คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธีรศักดิ์ กรรณสูต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 123 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดี: เหตุจำเป็นต้องเลื่อน, การแสดงเหตุผลให้พอใจศาล, และการประวิงคดี
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีโดยกำชับว่า นัดหน้าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อม ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำพยานจำเลยมาศาลทั้งหมด หากพยานจำเลยไม่มา จำเลยจะไม่ติดใจสืบพยาน หากพยานจำเลยมาจำนวนเท่าใดจำเลยขอสืบเพียงเท่านั้น ถึงวันนัดทนายโจทก์มาศาล จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาล อ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคคออักเสบไม่สามารถดำเนินคดีในศาลได้คำร้องขอเลื่อนคดีอีกของจำเลยเช่นนี้มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ดังนี้ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดี: เหตุจำเป็นต้องเลื่อน, การแสดงเหตุผลให้ศาลเห็นสมควร, และผลของการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีโดยกำชับว่า นัดหน้าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อม ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำพยานจำเลยมาศาลทั้งหมด หากพยานจำเลยไม่มา จำเลยจะไม่ติดใจสืบพยาน หากพยานจำเลยมาจำนวนเท่าใดจำเลยขอสืบเพียงเท่านั้น ถึงวันนัดทนายโจทก์มาศาล จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลอ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคคออักเสบ ไม่สามารถดำเนินคดีในศาลได้ คำร้องขอเลื่อนคดีอีกของจำเลยเช่นนี้มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่าถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ดังนี้ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนันรายงานการรุกล้ำที่สาธารณะชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นละเมิด
เมื่อมีราษฎรมาร้องเรียนต่อจำเลยซึ่งเป็นกำนันท้องที่ว่าโจทก์บุกรุกที่ป่าช้าสาธารณสถาน จำเลยก็ชอบที่จะรายงานนายอำเภอซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาตามที่ราษฎรร้องเรียนได้ กรณีเป็นเพียงรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิได้ยืนยันหรือออกความเห็น นายอำเภอจะดำเนินการอย่างไรต่อไปก็แล้วแต่นายอำเภอจะพิจารณาเองดังนี้จำเลยได้กระทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบ หาใช่กระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดไต่สวนมูลฟ้อง: โจทก์มีหน้าที่ต้องมาศาลตามนัด เหตุผลปกติไม่เพียงพอ
เมื่อศาลกำหนดเวลานัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องมาศาลตามนัด การที่โจทก์ไม่กำหนดเวลาเดินทางมาศาลให้ตรงเวลาทำให้มาถึงศาลล่าช้าและยังมาเสียเวลาเขียนคำร้องขอเลื่อนคดีแทนที่จะรีบไปแถลงต่อศาล ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ขาดนัดไต่สวนมูลฟ้อง แม้มีเหตุผล แต่เป็นเหตุที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า ศาลไม่ยกคำร้อง
เมื่อศาลกำหนดเวลานัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องมาศาลตามนัด การที่โจทก์ไม่กำหนดเวลาเดินทางมาศาลให้ตรงเวลาทำให้มาถึงศาลล่าช้าและยังมาเสียเวลาเขียนคำร้องขอเลื่อนคดีแทนที่จะรีบไปแถลงต่อศาล ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์ในการมาศาลตามนัด และเหตุผลที่ไม่สมควรในการขอเลื่อนคดี
เมื่อศาลกำหนดเวลานัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องมาศาลตามนัด การที่โจทก์ไม่กำหนดเวลาเดินทางมาศาลให้ตรงเวลาทำให้มาถึงศาลล่าช้าและยังเสียเวลาเขียนคำร้องขอเลื่อนคดีแทนที่จะรีบไปแถลงต่อศาล ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะยกขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของ กทม. กรณีทางระบายน้ำถูกรุกล้ำ และวิธีบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา89(6) กรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่จัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำและทางระบายน้ำ เมื่อคลองลาดยาวเป็นทางระบายน้ำอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครการที่จำเลยถมและปิดกั้นทางระบายน้ำดังกล่าวจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของกรุงเทพมหานครโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55
