พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การที่ดินยังไม่แบ่งแยก โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ จึงไม่มีอำนาจฟ้องรุกป่าน
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ 4 ไร่ เมื่อแบ่งแยกจำเลยจะลงชื่อโจทก์ในโฉนด โดยจะวัดจากทิศเหนือลงมาทางทิศใต้ ให้ได้จำนวนเนื้อที่ 4ไร่ ศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว หากจำเลยไม่ยอมแบ่งที่ดินให้ โจทก์ก็มีแต่เพียงสิทธิที่จะขอให้บังคับจำเลยให้แบ่งให้โจทก์เท่านั้น แม้จะรู้ว่าส่วนที่จะแบ่งให้โจทก์นั้นอยู่ทางทิศไหน เมื่อยังไม่ได้มีการรังวัดแบ่งแยกให้เป็นส่วนสัด ที่ดินส่วนนั้นก็ยังไม่ตกเป็นของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองที่ดิน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการประนีประนอมยอมความ: โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์จนกว่าจะมีการรังวัดและครอบครอง
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ 4 ไร่ เมื่อแบ่งแยกจำเลยจะลงชื่อโจทก์ในโฉนดโดยจะวัดจากทิศเหนือลงมาทางทิศใต้ ให้ได้จำนวนเนื้อที่ 4ไร่ศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว หากจำเลยไม่ยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ก็มีแต่เพียงสิทธิที่จะขอให้บังคับจำเลยให้แบ่งให้โจทก์เท่านั้นแม้จะรู้ว่าส่วนที่จะแบ่งให้โจทก์นั้นอยู่ทางทิศไหนเมื่อยังไม่ได้มีการรังวัดแบ่งแยกให้เป็นส่วนสัด ที่ดินส่วนนั้นก็ยังไม่ตกเป็นของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้ไม่ได้จดทะเบียนก็สมบูรณ์ บังคับได้ อายุความฟ้องร้อง 10 ปี
บ.โจทก์ในคดีหนึ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยโจทก์ร้องขัดทรัพย์แล้วได้มีการประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ยอมให้เงิน บ. 5,000 บาท บ. ยอมถอนการยึดทรัพย์และจำเลยยอมยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างบุคคลสามฝ่าย มิใช่สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์โดยเสน่หา แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์บังคับได้
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมดก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้นอันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่าก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมดก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้นอันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่าก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้มิได้จดทะเบียนก็สมบูรณ์ บังคับได้ อายุความ 10 ปี
บ.โจทก์ในคดีหนึ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยโจทก์ร้องขัดทรัพย์แล้วได้มีการประนีประนอมยอมความกัน โดยโจทก์ยอมให้เงิน บ. 5,000 บาท บ. ยอมถอนการยึดทรัพย์และจำเลยยอมยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างบุคคลสามฝ่าย มิใช่สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์โดยเสน่หา แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์บังคับได้
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้ แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมด ก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้น อันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่า ก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้ แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมด ก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้น อันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่า ก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: พิพาทสิทธิครอบครองโดยตรง ไม่ใช่มรดก อายุความ 1 ปีไม่บังคับใช้
โจทก์ฟ้องว่า มารดายกที่สวน (ที่ดินมือเปล่า) ให้แก่โจทก์และมารดาได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์อีกชั้นหนึ่ง โจทก์ได้ครอบครองตลอดมา เมื่อมารดาถึงแก่กรรมแล้วโจทก์ได้ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดินดังกล่าว จำเลย(ซึ่งเป็นพี่ชาย) คัดค้านอ้างว่ามีส่วนเป็นเจ้าของด้วย จำเลยให้การต่อสู้ว่าบิดามารดายกที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินนั้นให้จำเลย จำเลยครอบครองมา ดังนี้ เป็นเรื่องพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิครอบครองโดยตรง จะนำอายุความ 1 ปี ซึ่งเป็นอายุความในเรื่องมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พิพาทสิทธิครอบครอง: อายุความ 1 ปีตามมาตรา 1754 ไม่ใช้บังคับเมื่อเป็นการแย่งการครอบครองโดยตรง
โจทก์ฟ้องว่า มารดายกที่สวน (ที่ดินมือเปล่า) ให้แก่โจทก์ และมารดาได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์อีกชั้นหนึ่ง โจทก์ได้ครอบครองตลอดมา เมื่อมารดาถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ได้ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดินดังกล่าว จำเลย (ซึ่งเป็นพี่ชาย) คัดค้านอ้างว่ามีส่วนเป็นเจ้าของด้วย จำเลยให้การต่อสู้ว่าบิดามารดายกที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินนั้นให้จำเลย จำเลยครอบครองมา ดังนี้ เป็นเรื่องพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิครอบครองโดยตรง จะนำอายุความ 1 ปี ซึ่งเป็นอายุความในเรื่องมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 มาใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยไม่สุจริตของผู้รับโอนที่ทราบการซื้อขายก่อนหน้า ทำให้การโอนเป็นโมฆะ
จำเลยที่ 1 ขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้โจทก์แล้วส่งมอบการครอบครองให้ โจทก์ครอบครองตลอดมา เพียงแต่จะไปทำการโอนทางทะเบียนให้ในภายหลังเท่านั้น ต่อมาจำเลยที่ 1 กลับโอนที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตร จำเลยที่ 2 ได้ขายให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 โดยจำเลยที่ 3 ที่ 4 ทราบว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทจากจำเลยที่ 1 แล้ว โจทก์ย่อมฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ที่ 4 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่ไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีสำเนาใบไต่สวนแนบ หากระบุรายละเอียดที่ดินชัดเจน และจำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ซื้อที่ดินมาจากบิดาโดยระบุเลขที่ของใบไต่สวนที่ดิน ท้องที่ที่ที่ดินตั้งอยู่ และว่าจำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไป ขอให้ขับไล่ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมไม่จำต้องบรรยายว่าที่ดินของโจทก์จดอะไรกว้างยาวเท่าใดและไม่จำต้องแนบใบไต่สวนที่ดินมาพร้อมกับฟ้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้เจ้าของเดิมซื้อที่ดินมาแล้วแต่ทิ้งร้าง
โจทก์ซื้อที่นามือเปล่าได้จากการขายทอดตลาดของศาลศาลได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอมอบให้โจทก์เพื่อนำไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ แต่โจทก์ก็มิได้นำหนังสือของศาลไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายแต่อย่างใด ส่วนที่นานั้นโจทก์คงปล่อยทิ้งร้างไว้มิได้เข้าครอบครองเลยหลังจากโจทก์ซื้อแล้ว จำเลยได้เข้าครอบครองที่นานั้นติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปี ดังนี้ จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง โจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยมิได้ และโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: ผู้ซื้อที่ดินทิ้งร้าง ย่อมเสียสิทธิให้แก่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่อง
โจทก์ซื้อที่นามือเปล่าได้จากการขายทอดตลาดของศาลศาลได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอมอบให้โจทก์เพื่อนำไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ แต่โจทก์ก็มิได้นำหนังสือของศาลไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายแต่อย่างใด ส่วนที่นานั้นโจทก์คงปล่อยทิ้งร้างไว้มิได้เข้าครอบครองเลยหลังจากโจทก์ซื้อแล้ว จำเลยได้เข้าครอบครองที่นานั้นติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปี ดังนี้ จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง โจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยมิได้ และโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย