คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิศิษฏ์ ลิมานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 533 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3407-3408/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีละเมิดเครื่องหมายการค้า: แม้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนต่างประเทศ แต่หากไม่ได้จดทะเบียนในไทย โจทก์ยังมีอำนาจฟ้องได้
แม้เครื่องหมายการค้าพิพาทเป็นของบริษัท ว. แห่งประเทศ อังกฤษ ก็ตาม แต่เมื่อบริษัทดังกล่าวมิได้เข้ามาเป็นคู่ความทั้งไม่ปรากฏว่าได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศ ไทยอันจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 มาตรา 27 29 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียนโดยฟ้องขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทและขอให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนและเลิกใช้เครื่องหมายการค้านี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตให้ทนายความถอนตัวจากคดีแรงงาน และอายุความของคดีเรียกเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน
การจะอนุญาตให้ทนายความถอนตนจากการตั้งแต่ง เป็นทนายความของตัวความในคดีหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลย แล้วทนายจำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางควรให้ทนายจำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอถอนตัวไปให้จำเลยทราบเสียก่อน และควรมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีไปก่อนนั้น เท่ากับเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งว่าศาลแรงงานกลางใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตนจากการตั้งแต่งเป็นทนายความของจำเลยโดยไม่ชอบ จึงเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง การฟ้องเรียกเงินที่ นายจ้าง ต้องจ่ายเข้าสมทบกองทุนเงินทดแทนไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือใช้อายุความทั่วไปซึ่งมีกำหนด 10 ปี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนตัวทนาย & อายุความฟ้องเรียกเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน
การจะอนุญาตให้ทนายความถอนตนจากการแต่งตั้งเป็นทนายความหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลย ทนายจำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแรงงานควรให้ทนายจำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอถอนตัวไปให้จำเลยทราบเสียก่อน และควรมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีไปก่อนนั้นเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจของศาลแรงงานกลาง จึงเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 การฟ้องเรียกเงินที่นายจ้างต้องจ่ายเข้าสมทบกองทุนเงินทดแทนไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ซึ่งมีกำหนด 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนตัวทนายและการหมดอายุความคดีกองทุนเงินทดแทน ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลแรงงานกลาง
การจะอนุญาตให้ทนายความถอนตนจากการตั้งแต่ง เป็นทนายความของตัวความในคดีหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลย แล้วทนายจำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางควรให้ทนายจำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอถอนตัวไปให้จำเลยทราบเสียก่อน และควรมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีไปก่อนนั้น เท่ากับเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งว่าศาลแรงงานกลางใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตนจากการตั้งแต่งเป็นทนายความของจำเลยโดยไม่ชอบ จึงเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
การฟ้องเรียกเงินที่ นายจ้าง ต้องจ่ายเข้าสมทบกองทุนเงินทดแทนไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือใช้อายุความทั่วไปซึ่งมีกำหนด 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องที่ไม่สุจริตเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องและฟ้องใหม่ ศาลไม่อนุญาตตามมาตรา 175 วรรคสอง
โจทก์ขอถอนฟ้องเพราะเห็นว่าดวงตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจและในสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ถูกต้องตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ การขอถอนฟ้องจึงมิได้เป็นไปโดยสุจริตแต่เพื่อฉวยโอกาสปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินคดีที่ทำไปแล้วและนำคดีมาฟ้องจำเลยใหม่อีก ซึ่งย่อมจะทำให้จำเลยเสียเปรียบชอบที่ศาลจะไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องที่ไม่สุจริตเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องและฟ้องใหม่ ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาต
