พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5431/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด vs. สิทธิครอบครองเดิม ผู้ซื้อย่อมได้สิทธิเหนือกว่าหากผู้ครอบครองไม่คัดค้าน
กรณีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1330 ผู้ครอบครองทรัพย์จะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อทรัพย์ได้ไม่ แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดิน-พิพาทมาโดยตลอด แต่จำเลยมิได้ร้องคัดค้านเสียตั้งแต่ต้น กลับปล่อยให้มีการขายทอดตลาดจนสำเร็จบริบูรณ์โดยโจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทดังกล่าวไปแล้ว สิทธิครอบ-ครองของจำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้
จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่า โจทก์บกพร่องซื้อที่ดินพิพาทโดยไม่สืบเรื่องราวก่อนว่ามีสิทธิหรือไม่ โดยมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบว่าที่ดินพิพาทโจทก์ได้มาโดยสุจริตหรือไม่เพียงใด
จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่า โจทก์บกพร่องซื้อที่ดินพิพาทโดยไม่สืบเรื่องราวก่อนว่ามีสิทธิหรือไม่ โดยมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบว่าที่ดินพิพาทโจทก์ได้มาโดยสุจริตหรือไม่เพียงใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5431/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด สิทธิของผู้ซื้อ vs. ผู้ครอบครองเดิม
กรณีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ผู้ครอบครองทรัพย์จะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อทรัพย์ได้ไม่ แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยตลอด แต่จำเลยมิได้ร้องคัดค้านเสียตั้งแต่ต้นกลับปล่อยให้มีการขายทอดตลาดจนสำเร็จบริบูรณ์โดยโจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทดังกล่าวไปแล้ว สิทธิครอบครองของจำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่า โจทก์บกพร่องซื้อที่ดินพิพาทโดยไม่สืบเรื่องราวก่อนว่ามีสิทธิหรือไม่ โดยมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบว่าที่ดินพิพาทโจทก์ได้มาโดยสุจริตหรือไม่เพียงใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4936/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นแย่งการครอบครองที่ดิน ศาลต้องพิจารณาตามประเด็นที่จำเลยต่อสู้ ไม่ใช่ปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและให้รื้อขนำของจำเลยที่ปลูกอยู่ในที่ดินที่โจทก์ซื้อมา จำเลยให้การต่อสู้ว่าเดิมที่ดินพิพาทเป็นของบิดาจำเลยที่ 2 ซึ่งยกให้แก่จำเลยทั้งสองครอบครองและทำประโยชน์ตลอดมา ตามคำให้การของจำเลยไม่อาจมีปัญหาเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินที่จำเลยปลูกขนำอยู่จากโจทก์ จึงไม่มีการอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสองเพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น เมื่อจำเลยอ้างในคำให้การว่าจำเลยครอบครองที่ดินของจำเลยเอง ศาลจึงไม่อาจยกการแย่งการครอบครองขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4603/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: การแย่งการครอบครองและการฟ้องแย้งสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินโจทก์ขอให้ขับไล่ การที่จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองจำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจกท์มาแล้วกว่า 1 ปี และโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง นั้น คดีคงมีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่พิพาท กรณีไม่มีประเด็นในเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินตาม ป.พ.พ.มาตรา 1375 เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4603/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: การแย่งการครอบครองไม่เกิดขึ้นหากผู้ถูกแย่งเป็นเจ้าของ
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินโจทก์ ขอให้ขับไล่ การที่จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองจำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจทก์มาแล้วกว่า1 ปี และโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง นั้น คดีคงมีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่พิพาท กรณีไม่มีประเด็นในเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4119/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินจากผู้ไม่มีสิทธิและการครอบครองแทนเจ้าของเดิม สิทธิการครอบครองไม่เกิดขึ้น
ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยมิได้ยินยอมหรือรู้เห็นให้มารดาจำเลยขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ การที่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากมารดาจำเลยผู้ไม่มีสิทธิย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิใด ๆ แก่โจทก์แม้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขายก็ต้องถือว่าเป็นการครอบครองแทนจำเลย แม้ฟังว่าจำเลยทราบเรื่องหลังวันทำสัญญาประมาณ 3 เดือนจึงไปขอไถ่ที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์โจทก์ยอมให้ไถ่โดยมีข้อตกลงว่าหากจำเลยมีเงินเมื่อใดก็นำไปไถ่ได้นั้น ถือได้ว่าเป็นเพียงการที่จำเลยยินยอมให้โจทก์ครอบครองแทนต่อไปเท่านั้น และเนื่องจากโจทก์มิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นโดยการแย่งการครอบครอง แม้โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมาจนปัจจุบันก็มิได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4119/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินจากผู้ไม่มีสิทธิและสิทธิการครอบครอง
ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยมิได้ยินยอมหรือรู้เห็นให้มารดาจำเลยขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ การที่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากมารดาจำเลยผู้ไม่มีสิทธิย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิใด ๆ แก่โจทก์ แม้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขาย ก็ต้องถือว่าเป็นการครอบครองแทนจำเลย แม้ฟังว่าจำเลยทราบเรื่องหลังวันทำสัญญาประมาณ 3 เดือนจึงไปขอไถ่ที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์ โจทก์ยอมให้ไถ่โดยมีข้อตกลงว่าหากจำเลยมีเงินเมื่อใดก็นำไปไถ่ได้นั้น ถือได้ว่าเป็นเพียงการที่จำเลยยินยอมให้โจทก์ครอบครองแทนต่อไปเท่านั้น และเนื่องจากโจทก์มิได้เข้าครอบ-ครองที่ดินนั้นโดยการแย่งการครอบครอง แม้โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมาจนปัจจุบันก็มิได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากจำเลยยังไม่ได้รบกวนการครอบครอง โจทก์ต้องแสดงการโต้แย้งสิทธิชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ส.ขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 2 แปลง ซึ่งเป็นที่พิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 75,500 บาทส.ได้รับเงินครบถ้วนแล้ว และมอบการครอบครองที่พิพาทให้โจทก์ตั้งแต่วันทำสัญญา โจทก์ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมากว่า 9 ปี จำเลยยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของ ส.โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นมรดกของส.ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าว ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์ หรือแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์แต่อย่างใดอันจะถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2889/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินมือเปล่าและการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกายกประเด็นข้อกฎหมายและส่งกลับให้ศาลชั้นต้นพิจารณา
ที่ดินมือเปล่า ไม่สามารถมีกรรมสิทธิ์ และไม่มีกรณีที่จะได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 โจทก์อุทธรณ์ว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าย่อมครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 มาวินิจฉัยจึงไม่ถูกต้องเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทหรือไม่ จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่และต้องรับผิดในทางแพ่งต่อโจทก์หรือไม่ ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2726/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินหลังจากการยึดถือแทนโจทก์ สิทธิในการฟ้องเรียกคืนครอบครองขาดอายุความ
แม้เดิมจำเลยจะยึดถือที่พิพาทไว้เพื่อทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้อันเป็นการยึดถือไว้แทนโจทก์ แต่เมื่อโจทก์ขอไถ่ถอนที่ดินพิพาทคืนจำเลยไม่ยอมให้โจทก์ไถ่ถอนคืน กรณีจึงเป็นการที่จำเลยยึดถือที่ดินพิพาทอยู่ในฐานะผู้แทนผู้ครอบครองคือโจทก์ แล้วจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โดยบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป เป็นการแสดงเจตนาแย่งการครอบครองจากโจทก์ตลอดมา โจทก์มิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง ย่อมหมดสิทธิจะเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาท