คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1375

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิฟ้องร้องเมื่อเกิน 1 ปีหลังถอนการยกให้
จำเลยให้การว่าที่นาที่สวนเป็นของจำเลยได้มาโดยรับมรดกจากบิดามารดา บิดาตายมาประมาณ 16 ปีแล้ว จำเลยครอบครองแต่ผู้เดียวตลอดมา เป็นคำให้การที่แสดงข้อต่อสู้ถึงสิทธิครอบครองและสิทธิฟ้องร้องแล้ว ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375
จำเลยครอบครองที่พิพาทมาแต่ฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยตกลงทำบันทึกแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ การครอบครองของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย แต่ภายหลังจำเลยได้ขอถอนการยกให้ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลยได้ครอบครองเพื่อตนแต่นั้นมา โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครอง และฟ้องซ้ำ: ศาลวินิจฉัยฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นคำพิพากษาถึงที่สุด
จำเลยเข้ารบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียว. โจทก์นำคดีมาฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ภายหลังจากที่โจทก์ถูกรบกวนในครั้งนั้น. โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนต่อไป.
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์. โดยวินิจฉัยว่าประธานกรรมการและกรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทประการหนึ่ง. และโจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยเพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี. นับแต่วันถูกแย่งการครอบครองอีกประการหนึ่ง. โจทก์จึงกลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก. ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียแล้ว. ก็ย่อมไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยในประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์ได้. เพราะการที่จะวินิจฉัยไปถึงประเด็นอื่นดังกล่าวได้ ฟ้องของโจทก์จะต้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน. ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้ในคดีก่อนด้วยว่า โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลย. เพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี. นับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง. จึงเป็นคำวินิจฉัยที่เกินเลยไปจะถือว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นข้อนี้แล้วไม่ได้. โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครอง และฟ้องซ้ำ: การรบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียวไม่ทำให้ขาดอายุความ
จำเลยเข้ารบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียว โจทก์นำคดีมาฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ภายหลังจากที่โจทก์ถูกรบกวนในครั้งนั้น โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนต่อไป
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าประธานกรรมการและกรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทประการหนึ่ง และโจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยเพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครองอีกประการหนึ่ง โจทก์จึงกลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียแล้ว ก็ย่อมไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยในประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์ได้ เพราะการที่จะวินิจฉัยไปถึงประเด็นอื่นดังกล่าวได้ ฟ้องของโจทก์จะต้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้ในคดีก่อนด้วยว่า โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลย เพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง จึงเป็นคำวินิจฉัยที่เกินเลยไปจะถือว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นข้อนี้แล้วไม่ได้ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครอง และฟ้องซ้ำ: ศาลยกฟ้องเนื่องจากฟ้องเกิน 1 ปี และคดีก่อนถึงที่สุด
จำเลยเข้ารบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียว โจทก์นำคดีมาฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ภายหลังจากที่โจทก์ถูกรบกวนในครั้งนั้น โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนต่อไป
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าประธานกรรมการและกรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทประการหนึ่ง และโจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยเพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครองอีกประการหนึ่ง โจทก์จึงกลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียแล้ว ก็ย่อมไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยในประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์ได้ เพราะการที่จะวินิจฉัยไปถึงประเด็นอื่นดังกล่าวได้ ฟ้องของโจทก์จะต้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียก่อนฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้ในคดีก่อนด้วยว่า โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลย เพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง จึงเป็นคำวินิจฉัยที่เกินเลยไปจะถือว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นข้อนี้แล้วไม่ได้ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้แล้วครอบครองเอง: สิทธิของเจ้าของเดิมสิ้นสุดเมื่อการครอบครองถึงที่สุด แม้มีการแจ้ง ส.ค.1
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแม้ภายหลังโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาท จนได้สิทธิครอบครองและจำเลยไม่มีสิทธิเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะขอให้ทำลายนิติกรรมการยกให้นั้น
ที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ การแจ้งการครอบครองไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งแต่ประการใด ดังนั้น เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในที่พิพาทและศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องย่อมเป็นการเพียงพอ หาจำเป็นที่จะต้องเพิกถอนชื่อจำเลยออกจากแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้ผู้อื่นโดยจดทะเบียนแล้ว โจทก์กลับเข้าครอบครองและมีสิทธิเหนือที่ดินเดิม แม้การแจ้งครอบครอง ส.ค.1 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแม้ภายหลังโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาท จนได้สิทธิครอบครอง. และจำเลยไม่มีสิทธิเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองแล้ว. ก็ไม่มีเหตุที่จะขอให้ทำลายนิติกรรมการยกให้นั้น.
ที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์. การแจ้งการครอบครองไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งแต่ประการใด. ดังนั้น เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในที่พิพาท. และศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์. ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องย่อมเป็นการเพียงพอ. หาจำเป็นที่จะต้องเพิกถอนชื่อจำเลยออกจากแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้ผู้อื่นแล้วครอบครองเอง สิทธิในที่ดินเป็นของผู้ครอบครอง แม้มีการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแม้ภายหลังโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาท จนได้สิทธิครอบครอง และจำเลยไม่มีสิทธิเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่จะขอให้ทำลายนิติกรรมการยกให้นั้น
ที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ การแจ้งการครอบครองไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งแต่ประการใด ดังนั้น เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในที่พิพาท และศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องย่อมเป็นการเพียงพอ หาจำเป็นที่จะต้องเพิกถอนชื่อจำเลยออกจากแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินต้องฟ้องภายใน 1 ปี หากเกินกำหนดจะเสียสิทธิ
ที่ดินที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 พิพาทกันเมื่อปี 2504 มีเนื้อที่เพียง 2 ไร่ มิได้พิพาทกันรวมทั้งแปลงตามเนื้อที่พิพาทกันในคดีนี้ เฉพาะที่ดิน 2 ไร่ โจทก์เพิ่งมาฟ้องเมื่อเกินเวลา 1 ปี นับแต่เวลาที่โจทก์อ้างว่าถูกจำเลยที่ 1 แย่งการครอบครอง ไม่ได้ฟ้องภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จึงย่อมเสียสิทธิที่จะเอาที่ 2 ไร่นั้นคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินต้องภายในอายุความ 1 ปี หากเกินกำหนดสิทธิเรียกร้องจะสิ้นสุดลง
ที่ดินที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 พิพาทกันเมื่อปี 2504มีเนื้อที่เพียง 2 ไร่. มิได้พิพาทกันรวมทั้งแปลงตามเนื้อที่พิพาทกันในคดีนี้. เฉพาะที่ดิน 2 ไร่ โจทก์เพิ่งมาฟ้องเมื่อเกินเวลา 1 ปีนับแต่เวลาที่โจทก์อ้างว่าถูกจำเลยที่ 1 แย่งการครอบครอง. ไม่ได้ฟ้องภายในกำหนดเวลาดังกล่าว. จึงย่อมเสียสิทธิที่จะเอาที่ 2 ไร่นั้นคืน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินเกิน 1 ปี ทำให้สิ้นสิทธิเรียกร้องคืน
ที่ดินที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 พิพาทกันเมื่อปี 2504 มีเนื้อที่เพียง 2 ไร่มิได้พิพาทกันรวมทั้งแปลงตามเนื้อที่พิพาทกันในคดีนี้เฉพาะที่ดิน 2 ไร่ โจทก์เพิ่งมาฟ้องเมื่อเกินเวลา 1 ปีนับแต่เวลาที่โจทก์อ้างว่าถูกจำเลยที่ 1 แย่งการครอบครอง ไม่ได้ฟ้องภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จึงย่อมเสียสิทธิที่จะเอาที่ 2 ไร่นั้นคืน
of 84