โจทก์ขอถอนฟ้องเพราะเห็นว่าดวงตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจและในสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ถูกต้องตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ การขอถอนฟ้องจึงมิได้เป็นไปโดยสุจริตแต่เพื่อฉวยโอกาสปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินคดีที่ทำไปแล้วและนำคดีมาฟ้องจำเลยใหม่อีก ซึ่งย่อมจะทำให้จำเลยเสียเปรียบชอบที่ศาลจะไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3326/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันมีไว้ซึ่งยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: การกระทำโดยรู้เห็นเป็นใจและการพิสูจน์ความผิด
กัญชาของกลางมีน้ำหนักสุทธิ 1,900 กิโลกรัม ก่อนที่ ส.ผู้ร่วมกระทำผิดอีกคนหนึ่งจะไปรับจำเลยมาดูกัญชาของกลางที่บ้านเกิดเหตุ ส. ได้นำกัญชาของกลางซึ่งมีจำนวนมากมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุด้วยวิธีการอันเร้นลับ บ้านดังกล่าวมีกำแพงทึบประตูเข้าก็เป็นบานทึบแน่นหนามีคนเฝ้าระแวดระวังอยู่ตลอดเวลายากที่บุคคลภายนอกทั่วไปจะล่วงรู้และเข้าไปได้ การที่ ส. ขับรถยนต์ไปรับจำเลยจากโรงแรมพามายังบ้านเกิดเหตุและขึ้นไปตรวจดูกัญชาของกลางบนบ้านชั้นสอง ซึ่งเป็นที่เก็บกัญชานานประมาณ 10 นาทีแล้วลงมาพร้อมกับ ส.นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้มีส่วนรู้เห็นและร่วมกับ ส. นำกัญชาของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุ และได้ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งกัญชาของกลางเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3326/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันมีไว้ซึ่งยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: การกระทำที่แสดงเจตนาในการรู้เห็นและร่วมมือ
กัญชาของกลางจำนวนมากมีน้ำหนักสุทธิ 1,900 กิโลกรัมก่อนที่ ส. ผู้ร่วมกระทำผิดอีกคนหนึ่งจะไปรับจำเลยมาดูกัญชาของกลางที่บ้านเกิดเหตุ ส. ได้นำกัญชาของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุด้วยวิธีการอันเร้นลับ บ้านดังกล่าวมีกำแพงทึบประตูเข้าก็เป็นบานทึบแน่นหนามีคนเฝ้าระแวด ระวังอยู่ตลอดเวลายากที่บุคคลภายนอกทั่วไปจะล่วงรู้และเข้าไปได้ เช่นนี้การที่ ส.ขับรถยนต์ไปรับจำเลยจากโรงแรมพามายังบ้านเกิดเหตุและขึ้นไปตรวจดูกัญชาของกลางบนบ้านชั้นสอง ซึ่งเป็นที่เก็บกัญชานานประมาณ10 นาที แล้วลงมาพร้อมกับ ส. นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้มีส่วนรู้เห็นและร่วมกับ ส. นำกัญชาของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุ และได้ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งกัญชาของกลางเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3326/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันมีไว้ซึ่งยาเสพติดเพื่อจำหน่าย โดยมีพฤติการณ์แสดงเจตนาและส่วนร่วม
กัญชาของกลางจำนวนมากมีน้ำหนักสุทธิ 1,900 กิโลกรัม ก่อนที่ ส. ผู้ร่วมกระทำผิดอีกคนหนึ่งจะไปรับจำเลยมาดูกัญชาของกลางที่บ้านเกิดเหตุ ส. ได้นำกัญชาของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุด้วยวิธีการอันเร้นลับ บ้านดังกล่าวมีกำแพงทึบประตูเข้าก็เป็นบานทึบแน่นหนามีคนเฝ้าระแวดระวังอยู่ตลอดเวลายากที่บุคคลภายนอกทั่วไปจะล่วงรู้และเข้าไปได้ เช่นนี้การที่ ส. ขับรถยนต์ไปรับจำเลยจากโรงแรมพามายังบ้านเกิดเหตุและขึ้นไปตรวจดูกัญชาของกลางบนบ้านชั้นสอง ซึ่งเป็นที่เก็บกัญชานานประมาณ10 นาที แล้วลงมาพร้อมกับ ส. นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้มีส่วนรู้เห็นและร่วมกับ ส. นำกัญชาของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุ และได้ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งกัญชาของกลางเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3192/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาอุทธรณ์: เหตุผล 'เพิ่งติดต่อทนาย' ไม่เพียงพอเมื่อทนายได้รับว่าความมาตั้งแต่ต้นและมีข้อมูลครบถ้วน
ทนายจำเลยได้รับว่าความมาแต่ต้น มีรายละเอียดคำเบิกความของพยานโจทก์และพยานจำเลยทั้งหมดพร้อมคำพิพากษา กับเอกสารในคดีตามที่ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอคัดสำเนาไว้เพื่อใช้ศึกษาประกอบในการอุทธรณ์ ทั้งรูปคดีไม่ได้มีความสลับซับซ้อนเป็นพิเศษถึงกับจะเป็นเหตุให้ทนายจำเลยศึกษารายละเอียดและข้อเท็จจริงไม่ทัน นับแต่จำเลยแจ้งความประสงค์จะอุทธรณ์ ทนายจำเลยก็ยังมีเวลาอีก 3 วันที่จะทำอุทธรณ์ได้ทัน ข้ออ้างของทนายจำเลยตามคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 7 วันที่ว่า จำเลยเพิ่งติดต่อทนายความได้และแจ้งความประสงค์จะอุทธรณ์ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ให้จำเลยได้
of 54