พบผลลัพธ์ทั้งหมด 258 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้อง: แม้ใช้คำไม่ตรงตามกฎหมาย แต่หากใจความชัดเจนถือเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องสมบูรณ์
แม้ข้อความในเอกสารจะใช้ถ้อยคำว่า "โอนสิทธิรับเงินสินจ้าง"โดยมิได้ใช้คำว่า "โอนสิทธิเรียกร้อง" ตามชื่อที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยตรงก็ตาม แต่เมื่อใจความในเอกสารดังกล่าวทั้งฉบับเป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ย่อมต้องฟังว่าเป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้อง และแม้หลักฐานการขอเบิกและจ่ายเงินจะระบุชื่อจำเลยร่วมผู้โอนสิทธิเรียกร้องเป็นผู้ขอเบิกและผู้รับก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้การโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายอยู่แล้วต้องเสียไปการที่จำเลยร่วมผู้โอนสิทธิเรียกร้องมีหนังสือบอกเลิกการโอนสิทธิเรียกร้องถึงโจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องและจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยโจทก์มิได้ตกลงยินยอมด้วยนั้น ย่อมไม่มีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากหนี้ตามสิทธิเรียกร้องดังกล่าวที่มีต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาของโจทก์และการดำเนินกระบวนการต่อไปของจำเลย ศาลชอบด้วยกฎหมาย
ในคดีที่ศาลกำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อนทุกประเด็น การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานจำเลยนัดแรกโดยโจทก์ได้ทราบวันนัดโดยชอบแล้ว และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแต่ประการใด เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไปในวันเดียวกันนั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แจ้งให้ศาลทราบโดยปริยายว่าจำเลยได้ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 201 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาของโจทก์และการแจ้งความประสงค์ของจำเลยในการดำเนินคดีต่อ ศาลชอบด้วยกฎหมายที่จะพิจารณาคดีต่อไป
ในคดีที่ศาลกำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อนทุกประเด็น การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานจำเลยนัดแรกโดยโจทก์ได้ทราบวันนัดโดยชอบแล้ว และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยไปในวันเดียวกันนั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แจ้งให้ศาลทราบโดยปริยายว่า จำเลยได้ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาของโจทก์และการดำเนินการสืบพยานจำเลยโดยชอบตามกฎหมาย
ในคดีที่ศาลกำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อนทุกประเด็น การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานจำเลยนัดแรกโดยโจทก์ได้ทราบวันนัดโดยชอบแล้ว และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแต่ประการใด เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไปในวันเดียวกันนั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แจ้งให้ศาลทราบโดยปริยายว่าจำเลยได้ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๐๑ แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอน
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๙ วรรคสองเฉพาะ เจ้าหนี้ผู้รับจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าหนี้ผู้ทรงบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์อันได้ จดทะเบียนไว้เท่านั้นที่ต้อง ร้องขอรับชำระหนี้เข้ามาก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ส่วนในกรณีอื่น ๆ ให้ยื่นคำร้องขอเสียก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดีส่งคำบอกกล่าวตาม ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๑๙
เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ดำเนินการตาม บทบัญญัตมาตรา ๓๑๙ ผู้ร้องซึ่ง เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองสังหาริมทรัพย์จึงยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น.
เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ดำเนินการตาม บทบัญญัตมาตรา ๓๑๙ ผู้ร้องซึ่ง เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองสังหาริมทรัพย์จึงยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้จำนองในการขอรับชำระหนี้ก่อนการขายทอดตลาด หากเจ้าพนักงานบังคับคดียังไม่ได้แจ้งหนี้อื่น
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองเฉพาะ เจ้าหนี้ผู้รับจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าหนี้ผู้ทรงบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์อันได้ จดทะเบียนไว้เท่านั้นที่ต้อง ร้องขอรับชำระหนี้เข้ามาก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ส่วนในกรณีอื่น ๆ ให้ยื่นคำร้องขอเสียก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดีส่งคำบอกกล่าวตาม ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 319 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ดำเนินการตาม บทบัญญัตมาตรา 319 ผู้ร้องซึ่ง เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองสังหาริมทรัพย์จึงยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้จำนองในการรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นจากการบังคับคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองเฉพาะเจ้าหนี้ผู้รับจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าหนี้ผู้ทรงบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์อันได้จดทะเบียนไว้เท่านั้นที่ต้องร้องขอรับชำระหนี้เข้ามา ก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินส่วนในกรณีอื่น ๆ ให้ยื่นคำร้องขอเสียก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดีส่งคำบอกกล่าวตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 319 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการตามบทบัญญัติมาตรา 319 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองสังหาริมทรัพย์ จึงยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการจำกัดเฉพาะคดีผิดสัญญาประกัน ไม่ครอบคลุมการขอคืนหลักประกันหลังความรับผิดสิ้นสุด
พนักงานอัยการมีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวกับสัญญาประกันจำเลย เฉพาะกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันเพื่อดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกันเท่านั้น การที่ผู้ประกันขอรับหลักประกันคืนภายหลังความรับผิดตามสัญญาประกันหมดไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 118 แม้ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งเป็นประการใด พนักงานอัยการก็ไม่มีอำนาจที่จะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอัยการจำกัดเฉพาะคดีผิดสัญญาประกันหลังคดีถึงที่สุด เมื่อไม่มีผิดสัญญา อัยการไม่มีอำนาจฎีกา
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งสามชั่วคราวระหว่างสอบสวน โดย ฉ. ผู้ประกันได้วางหลักประกันเป็นเงินสด 60,000 บาท และทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลชั้นต้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ฉ. มาขอหลักประกันคืน ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนหลักประกันแก่ผู้ประกัน ดังนี้ พนักงานอัยการจะฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการเกี่ยวกับสัญญาประกันนั้นมีเฉพาะกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันแต่เมื่อความรับผิดตามสัญญาประกันของ ฉ. สิ้นสุดลงแล้ว อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกันก็ย่อมเป็นอันสิ้นสุดลงด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเรียกร้องเช็คและการชำระหนี้ใหม่ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายเช็ค
จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่ภริยาโจทก์ 3 ฉบับ ฉบับละ 40,000 บาทธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว 2 ฉบับ ส่วนอีก 1 ฉบับคือเช็คพิพาทยังไม่ถึงกำหนดใช้เงิน ต่อมาจำเลยชำระเงินสด 12,000 บาท และชำระด้วยเช็คที่ ด.ออกและจำเลยสลักหลัง จำนวน 108,000 บาท ตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนเช็ค 3 ฉบับเดิมแล้วขอเช็ค 3 ฉบับเดิมคืนภริยาโจทก์ยอมคืนให้ 2 ฉบับ ส่วนเช็คพิพาทไม่ยอมคืนให้ ต่อมาภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค แก่ ด.และจำเลยแล้ว พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าภริยาโจทก์ตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนสิทธิที่มีอยู่ตามเช็คพิพาท เป็นการสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คพิพาทอีกต่อไปรวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยหากธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คพิพาทด้วย โจทก์ซึ่งทราบข้อตกลงระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยดังกล่าวดี ได้นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงิน แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค