คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1375

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 840 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: ฟ้องคืนที่ดินหลัง 1 ปี เกินกำหนด ขาดอายุความ แม้ผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์ ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาท ในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้ เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปี นับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครอง: ผู้เยาว์ละทิ้งสิทธิเกิน 1 ปี ทำให้ฟ้องเรียกคืนไม่ได้ แม้พ้นภาวะผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาทในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้ เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปีนับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปีคดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครอง – การครอบครองปรปักษ์ – สิทธิเรียกคืนที่ดิน – ผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์. ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาท. ในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด. แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี. ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้. เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375. แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปีนับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม. แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา. จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้.
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี. โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปี. คดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกคืนที่ดินและฟ้องแย้งซื้อขาย, การครอบครองปรปักษ์, และข้อจำกัดในการยกเหตุข้อกฎหมายใหม่ในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์ชำระค่าที่ดินยังไม่ครบ. แต่ไม่ได้ยกเหตุ.ที่จำเลยชำระค่าที่ดินไม่ตรงตามกำหนดทุกเดือน. โจทก์จะยกปัญหาข้อนี้ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้. เพราะมิได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์แล้วผิดสัญญา จึงฟ้องเรียกที่ดินคืน. จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระราคาที่ดินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการซื้อขาย. ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม.
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน. จำเลยแย่งการครอบครองมาจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปี. โจทก์หมดสิทธิจะฟ้องขับไล่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375. (อ้างฎีกาที่ 1694-1695/2500).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกคืนที่ดินหลังผิดสัญญาซื้อขาย และผลของการครอบครองปรปักษ์ รวมถึงข้อจำกัดในการยกเหตุข้อกฎหมายใหม่ในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์ชำระค่าที่ดินยังไม่ครบ แต่ไม่ได้ยกเหตุที่จำเลยชำระค่าที่ดินไม่ตรงตามกำหนดทุกเดือน โจทก์จะยกปัญหาข้อนี้ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะมิได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์แล้วผิดสัญญา จึงฟ้องเรียกที่ดินคืนจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระราคาที่ดินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการซื้อขาย ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน จำเลยแย่งการครอบครองมาจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปี โจทก์หมดสิทธิจะฟ้องขับไล่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 (อ้างฎีกาที่ 1694, 1695/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และข้อพิพาทซื้อขายที่ดิน การยกเหตุไม่ครบถ้วนชำระหนี้ในชั้นอุทธรณ์ และอายุความฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์ชำระค่าที่ดินยังไม่ครบ แต่ไม่ได้ยกเหตุที่จำเลยชำระค่าที่ดินไม่ตรงตามกำหนดทุกเดือน โจทก์จะยกปัญหาข้อนี้ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะมิได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์แล้วผิดสัญญา จึงฟ้องเรียกที่ดินคืนจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระราคาที่ดินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการซื้อขาย ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินจำเลยแย่งการครอบครองมาจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปีโจทก์หมดสิทธิจะฟ้องขับไล่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 (อ้างฎีกาที่ 1694-1695/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนและผลกระทบต่อสิทธิในที่ดิน รวมถึงสัญญาซื้อขายที่ดินขัดต่อกฎหมาย
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินในต่างจังหวัดและประสงค์จะให้บุตรเป็นผู้รับโอน. แต่บุตรยังเป็นเด็กและอยู่ในกรุงเทพฯ. จึงให้จำเลยเป็นผู้รับโอนแทนนั้น. แม้จำเลยจะเข้าครอบครองเสียภาษี และแจ้งการครอบครองลงชื่อของจำเลยเองในที่ดินแปลงนั้นก็ตาม ก็เป็นการครอบครองแทนโจทก์. ถึงแม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้. และจำเลยจะอ้างว่ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองก็ไม่ได้. เพราะมิได้มีการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนหรือครอบครองโดยสุจริตอาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก.
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินและให้จำเลยซึ่งเป็นคนไทยเป็นผู้รับโอนแทนนั้น.วัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย. เพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และมาตรา113. จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113. โจทก์จะบังคับจำเลยให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์โดยโอนในนามของบุตรโจทก์ซึ่งเป็นคนไทยหาได้ไม่. และการยึดถือที่ดินของจำเลยเป็นการยึดถือแทนโจทก์. จำเลยก็จะอ้างว่าเป็นเจ้าของไม่ได้. ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยคนต่างด้าวและถือครองแทนบุคคลอื่น สัญญาเป็นโมฆะและอายุความไม่ตัดสิทธิ
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินในต่างจังหวัดและประสงค์จะให้บุตรเป็นผู้รับโอน แต่บุตรยังเป็นเด็กและอยู่ในกรุงเทพฯจึงให้จำเลยเป็นผู้รับโอนแทนนั้น แม้จำเลยจะเข้าครอบครองเสียภาษี และแจ้งการครอบครองลงชื่อของจำเลยเองในที่ดินแปลงนั้นก็ตาม ก็เป็นการครอบครองแทนโจทก์ ถึงแม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ และจำเลยจะอ้างว่ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองก็ไม่ได้ เพราะมิได้มีการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนหรือครอบครองโดยสุจริตอาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินและให้จำเลยซึ่งเป็นคนไทยเป็นผู้รับโอนแทนนั้นวัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และมาตรา113 จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 โจทก์จะบังคับจำเลยให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์โดยโอนในนามของบุตรโจทก์ซึ่งเป็นคนไทยหาได้ไม่และการยึดถือที่ดินของจำเลยเป็นการยึดถือแทนโจทก์ จำเลยก็จะอ้างว่าเป็นเจ้าของไม่ได้ ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยคนต่างด้าวและการครอบครองแทน สัญญาเป็นโมฆะหากขัดกฎหมายที่ดิน อายุความไม่ตัดสิทธิ
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินในต่างจังหวัด และประสงค์จะให้บุตรเป็นผู้รับโอน แต่บุตรยังเป็นเด็กและอยู่ในกรุงเทพฯ จึงให้จำเลยเป็นผู้รับโอนแทนนั้น แม้จำเลยจะเข้าครอบครองเสียภาษี และแจ้งการครอบครองลงชื่อของจำเลยเองในที่ดินแปลงนั้นก็ตาม ก็เป็นการครอบครองแทนโจทก์ ถึงแม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใด ก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ และจำเลยจะอ้างว่ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองก็ไม่ได้เพราะมิได้มีการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนหรือครอบครองโดยสุจริตอาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก
การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวซื้อที่ดินและให้จำเลยซึ่งเป็นคนไทยเป็นผู้รับโอนแทนนั้นวัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และมาตรา 113 จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 โจทก์จะบังคับจำเลยให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์โดยโอนในนามของบุตรโจทก์ซึ่งเป็นคนไทยหาได้ไม่ และการยึดถือที่ดินของจำเลยเป็นการยึดถือแทนโจทก์ จำเลยก็จะอ้างว่าเป็นเจ้าของไม่ได้ ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: ผู้ครอบครองก่อนย่อมมีสิทธิเหนือผู้ได้รับการจัดสรรภายหลัง หากยังไม่ได้เข้าครอบครอง
โจทก์ครอบครองที่ดินมือเปล่าโดยมิชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อมาทางการจัดสรรที่ดินนั้นให้จำเลย แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้จัดให้จำเลยเข้าครอบครอง จำเลยจึงยังไม่ได้สิทธิครอบครอง โจทก์ครอบครองอยู่ก่อนจึงมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย
คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงไว้ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงเองได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2511)
of 84