คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มงคล เปาอินทร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 258 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2980/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากพฤติกรรมร้ายแรงของคู่สมรสและการแบ่งสินสมรส รวมถึงความรับผิดร่วมในหนี้สิน
การที่จำเลยเมาสุรากลับเข้าบ้านและด่า โจทก์ว่า "มึงเลว มึงมีชู้ ไม่สมควรอยู่กับกู แม่มึงไม่ดี ไม่เคยสั่งสอน" แล้วจำเลยยังได้ตบ ตีโจทก์ได้รับบาดเจ็บบริเวณขอบตาซ้าย จนโจทก์ต้องรับการรักษาจากแพทย์ในวันรุ่งขึ้น โจทก์ต้องออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับน้องสาวเพราะได้รับความคับแค้นใจจากการอยู่กินกับจำเลยนั้น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง พร้อมทั้งเป็นการทำร้ายร่างกายโจทก์ จึงมีเหตุให้โจทก์หย่าขาดจากจำเลยได้ จำเลยกู้เงินบุคคลภายนอกมาใช้จ่ายเกี่ยวกับที่ดินและบ้านซึ่งเป็นสินสมรสโดยโจทก์มีส่วนรู้เห็นในการกู้เงินดังกล่าวโจทก์จึงต้องร่วมกับจำเลยในการชำระหนี้รายนี้ ฉะนั้นศาลมีคำพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกัน ศาลย่อมกำหนดให้โจทก์จำเลยร่วมกันรับผิดชำระหนี้รายนี้คนละครึ่งได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2506/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการละเมิด: การคำนวณต้นทุนการซ่อมและค่าแรงพนักงานที่เกี่ยวข้อง
จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ แม้ค่าใช้จ่ายและค่าควบคุมการซ่อมจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่โจทก์จะต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่โจทก์ต้องเสียไปในการซ่อมความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้ จึงถือได้ว่าเป็นต้นทุนในการซ่อมที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ส่วนเงินค่าแรงที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่พนักงานของโจทก์ในการซ่อมแซมความเสียหายเกี่ยวกับรถไฟ เสาโทรเลข สายควบคุมพร้อมอุปกรณ์ และอื่น ๆ อันเกิดจากการทำละเมิดนั้น แม้พนักงานของโจทก์จะได้รับเงินเดือนจากโจทก์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีการละเมิดเกิดขึ้น โจทก์ก็ย่อมไม่ต้องใช้พนักงานของโจทก์ไปทำงานนั้น หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องจ้างเหมาให้บุคคลอื่นทำการซ่อมแซมแทน จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินค่าแรงดังกล่าวให้โจทก์เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2506/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหายจากการละเมิด และค่าแรงพนักงานที่ถูกใช้ในการซ่อมแซม ถือเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิด
แม้ค่าใช้จ่ายและค่าควบคุมการซ่อมจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่โจทก์จะต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่โจทก์ต้องเสียไปในการซ่อมความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้ จึงถือได้ว่าเป็นต้นทุนในการซ่อมที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
เงินค่าแรงที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่พนักงานของโจทก์ในการซ่อมแซมความเสียหายเกี่ยวกับรถไฟ เสาโทรเลข สายควบคุมพร้อมอุปกรณ์และอื่น ๆ อันเกิดจากการทำละเมิดของจำเลยที่ 1 แม้พนักงานของโจทก์จะได้รับเงินเดือนจากโจทก์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อโจทก์ต้องใช้พนักงานของโจทก์ไปซ่อมแซม เพราะถ้าไม่มีการละเมิดเกิดขึ้น โจทก์ก็ย่อมไม่ต้องใช้พนักงานของโจทก์ไปทำงานนั้น หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องจ้างเหมาให้บุคคลอื่นทำการซ่อมแซมแทน จำเลยทั้งห้าจึงต้องรับผิดชดใช้เงินค่าแรงดังกล่าวให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2506/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมความเสียหายจากละเมิด: ต้นทุนที่จำเลยต้องรับผิด
แม้ค่าใช้จ่ายและค่าควบคุมการซ่อมจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่โจทก์จะต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่โจทก์ต้องเสียไปในการซ่อมความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้ จึงถือได้ว่าเป็นต้นทุนในการซ่อมที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ เงินค่าแรงที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่พนักงานของโจทก์ในการซ่อมแซมความเสียหายเกี่ยวกับรถไฟ เสาโทรเลข สายควบคุมพร้อมอุปกรณ์และอื่น ๆ อันเกิดจากการทำละเมิดของจำเลยที่ 1 แม้พนักงานของโจทก์จะได้รับเงินเดือนจากโจทก์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อโจทก์ต้องใช้พนักงานของโจทก์ไปซ่อมแซม เพราะถ้าไม่มีการละเมิดเกิดขึ้น โจทก์ก็ย่อมไม่ต้องใช้พนักงานของโจทก์ไปทำงานนั้น หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องจ้างเหมาให้บุคคลอื่นทำการซ่อมแซมแทน จำเลยทั้งห้าจึงต้องรับผิดชดใช้เงินค่าแรงดังกล่าวให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2501/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลชั้นต้นหลังรับฎีกา: การขอเป็นคู่ความแทนผู้มรณะ
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยแล้ว คดีจึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ภริยาโจทก์เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะได้ คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องไม่ชัดเจนเรื่องขอบเขตที่ดิน ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนอกฟ้อง
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่เป็นที่ดินที่อยู่นอกเขตที่ดินโฉนด ที่ 2802 ของโจทก์ ซึ่ง โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง แต่ โจทก์กลับฎีกาว่าที่ดินโฉนด ที่ 2802 ของโจทก์ติดต่อ เป็นผืนเดียว กับที่ดินเลขที่ 27 ซึ่ง โจทก์เป็นผู้ครอบครองฎีกาของโจทก์จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น มิใช่เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2147/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานเบิกความสอดคล้อง ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่ขัดแย้ง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
ผลการตรวจพิสูจน์ที่ว่าขนอวัยวะเพศซึ่งตรวจพบที่ช่องคลอดผู้เสียหายไม่ใช่ขนอวัยวะเพศของจำเลยนั้นเป็นเพียงความเห็นของผู้ทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ถึงกับจะทำให้คำเบิกความพยานโจทก์รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2147/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเบิกความพยานเชื่อถือได้ แม้ผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ตรงกัน คดีข่มขืนกระทำชำเรา
ผลการตรวจพิสูจน์ว่าขนอวัยวะเพศซึ่งตรวจพบที่ช่องคลอดผู้เสียหายไม่ใช่ขนอวัยวะเพศของจำเลยนั้น เป็นเพียงความเห็นของผู้ทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ถึงกับจะทำให้คำเบิกความพยานโจทก์รับฟังไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลมีผลผูกพัน แม้มีสัญญาภายหลังที่ไม่ได้รับการรับรองจากศาล
แม้โจทก์ทำสัญญายอมความกับจำเลยไว้อีกฉบับหนึ่งในวันเดียวกันกับวันที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลว่าโจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในตึกพิพาทต่อไปจนกว่าโจทก์จะรื้อถอนตึกพิพาทเพื่อทำการก่อสร้าง แต่สัญญายอมความดังกล่าวโจทก์จำเลยก็มิได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจึงไม่อาจรับรู้ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยได้ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ต่อหน้าศาล ศาลย่อมออกหมายบังคับคดีตามที่โจทก์ร้องขอเพื่อบังคับคดีเอากับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการบังคับคดี: สัญญาที่ไม่ทำต่อหน้าศาล ไม่อาจบังคับได้
เมื่อโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมออกจากตึกพิพาท และศาลมีคำพิพากษาตามยอมแล้ว แม้จะได้ความว่า โจทก์ทำสัญญายอมความกับจำเลยไว้อีกฉบับหนึ่งในวันเดียวกัน โดยโจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในตึกพิพาทต่อไปจนกว่าโจทก์จะรื้อถอนตึกพิพาทเพื่อทำก่อสร้าง แต่สัญญายอมความดังกล่าวมิได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจึงไม่อาจรับรู้ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวได้ จำเลยจะมีสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอย่างไรหรือไม่ เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวเอากับโจทก์ใหม่ต่างหาก เมื่อจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความศาลก็ต้องออกหมายบังคับคดีตามที่โจทก์ร้องขอ กรณีไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอให้งดการบังคับคดีและเพิกถอนหมายบังคับคดี.
of 26