คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ม. 4

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3193/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แม้ไม่มีสัญญาเป็นหนังสือ ก็มีผลผูกพันตาม พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2528
โจทก์ทำนาพิพาทในฐานะผู้เช่าจากจำเลยที่ 1 แม้จะไม่ได้ทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือก็ต้องถือว่าเป็นการเช่าตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2528 มาตรา 5ที่บัญญัติว่า "การเช่า" หมายความว่าการเช่าหรือการเช่าช่วงโดยได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า... ทั้งนี้ไม่ว่าการเช่าหรือการเช่าช่วงนั้นจะมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิยาม 'ผู้เช่านา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พิจารณาจากเนื้อที่ดินที่เช่า ไม่ใช่เนื้อที่ดินทั้งหมด
ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ให้คำนิยามของคำ'ผู้เช่านา'ว่า หมายความถึงผู้ที่เช่านาเพื่อทำนาทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่ และ'ผู้ให้เช่านา'หมายความว่าผู้ที่ให้เช่านาเพื่อทำนาทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่คำว่าส่วนใหญ่ในที่นี้หมายถึงส่วนใหญ่ของเนื้อที่ดินส่วนที่เช่ากัน ไม่ได้หมายถึงส่วนใหญ่ของเนื้อที่ดินทั้งแปลง โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลจึงต้องพิจารณาสืบพยานทั้งสองฝ่ายให้สิ้นกระแสความเสียก่อนแล้วจึงพิพากษาไปตามประเด็นข้อโต้เถียง ไม่ควรด่วนงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยให้สิ้นกระแสความแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินเพื่อเลี้ยงปลา แม้สัญญาเช่าระบุทำนา ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา หากไม่ได้ทำนาจริง
จำเลยไม่ได้ทำนาในที่พิพาท แต่จำเลยเลี้ยงปลาในที่พิพาททั้งแปลง แม้สัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจะมีคำว่าเช่าเพื่อทำนาด้วยก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่านาและได้ทำนาในที่พิพาทตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาจำเลยจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448-1449/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 "นา" หมายความว่าที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ ส่วนคำว่า "พืชไร่" นั้น หมายความว่า พืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นอย่างหนึ่ง กับพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนอีกอย่างหนึ่ง
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนตัวผู้เช่าทำให้สัญญาเช่าเดิมระงับ และไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.เช่านา
จำเลยเช่านาโจทก์ทำมาตั้งแต่ พ.ศ.2510 เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์ ครั้นพ.ศ. 2517 จำเลยให้บุตรของจำเลยสองคนเช่าทำนาดังกล่าวกับโจทก์ ดังนี้ เป็นการเปลี่ยนตัวผู้เช่าจากจำเลยมาเป็นบุตรของจำเลยเป็นผู้เช่าโดยตรงกับโจทก์ ฉะนั้นสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยจึงระงับสิ้นไปแล้วตั้งแต่พ.ศ.2517 จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกพื้นที่เช่านา: แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือ แต่การได้รับค่าเช่าถือเป็นการเช่าตามกฎหมาย และการเข้าไปทำนาถือเป็นการรบกวนการครอบครอง
แม้จะได้ความว่าการเช่านาพิพาทไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อกัน แต่การที่เจ้าของนายินยอมให้ใช้นาเพื่อทำนาโดยได้รับค่าเช่านา ก็ถือได้ว่า เป็นการเช่านาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 4เมื่อผู้เสียหายเช่านาพิพาทจากจำเลยผู้เสียหายจึงเป็นผู้ครอบครองนาพิพาท การที่จำเลยเข้าไปไถหว่านข้าวในนาพิพาท จึงเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครอง ของผู้เสียหาย เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองนาเช่าและการรบกวนการครอบครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
แม้จะได้ความว่าการเช่านาพิพาทไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อกัน แต่การที่เจ้าของนายินยอมให้ใช้นาเพื่อทำนาโดยได้รับค่าเช่านา ก็ถือได้ว่าเป็นการเช่านาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 เมื่อผู้เสียหายเช่านาพิพาทจากจำเลยผู้เสียหายจึงเป็นผู้ครอบครองนาพิพาท การที่จำเลยเข้าไปไถหว่านข้าวในนาพิพาท จึงเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองผู้เสียหาย เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่านา: สิทธิผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และความรับผิดของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ทำนาของจำเลย ค่าพันธุ์ข้าวปลูกโจทก์จำเลยออกกันคนละกึ่งส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นโจทก์เป็นผู้ออก ผลประโยชน์ที่ได้จากการทำนาแบ่งกันคนละครึ่ง โจทก์จะทำนาได้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่ความสามารถของโจทก์ จำเลยมิได้กำหนดกฎเกณฑ์หรือสั่งการและควบคุมโจทก์ ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวไม่อยู่ในฐานะนายจ้างลูกจ้าง
การที่จำเลยยอมให้โจทก์ใช้นาพิพาทของจำเลยเพื่อทำนาโดยจำเลยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นข้าวอันเป็นผลผลิตจากการทำนา เช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เช่านาพิพาทตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 แล้ว แม้การเช่าจะมิได้กำหนดเวลากันไว้ก็ตาม ก็ถือว่าการเช่านารายนี้มีกำหนดเวลา 6 ปีตามมาตรา 5 แห่งกฎหมายดังกล่าว จำเลยจึงมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องให้โจทก์เช่าจนครบ 6 ปี
แม้ว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาจะยังไม่ถึงที่สุดเมื่อสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่สิ้นสุด และจำเลยขัดขวางมิให้โจทก์เข้าทำนาตามสิทธิ์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหายซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์จะอ้างว่าตนเข้าครอบครองนาพิพาทระหว่างรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่
เดิมโจทก์เช่านาพิพาทกับจำเลยคนหนึ่ง ต่อมาจำเลยคนนั้นโอนนาพิพาทไปให้จำเลยอีกคนหนึ่ง จำเลยผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของจำเลยคนก่อนที่มีต่อโจทก์ผู้เช่านา ตามมาตรา 29 แห่งกฎหมายดังกล่าว จำเลยผู้รับโอนจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
แม้จำเลยคนหนึ่งจะไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งให้รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมร่วมกับจำเลยอีกคนหนึ่งผู้ซึ่งจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่านา: สิทธิผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และความรับผิดของผู้รับโอนสิทธิ
โจทก์ทำนาของจำเลย ค่าพันธุ์ข้าวปลูกโจทก์จำเลยออกกันคนละกึ่ง ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นโจทก์เป็นผู้ออก ผลประโยชน์ที่ได้จากการทำนาแบ่งกันคนละครึ่ง โจทก์จะทำนาได้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่ความสามารถของโจทก์ จำเลยมิได้กำหนดกฎเกณฑ์หรือสั่งการและควบคุมโจทก์ ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวไม่อยู่ในฐานะนายจ้างลูกจ้าง
การที่จำเลยยอมให้โจทก์ใช้นาพิพาทของจำเลยเพื่อทำนาโดยจำเลยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นข้าวอันเป็นผลผลิตจากการทำนา เช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เช่านาพิพาทตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 แล้ว แม้การเช่าจะมิได้กำหนดเวลากันไว้ก็ตาม ก็ถือว่าการเช่านารายนี้มีกำหนดเวลา 6 ปี ตามมาตรา 5 แห่งกฎหมายดังกล่าว จำเลยจึงมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องให้โจทก์เช่าจนครบ 6 ปี
แม้ว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาจะยังไม่ถึงที่สุด เมื่อสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่สิ้นสุด และจำเลยขัดขวางมิให้โจทก์เข้าทำนาตามสิทธิ์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหายซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์จะอ้างว่าคนเข้าครอบครองนาพิพาทระหว่างรพอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่
เดิมโจทก์เช่านาพิพาทกับจำเลยคนหนึ่ง ต่อมาจำเลยคนนั้นโอนนาพิพาทไปให้จำเลยอีกคนหนึ่ง จำเลยผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของจำเลยคนก่อน- ที่มีต่อโจทก์ผู้เช่านา ตามมาตรา 29 แห่งกฎหมายดังกล่าว จำเลยผู้รับโอนจริงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
แม้จำเลยคนหนึ่งจะไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งให้รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมร่วมกับจำเลยอีกคนหนึ่งผู้ซึ่งจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่านาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มีความหมายพิเศษ แตกต่างจากเช่าทรัพย์สินทั่วไป
การเช่านานั้นพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 บัญญัติให้ความหมายไว้เป็นพิเศษแตกต่างไปจากการเช่าทรัพย์สินตาม ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อมีบทกฎหมายว่าด้วยการเช่านาไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะแล้วจะนำบทบัญญัติทั่วไปว่าด้วยการเช่าทรัพย์สินในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับได้
of 2