พบผลลัพธ์ทั้งหมด 533 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ได้รับอนุญาตภายหลังก็ไม่ลบล้างความผิดเดิม
จำเลยเก็บแร่ไว้ในระหว่างที่ใบอนุญาตเดิมหมดอายุแม้ภายหลังจำเลยจะได้รับใบอนุญาตให้เก็บแร่ได้อีกใบอนุญาตใหม่ก็ไม่มีผลย้อนหลังไปลบล้างหรืออภัยความผิดก่อนได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่หลังใบอนุญาตหมดอายุ แม้ได้รับอนุญาตใหม่ก็ไม่ลบล้างความผิดก่อนหน้า
จำเลยเก็บแร่ไว้ในระหว่างที่ใบอนุญาตเดิม หมดอายุ แม้ภายหลังจำเลยจะได้รับใบอนุญาตให้เก็บแร่ได้ อีก ใบอนุญาตใหม่ก็ไม่มีผลย้อนหลังไปลบล้างหรืออภัยความผิดก่อนได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่หลังใบอนุญาตหมดอายุ แม้ได้ใบอนุญาตใหม่ก็ไม่มีผลย้อนหลัง
จำเลยเก็บแร่ไว้ในระหว่างที่ใบอนุญาตเดิม หมดอายุ แม้ภายหลังจำเลยจะได้รับใบอนุญาตให้เก็บแร่ได้ อีก ใบอนุญาตใหม่ก็ไม่มีผลย้อนหลังไปลบล้างหรืออภัยความผิดก่อนได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่โดยไม่มีใบอนุญาต แม้จะขออนุญาตภายหลัง ก็ไม่ทำให้ความผิดก่อนหน้านั้นสิ้นสุดลง
จำเลยเก็บแร่ไว้ในระหว่างที่ใบอนุญาตเดิมหมดอายุ แม้ภายหลังจำเลยจะได้รับใบอนุญาตให้เก็บแร่ได้อีก ใบอนุญาตใหม่ก็ไม่มีผลย้อนหลังไปลบล้างหรืออภัยความผิดก่อนได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างป่วย: นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เว้นแต่ลูกจ้างกระทำผิดร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
จำเลยปลดโจทก์ออกจากงานเพราะเหตุโจทก์ป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เป็นเหตุยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามข้อ 47 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานจำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่จ่ายถือว่าตกเป็นผู้ผิดนัดนับแต่วันเลิกจ้างโดยมิต้องทวงถาม.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ล่วงหน้า: สิทธิผู้ทรงเช็คและการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดย มิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ย. ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเมื่อเช็ค ถึง กำหนด การที่ ย. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือ จำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะ ผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้ สิทธิโดย ไม่สุจริตไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คพิพาทและสิทธิของผู้ทรงเช็คเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้
การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดยมิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ย.ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเมื่อเช็คถึงกำหนด การที่ ย.นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือจำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ทรงเช็คเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ ผู้รับเช็คมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้รับเช็คเดิม
การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดย มิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ย. ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเมื่อเช็ค ถึง กำหนด การที่ ย. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือ จำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะ ผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้ สิทธิโดย ไม่สุจริตไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค: การออกเช็คพิพาทและสิทธิของผู้ทรงเช็ค
การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดยมิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่นย. ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคาร เมื่อเช็คถึงกำหนด การที่ ย. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคาร และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือจำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสถานะไม้หวงห้ามตามกฎหมาย ทำให้จำเลยพ้นจากความผิดเดิม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้งิ้วอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 ซึ่งไม้งิ้วในท้องที่ที่จำเลยกระทำผิดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 แต่ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 และบัญญัติให้ไม้บางชนิดตามที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวมิได้กำหนดให้ไม้งิ้วเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ดังนั้นไม้งิ้วย่อมไม่เป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีกต่อไป จำเลยจึงเป็นผู้พ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2