ้างจำนวนเงิน 55,816 บาทซึ่ง ตาม ป.รัษฎากรจะต้อง ปิด อากรแสตมป์ 28 บาท แต่ ปิดมาเพียง 20บาท ขาดไป 8 บาท ส่วนสัญญาค้ำประกันซึ่ง ค้ำประกันสัญญากู้ ซึ่ง ตามป.รัษฎากรต้อง ปิด อากรแสตมป์ 10 บาท แต่ ไม่ได้ปิด อากรแสตมป์เลยจึงถือ ได้ ว่าเป็นตราสารที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ และไม่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 118 ดังนี้ ถือ ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือที่มีลายมือชื่อผู้กู้และ ผู้ค้ำประกัน จึงไม่อาจฟ้องคดีให้จำเลยที่ 1 รับผิดตาม สัญญากู้ จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.อ.มาตรา 220: ศาลมีดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน และการโต้แย้งข้อเท็จจริง
การฟังหรือไม่ฟังพยานหลักฐานใด ในคดีอยู่ในดุลพินิจ ของศาลการที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ไม่พิจารณาพยานหลักฐานบางประการของโจทก์เป็นการวินิจฉัยคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นฎีกาโต้เถียง ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ.มาตรา 220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ห้ามยกอายุความครอบครอง
ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของโฉนดตราจองที่ 5272 ซึ่งโจทก์(กระทรวงการคลัง) รับโอนมาจาก กระทรวงกลาโหม และได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุเมื่อปี 2471 เดิม กระทรวงกลาโหมใช้เป็นสนามฝึกยิงปืน ต่อมาโจทก์ให้ กระทรวงศึกษาธิการ ใช้ที่ดินบางส่วนเป็นที่ตั้ง โรงเรียนสวนหลวง ที่ดินตามโฉนดตราจองดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3) ต้องห้ามมิให้ยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินตามมาตรา 1306.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ห้ามยกอายุความครอบครอง
ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของโฉนดตราจองที่ 5272 ซึ่งโจทก์(กระทรวงการคลัง) รับโอนมาจาก กระทรวงกลาโหม และได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุเมื่อปี 2471 เดิม กระทรวงกลาโหมใช้เป็นสนามฝึกยิงปืน ต่อมาโจทก์ให้ กระทรวงศึกษาธิการ ใช้ที่ดินบางส่วนเป็นที่ตั้ง โรงเรียนสวนหลวง ที่ดินตามโฉนดตราจองดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (3) ต้องห้ามมิให้ยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินตามมาตรา 1306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมที่ดิน แม้ไม่ได้ฎีกาเอง ก็ได้รับผลจากคำพิพากษา หากเป็นเรื่องชำระหนี้ที่ไม่อาจแบ่งแยกได้
ในคดีพิพาทกันเรื่องที่ดิน เมื่อศาลฎีกาฟังว่าโจทก์และโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน แม้ในชั้นฎีกาจะมีเพียงโจทก์ร่วมผู้เดียวฎีกาโดยโจทก์มิได้ฎีกา แต่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้มีผลถึงโจทก์ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา245(1)247.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของที่ดินร่วมกัน แม้ฎีกาโดยโจทก์ร่วมคนเดียว ศาลยังพิพากษาถึงลูกหนี้ร่วมด้วย
ในคดีพิพาทกันเรื่องที่ดิน เมื่อศาลฎีกาฟังว่าโจทก์และโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน แม้ในชั้นฎีกาจะมีเพียงโจทก์ร่วมผู้เดียวฎีกาโดยโจทก์มิได้ฎีกา แต่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้มีผลถึงโจทก์ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245 (1), 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางผ่านที่ดินปิดล้อม: การแบ่งแยกที่ดินและการตีความสิทธิเรียกร้องทางผ่าน
การที่เจ้าของที่ดินที่ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมใช้สิทธิเรียกร้องผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้นั้น เป็นการตัดสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ จึงต้องแปลโดยเคร่งครัด จะแปลโดยอนุโลมหาได้ไม่เมื่อที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่33092 แม้ที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 จะเคยเป็นที่แปลงเดียวกับที่ดินจำเลยมาก่อนก็ตามจะถือโดยอนุโลมว่าที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินจำเลยด้วยหาได้ไม่โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะภายในบริเวณที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่ที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านที่ดินจำเลยไปสู่ทางสาธารณะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางผ่านที่ดินของผู้อื่นถูกจำกัดเฉพาะที่ดินเดิมที่แบ่งแยกมา แม้ที่ดินเดิมเคยเป็นแปลงเดียวกัน
เจ้าของที่ดินที่ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมสามารถใช้สิทธิเรียกร้องผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้ เป็นการตัดสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ จึงต้องแปลโดยเคร่งครัด จะแปลโดยอนุโลมหาได้ไม่ เมื่อที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 แม้ที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 จะเคยเป็นที่แปลงเดียวกับที่ดินจำเลยมาก่อนก็ตาม จะถือโดยอนุโลมว่าที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินจำเลยด้วยหาได้ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะภายในบริเวณที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่ที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านที่ดินจำเลยไปสู่ทางสาธารณะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องทางผ่านที่ดินปิดล้อม: การแบ่งแยกที่ดินต้องพิจารณาตามโฉนดที่ดินปัจจุบัน ไม่สามารถอ้างสิทธิทางผ่านจากที่ดินเดิมได้
เจ้าของที่ดินที่ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมสามารถใช้สิทธิเรียกร้องผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้เป็นการตัดสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ จึงต้องแปลโดยเคร่งครัด จะแปลโดยอนุโลมหาได้ไม่ เมื่อที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 แม้ที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 จะเคยเป็นที่แปลงเดียวกับที่ดินจำเลยมาก่อนก็ตาม จะถือโดยอนุโลมว่าที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินจำเลยด้วยหาได้ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะภายในบริเวณที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่ที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านที่ดินจำเลยไปสู่ทางสาธารณะไม่ได้.