การที่ศาลพิพากษาว่า การรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างและขุดดินส่วนที่มีการถม หากจำเลยไม่ปฏิบัติก็ให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนและขุดดินออกเองโดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายนั้น เมื่อระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10)พ.ศ. 2527 ออกใช้บังคับ โดยเพิ่มมาตรา 296 ทวิ ว่าในกรณีนี้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองทรัพย์ดังกล่าว ดังนั้นโจทก์จึงชอบที่จะร้องต่อศาลให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขุดินและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของจำเลยออก จะให้โจทก์รื้อถอนเองโดยให้ศาลบังคับให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพประกอบพยานแวดล้อมมีน้ำหนักเพียงพอลงโทษจำเลยได้ แม้ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์โดยตรง
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนเล็กกลยิงกราดผู้เสียหายและผู้ตายในโรงภาพยนตร์ แต่มีพยานแวดล้อมโดยผู้เสียหายคนหนึ่งเห็นจำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกับขณะเกิดเหตุ สอดคล้องกับคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลย จำเลยรับสารภาพทั้งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนต่อหน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและขอขมาต่อผู้เสียหายและบิดามารดาของผู้ตายด้วยความสมัครใจเพราะสำนึกผิดและโดยเปิดเผยต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน พยานโจทก์ทุกปากไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลย ไม่มีเหตุผลที่จะให้การปรับปรำจำเลย พนักงานสอบสวนก็ให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยในวันพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น จำเลยก็ยังให้การรับสารภาพในตอนต้น แม้ต่อมาจะกลับให้การปฏิเสธแต่ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นเพราะเหตุใด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว จำเลยก็มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา เชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับสารภาพ-คำรับสารภาพสอดคล้องพยานแวดล้อม-การกลับคำให้การ-น้ำหนักพยาน-การพิจารณาโทษ
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนเล็กกลยิงกราดผู้เสียหายและผู้ตายในโรงภาพยนตร์ แต่มีพยานแวดล้อมโดยผู้เสียหายคนหนึ่งเห็นจำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกับขณะเกิดเหตุ สอดคล้องกับคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลย จำเลยรับสารภาพทั้งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนต่อหน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและขอขมาต่อผู้เสียหายและบิดามารดาของผู้ตายด้วยความสมัครใจเพราะสำนึกผิดและโดยเปิดเผยต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน พยานโจทก์ทุกปากไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลย ไม่มีเหตุผลที่จะให้การปรับปรำจำเลย พนักงานสอบสวนก็ให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยในวันพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น จำเลยก็ยังให้การรับสารภาพในตอนต้น แม้ต่อมาจะกลับให้การปฏิเสธแต่ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นเพราะเหตุใด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว จำเลยก็มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา เชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและพยานแวดล้อมเพียงพอต่อการลงโทษคดีอาญา แม้ไม่มีพยานรู้เห็นโดยตรง
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนเล็กกลยิงกราดผู้เสียหายและผู้ตายในโรงภาพยนตร์ แต่มีพยานแวดล้อมโดยผู้เสียหายคนหนึ่งเห็นจำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกับขณะเกิดเหตุ สอดคล้องกับคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลย จำเลยรับสารภาพทั้งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนต่อหน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและขอขมาต่อผู้เสียหายและบิดามารดาของผู้ตายด้วยความสมัครใจเพราะสำนึกผิดและโดยเปิดเผยต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชนพยานโจทก์ทุกปากไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลย ไม่มีเหตุผลที่จะให้การปรักปรำจำเลย พนักงานสอบสวนก็ให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยในวันพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น จำเลยก็ยังให้การรับสารภาพในตอนต้น แม้ต่อมาจะกลับให้การปฏิเสธ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นเพราะเหตุใด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว จำเลยก็มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา เชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้อง
of 13