คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1375

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2749/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินที่เจตนาลวงและผลกระทบต่อบุคคลภายนอกที่ไม่สุจริต รวมถึงอายุความการฟ้องแย่งการครอบครอง
โจทก์มิได้มีเจตนาจะโอนขายที่ดินพิพาทให้ ส.แต่ได้ทำพินัยกรรมขายเพียงเพื่อให้ ส. นำไปเป็นหลักทรัพย์ประกันเงินกู้ของธนาคารเท่านั้น นิติกรรมขายระหว่างโจทก์และ ส.จึงเป็นการแสดงเจตนาลวง จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของส.ทราบถึงการแสดงเจตนาลวงระหว่างโจทก์กับส. การที่จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2ทราบว่าโจทก์ไม่ได้โอนขายที่ดินพิพาทให้ ส. และยอมให้โจทก์ไถ่ถอน จำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตโจทก์อ้างโมฆะกรรมต่อสู้จำเลยที่ 2 ได้ ท. ได้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ตลอดมา เพิ่งมาบอกโจทก์ว่าจะไม่ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์โดยครอบครองแทนจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2533 โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 15 กรกฎาคม2534 จึงเป็นการฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่จำเลยที่ 2 แย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2749/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายที่ดินโดยมีเจตนาลวงและผลกระทบต่อบุคคลภายนอกที่สุจริต การฟ้องเพิกถอนภายในอายุความ
โจทก์มิได้มีเจตนาจะโอนขายที่ดินพิพาทให้ส. แต่ได้ทำนิติกรรมขายเพียงเพื่อให้ส. นำไปเป็นหลักทรัพย์ประกันเงินกู้ของธนาคารเท่านั้นนิติกรรมขายระหว่างโจทก์และส. จึงเป็นการแสดงเจตนาลวงจำเลยที่1ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของส. ทราบถึงการแสดงเจตนาลวงระหว่างโจทก์กับส. การที่จำเลยที่2ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่1โดยจำเลยที่2ทราบว่าโจทก์ไม่ได้โอนขายที่ดินพิพาทให้ส. และยอมให้โจทก์ไถ่ถอนจำเลยที่2จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตโจทก์อ้างโมฆะกรรมต่อสู้จำเลยที่2ได้ ท. ได้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ตลอดมาเพิ่งมาบอกโจทก์ว่าจะไม่ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์โดยครอบครองแทนจำเลยที่2ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1381เมื่อวันที่21กันยายน2533โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่15กรกฎาคม2534จึงเป็นการฟ้องภายใน1ปีนับแต่จำเลยที่2แย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิติดตามเอาคืนทรัพย์สิน: เจ้าของกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง ย่อมมีสิทธิเรียกคืนจากผู้ไม่มีสิทธิ
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทรายการที่1ถึงที่4จึงมีสิทธิติดตามเอาคืนจากจำเลยได้ ทรัพย์พิพาทรายการที่5ไม่ใช่ทรัพย์ของโจทก์แต่เป็นทรัพย์ของผู้อื่นที่โจทก์ขอยืมมาแล้วให้ ท.ยืมไปอีกต่อหนึ่งดังนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิครอบครองในทรัพย์พิพาทรายการนี้เมื่อทรัพย์พิพาทรายการนี้ไปตกอยู่กับจำเลยโดยจำเลยไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของโจทก์ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในทรัพย์รายการนี้ย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนจากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องกรณีบุกรุกที่ดินและประเด็นคำให้การที่ไม่ชัดเจน ทำให้ฎีกาต้องห้าม
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าจำเลยที่1บุกรุกที่ดินโจทก์และนำที่ดินดังกล่าวให้จำเลยที่2เช่าปลูกอ้อยจำเลยที่1ให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยที่1ไม่ใช่ของโจทก์หากฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์คดีย่อมขาดอายุความฟ้องร้องเพราะจำเลยที่1เข้าทำประโยชน์มาก่อนฟ้องเกินกว่า1ปีเป็นคำให้การไม่ชัดแจ้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยหรือของโจทก์และขัดแย้งกันเองไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสองไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์ฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในกำหนดเวลา1ปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองหรือไม่การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นดังกล่าวจึงไม่ชอบถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามมาตรา249วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาคดีก่อนผูกพันคู่ความ แม้จำเลยอ้างสิทธิครอบครองใหม่ภายหลังคำพิพากษา โจทก์ยังมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
