คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1375

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2921/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน การครอบครองแทนผู้ชนะคดี และอำนาจฟ้องจากการมอบอำนาจ
บุตรและภรรยาของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ครอบครองที่ดินพิพาทในระหว่างที่โจทก์ดำเนินคดีอาญากล่าวหาว่า จำเลยบุกรุกครอบครองที่พิพาทของโจทก์ก็ไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยเจตนายึดถือเพื่อตนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 เพราะเป็นเพียงการครอบครองแทนผู้ชนะคดี เมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1 ยังไม่เกิน 1 ปีจำเลยที่ 1 จึงไม่ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท เมื่อหนังสือมอบอำนาจของ ก. ระบุไว้ชัดแจ้งว่า ก.มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจจัดการยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ ตลอดจนให้ถ้อยคำต่าง ๆต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ถือได้ว่า ก. ได้สละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์แล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 และ 1378.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2792/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองที่ดินจากแทนกันเป็นเพื่อตน ต้องบอกกล่าวภายใน 1 ปี มิฉะนั้นสิทธิเรียกคืนจะเกิดขึ้น
จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของผู้ตายได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นทายาทผู้ตายเช่นกัน หากจำเลยจะยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทเพื่อตน จำเลยจะต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตนไปยังโจทก์ทั้งสามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ก่อนจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ทั้งสามต่อเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อเดือนสิงหาคม 2522 แต่โจทก์ทั้งสามไม่ทราบถึงการยื่นคำคัดค้านดังกล่าว ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2529 เจ้าหน้าที่ที่ดินได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทั้งสามไปรับ น.ส.3 ก. โจทก์ทั้งสามไปรับแต่จำเลยไปคัดค้านไม่ยอมให้รับอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยถือได้ว่าเดือนพฤษภาคม 2529 จำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตน ซึ่งนับถึงวันที่ฟ้องคดีนี้ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิฟ้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากจำเลยได้ ตามมาตรา 1375 จะนำอายุความตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และอายุความฟ้องคดีแย่งการครอบครอง ที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์
การที่โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยได้บุกรุกที่ดินของโจทก์ตั้งแต่ปี 2528 ตลอดมาจนถึงปี 2530 ซึ่งเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี แล้ว นั้น ศาลสามารถหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปอีก ดังนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะได้ดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป และโจทก์นำพยานมาสืบเป็นอย่างอื่นก็ถือได้ว่าโจทก์สืบพยานนอกฟ้องนอกประเด็นรับฟังไม่ได้ที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกเอาข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องขึ้นเป็นข้อวินิจฉัยจึงเป็นการพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมายและตรงตามข้อหาในคำฟ้องแล้ว เมื่อฟังว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทเกิน1 ปี แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้มีการคัดค้านการขายและคดีไม่ถึงที่สุด ผู้ซื้อมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้
โจทก์ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลและได้จดทะเบียนรับโอนที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดินเรียบร้อยแล้วจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว และในการขายทอดตลาดนั้นจำเลยร้องคัดค้านการขายทอดตลาดอ้างว่าขายในราคาต่ำ ขอให้ยกเลิกการขาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ดังนี้ สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลโดยสุจริตย่อมเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330โจทก์ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิในที่ดินมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ซื้อได้ไม่ว่าคดีที่จำเลยร้องคัดค้านการขายทอดตลาดจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ในกรณียึดที่ดินขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลนั้น จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกยึดหาอาจยกเหตุเพราะเป็นผู้แย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นต่อสู้สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของ การขอออก น.ส.3 ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังอยู่ในที่ดินพิพาทในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เช่า โดยไม่มีการเปลี่ยนเจตนายึดถือการครอบครองต่อผู้ให้เช่าว่าจำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทในนามของตนเองอย่างเป็นเจ้าของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 การที่จำเลยเพียงดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงไม่ทำให้จำเลยได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท กรณีไม่เป็นการแย่งการครอบครองไม่ว่าจำเลยจะอยู่ในที่ดินพิพาทต่อมาอีกนานเท่าใด จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: ทายาทฟ้องคดีเกิน 1 ปีนับจากเจ้ามรดกเสียชีวิต คดีขาดอายุความ
โจทก์ซึ่งเป็นทายาทและผู้สืบสิทธิของ ร. ฟ้องเรียกที่ดินมรดกซึ่ง ร. ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และมิได้มอบหมายให้จำเลยครอบครองดูแลที่ดินมรดกส่วนของ ร. เมื่อโจทก์ฟ้องคดีมรดกพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เจ้ามรดกตาย คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 จำเลยยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754ขึ้นต่อสู้ แม้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วปรับด้วยมาตรา 1375วินิจฉัยว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินพิพาททรัพย์มรดกเกินกว่าหนึ่งปี โจทก์ขาดสิทธิฟ้องเอาคืนก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความฟ้องคดีมรดกตาม มาตรา 1754 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การฟ้องเรียกมรดกพ้นกำหนด 1 ปี นับจากเจ้ามรดกเสียชีวิต
จำเลยยกอายุความมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งฟ้องเรียกที่ดินมรดกจากจำเลย แม้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงแล้ว ปรับเข้า ป.พ.พ. มาตรา 1375 วินิจฉัยว่า จำเลยแย่งการครอบครองที่ดิน พิพาททรัพย์มรดกเกินกว่าหนึ่งปี โจทก์ขาดสิทธิฟ้องเอาคืนก็ตามศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความฟ้องเรียกมรดกตามมาตรา 1754 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินวัด: ห้ามยกอายุความ – สิทธิครอบครองเป็นโมฆะ แม้ครอบครองนาน
ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติและบุคคลใดจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดในเรื่องทรัพย์สินอัน เป็นที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ไม่ได้ ตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 34ดังนั้น ตราบใดที่ยังมิได้มีพระราชบัญญัติให้โอน ที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ของวัด แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทมานาน เท่าใด จำเลยก็ไม่ได้ สิทธิครอบครอง ทั้งไม่อาจยกระยะเวลาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 ขึ้นเป็นข้อโต้แย้งกับวัดได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินวัดและอายุความ: วัดมีสิทธิในที่ดินเสมอ แม้จำเลยครอบครองนานปี
โจทก์เป็นวัดในพระพุทธศาสนา ตราบใดที่ยังมิได้มีพระราชบัญญัติให้โอนที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ของโจทก์ แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทมานานเท่าใด จำเลยก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง ทั้งไม่อาจยกระยะเวลาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 ขึ้นเป็นข้อโต้แย้งกับโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของวัด: คุ้มครองโดยเฉพาะ, ห้ามยกอายุความ, แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดสิทธิ
ที่ดินมี ส.ค.1 ของโจทก์ซึ่งเป็นวัดในพุทธศาสนาตามพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 34 จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติและห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัด ดังนั้น แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทมานานเท่าใด จำเลยก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง ทั้งไม่อาจยกระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นเป็นข้อโต้แย้งกับวัดได้
of 84