คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1375

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาเด็ดขาดผูกพันคู่ความ การฟ้องขับไล่ต้องพิจารณาจากการครอบครองที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์จำเลยเคยพิพาทฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดินแปลงพิพาทมาก่อนแล้ว และคดีถึงที่สุดโดยคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งวินิจฉัยว่าจำเลย (โจทก์คดีนี้) ได้แย่งการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ (จำเลยคดีนี้) มาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง จึงฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาท ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยจำต้องยอมรับผลแห่งคำพิพากษานั้น จะมาโต้เถียงอีกว่าความจริงที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันและจำเลยเป็นผู้ทำประโยชน์อยู่ตลอดมา ทั้ง ๆ ที่ตนต้องคำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดีหาได้ไม่ มิฉะนั้นแล้วคำพิพากษาของศาลย่อมจะไร้ผล ดังนั้น เมื่อจำเลยเข้ามารบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังแลกเปลี่ยน แม้ไม่มีหนังสือ แต่มี น.ส.3ก. ครบ 1 ปี จำเลยหมดสิทธิเอาคืน
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โจทก์ที่ 2 ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอน อนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองจนเกิน 1 ปีแล้ว จำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังการแลกเปลี่ยนที่ไม่จดทะเบียน: สิทธิครอบครองเกิดหลัง 1 ปี
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)โจทก์ที่2ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอนอนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองจนเกิน1ปีแล้วจำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375. การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแลกเปลี่ยนที่ดินโดยไม่ทำสัญญาและจดทะเบียน การครอบครองปรปักษ์ทำให้ได้สิทธิในที่ดิน
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)โจทก์ที่2ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอนอนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองเกิน1ปีแล้วจำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามป.พ.พ.มาตรา1375 การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4072/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งการครอบครองที่ดินและการหมดอายุความฟ้องแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
เดิมจำเลยอาศัยที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ทั้งสามไปขอให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินของโจทก์รวมถึงที่ดินพิพาทด้วย จำเลยคัดค้านจึงออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทไม่ได้ การที่จำเลยคัดค้าน ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสามแล้วว่าจำเลย ไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนผู้ครอบครองต่อไปโดยตนเป็น ผู้ครอบครองเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งโจทก์จะต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่ง การครอบครอง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยคัดค้าน การรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออก น.ส.3 ก.ให้โจทก์ โจทก์จึงหมดสิทธิ ที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาท แม้โจทก์จะคัดค้าน การออก น.ส.3 ก. ของจำเลยในที่ดินพิพาทก็ไม่ทำให้สิทธิ การครอบครองของจำเลยเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4072/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการบอกกล่าวเจตนาไม่ยึดถือการครอบครองเดิม ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุดและเริ่มนับอายุความใหม่
เดิมจำเลยอาศัยที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ทั้งสามไปขอให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินของโจทก์รวมถึงที่ดินพิพาทด้วยจำเลยคัดค้านจึงออก หนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทไม่ได้การที่จำเลยคัดค้าน ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสามแล้วว่าจำเลย ไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนผู้ครอบครองต่อไปโดยตนเป็น ผู้ครอบครองเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งโจทก์จะต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่ง การครอบครอง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยคัดค้าน การรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออก น.ส.3 ก.ให้โจทก์ โจทก์จึงหมดสิทธิ ที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาท แม้โจทก์จะคัดค้าน การออก น.ส.3 ก. ของจำเลยในที่ดินพิพาทก็ไม่ทำให้สิทธิ การครอบครองของจำเลยเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3254/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การครอบครองทรัพย์มรดกโดยทายาทและผู้จัดการมรดก ไม่ทำให้เกิดอายุความต่อทายาทอื่น
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอจัดการมรดกเกี่ยวกับที่ดินพิพาท ทั้งสองแปลงตามที่โจทก์ขอแบ่ง แสดงว่าที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นทรัพย์สินในกองมรดกซึ่งอยู่ระหว่างจัดการมรดก ถึงแม้ว่าจำเลยจะครอบครองที่พิพาทนั้นตั้งแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมแต่ผู้เดียว ก็เป็นการครอบครองทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปันกัน และต่อมาจำเลยก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล ดังนั้นการที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทในฐานะทายาท็ก็ดีและในฐานะผู้จัดการมรดกก็ดี ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นด้วย จำเลยจึงจะยกอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 มาใช้บังคับไม่ได้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกย่อมมีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์พิพาทจากจำเลยได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2528)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3254/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การครอบครองทรัพย์มรดกโดยผู้จัดการมรดกไม่ตัดสิทธิทายาทอื่นในการฟ้องร้อง
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอจัดการมรดกเกี่ยวกับที่ดินพิพาท ทั้งสองแปลงตามที่โจทก์ขอแบ่ง แสดงว่าที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นทรัพย์สินในกองมรดกซึ่งอยู่ระหว่างจัดการมรดกถึงแม้ว่าจำเลยจะครอบครองที่พิพาทนั้นตั้งแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมแต่ผู้เดียว ก็เป็นการครอบครองทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปันกัน และต่อมาจำเลยก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล ดังนั้นการที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทในฐานะทายาทก็ดีและในฐานะผู้จัดการมรดกก็ดี ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นด้วยจำเลยจึงจะยกอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 มาใช้บังคับไม่ได้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกย่อมมีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์พิพาทจากจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2528)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิ ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ผู้มีสิทธิครอบครอง และโจทก์เป็นฝ่ายครอบครองตลอดมา การที่จำเลยขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และได้นำเจ้าหน้าที่ไปรังวัดที่ดินพิพาทกับนำหลักซีเมนต์ไปปักไว้เป็นแนวเขตที่ดินพิพาทหาใช่เป็นการเข้าแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทไม่ ตามพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์เท่านั้นดังนี้ ข้ออ้างการแย่งสิทธิครอบครองของจำเลยย่อมจะยังไม่เกิดขึ้น จะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374,1375 มาบังคับแก่คดีหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิ ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374, 1375
ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ผู้มีสิทธิครอบครอง และโจทก์เป็นฝ่ายครอบครองตลอดมา การที่จำเลยขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และได้นำเจ้าหน้าที่ไปรังวัดที่ดินพิพาทกับนำหลักซีเมนต์ไปปักไว้เป็นแนวเขตที่ดินพิพาท หาใช่เป็นการเข้าแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทไม่ตามพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์เท่านั้น ดังนี้ ข้ออ้างการแย่งสิทธิครอบครองของจำเลยย่อมจะยังไม่เกิดขึ้น จะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374,1375 มาบังคับแก่คดีหาได้ไม่
of 84