เมื่อศาลได้วินิจฉัยถึงสิทธิระหว่างโจทก์จำเลยในคดีก่อนว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่ในที่พิพาทเท่านั้นมิใช่จำเลยครอบครองอย่างเป็นเจ้าของและคดีได้ถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145จำเลยจะอ้างสิทธิต่อสู้คดีให้เป็นอย่างอื่นหาได้ไม่ถ้าจำเลยจะมีสิทธิครอบครองอย่างเป็นเจ้าของก็ต้องเป็นสิทธิที่จำเลยมีขึ้นใหม่ภายหลังคำพิพากษาเมื่อยังไม่เกิน1ปีโจทก์ยังมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากโมฆะ สิทธิครอบครองยังเป็นของเดิม ผู้ครอบครองแทนไม่ใช่การแย่งครอง
สัญญาขายฝากที่พิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตกเป็นโมฆะจำเลยจะอ้างสิทธิการได้มาโดยการครอบครองโดยนิติกรรมการขายฝากไม่ได้เพราะการขายฝากนั้นไม่ถือว่าผู้ขายฝากสละเจตนาครอบครองโดยเด็ดขาดให้แก่ผู้ซื้อฝากการที่จำเลยครอบครองที่พิพาทก็โดยอาศัยอำนาจของโจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครองที่พิพาทถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้จำเลยแล้วส่วนข้อตกลงที่ว่าโจทก์จะนำเงินมาไถ่ที่พิพาทคืนภายใน15วันนับแต่วันทำสัญญาหรือภายในเดือนกุมภาพันธ์2530นอกจากตกลงกันได้เป็นอย่างอื่นเมื่อไม่ได้ตกลงว่าหากโจทก์ไม่นำเงินไปชำระหนี้ภายในกำหนดให้ถือว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้จำเลยหรือให้ที่พิพาทตกเป็นของจำเลยแม้โจทก์ไม่ได้นำเงินไปไถ่ที่พิพาทคืนตามกำหนดก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้จำเลยแล้วทั้งถือไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนแปลงการยึดถือที่พิพาทเพื่อตนเองให้โจทก์ทราบแล้วโจทก์จึงไม่ได้ถูกจำเลยแย่งการครอบครองที่จะต้องฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่า: สิทธิเรียกร้องเกิดจากคำพิพากษาชั้นที่สุดไม่ใช่การครอบครอง
สิทธิเรียกร้องซึ่งมีกำหนดอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา168(เดิม)หมายถึงสิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นโดยผลของคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลมิได้หมายถึงการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองซึ่งต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองตามมาตรา1375 คดีก่อนที่ศาลตัดสินว่าโจทก์(จำเลยคดีนี้)ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองพิพากษายกฟ้องไม่ได้ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องแก่โจทก์เมื่อโจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครองโจทก์จะต้องฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในหนึ่งปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองเมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกินกำหนดเวลาดังกล่าวจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยจึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งการครอบครองที่ดินต้องมีการครอบครองจริงด้วยตนเองหรือผู้แทน การขอ น.ส.3 ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
ผู้แย่งการครอบครองจะต้องเข้าไปครอบครองที่ดินด้วยตนเองหรือโดยผู้แทน เมื่อ ก. ผู้ซึ่งขายที่ดินพิพาทให้จำเลยไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินหรือให้บุคคลอื่นครอบครองแทน ก. เพียงขอออก น.ส.3 ก. ทับที่ดินโจทก์ แม้โจทก์ทราบการกระทำดังกล่าวโดย ก. แจ้งให้ทราบแล้ว ก็ไม่ใช่การแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งการครอบครองต้องมีการเข้าครอบครองจริง การขอออกน.ส.3ก.ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
ผู้แย่งการครอบครองจะต้องเข้าไปครอบครองที่ดินด้วยตนเองหรือโดยผู้แทนศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเพียงว่าประมาณเดือนกุมภาพันธ์2531 ก. ไปบอกโจทก์ว่าได้ออกน.ส.3ก.ทับที่ดินพิพาทของโจทก์ยังไม่พอจะนำมาวินิจฉัยว่า ก.ได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่เวลาดังกล่าวการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ทราบว่า ก. ออกน.ส.3ก.ทับที่ดินพิพาทของโจทก์ย่อมแสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าโจทก์ได้ทราบว่า ก. ได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2531แล้วโจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินกว่าหนึ่งปีขาดสิทธิฟ้องเอาคืนเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบเมื่อ ก. ไม่เคยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทหรือให้บุคคลอื่นครอบครองแทน ก.เพียงขอออกน.ส.3ก.ทับที่ดินโจทก์แม้โจทก์ทราบการกระทำดังกล่าวของ ก.แล้วก็ไม่ใช่การแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยเรื่องระยะเวลาฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้
ปัญหาว่าศาลชอบที่จะยกปัญหาเรื่องระยะเวลาการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินขึ้นวินิจฉัยหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
of 84