คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 142 (1)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 112 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4662/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะตัวแทนและการเป็นบริวารในสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์
ผู้ร้องไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือตั้งจำเลยเป็นตัวแทนในการทำสัญญาเช่า ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าในฐานะเป็นตัวแทนผู้ร้อง เมื่อจำเลยเช่าตึก พิพาทจากโจทก์ ผู้ร้องเข้ามาอาศัยอยู่ในตึก พิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยจึงเป็นบริวารจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าช่วงที่ไม่ได้รับความยินยอม: ไม่มีอำนาจพิเศษเหนือทรัพย์สิน
ผู้ร้องเป็นผู้เช่าตึกแถวพิพาทจากจำเลย แต่มิได้เป็น ผู้เช่าช่วงโดยชอบด้วยความยินยอมจากโจทก์และเจ้าของตึกแถวพิพาท ทั้ง ตามสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยห้ามมิให้จำเลยนำตึกแถวพิพาท ไป ให้เช่าช่วงด้วย ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย ผู้ร้อง จึง ไม่มี อำนาจพิเศษเหนือตึกแถวพิพาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานะบริวารในคดีขับไล่ แม้มีคำพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์ร่วม ก็ไม่เปลี่ยนแปลงฐานะเดิม
ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งจำเลยขายฝากกับโจทก์ และศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีนี้มาแล้วว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยแม้ผู้ร้องจะเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ร้องสอดซึ่งมรณะในคดีที่ผู้ร้องสอดฟ้องจำเลย และต่อมาศาลอุทธรณ์จะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีดังกล่าวให้ลงชื่อผู้ร้องสอดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้ภายหลังศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีนี้แล้วก็ตาม ก็หามีผลเปลี่ยนแปลงฐานะในคดีของผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงผู้รับมรดกความและผู้จัดการมรดกของผู้ร้องสอดผู้มรณะในคดีนั้นให้พ้นจากฐานะบริวารจำเลยในคดีนี้ไม่ เพราะผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความโดยตรงและประเด็นข้อพิพาทก็ต่างกันกับคดีนี้ จึงยังต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยที่ไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้ดังที่ศาลฎีกาวินิจฉัยมาแล้ว คำพิพากษาคดีนี้จึงบังคับถึงผู้ร้องด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะบริวารในคดีขับไล่: แม้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเปลี่ยนแปลง แต่ฐานะบริวารยังคงมีผลผูกพัน
ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งจำเลยขายฝากกับโจทก์ และศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีนี้มาแล้วว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย แม้ผู้ร้องจะเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ร้องสอดซึ่งมรณะในคดีที่ผู้ร้องสอดฟ้องจำเลย และต่อมาศาลอุทธรณ์จะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีดังกล่าวให้ลงชื่อผู้ร้องสอดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้ภายหลังศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีนี้แล้วก็ตาม ก็หามีผลเปลี่ยนแปลงฐานะในคดีของผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงผู้รับมรดกความและผู้จัดการมรดกของผู้ร้องสอดผู้มรณะในคดีนั้นให้พ้นจากฐานะบริวารจำเลยในคดีนี้ไม่ เพราะผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความโดยตรงและประเด็นข้อพิพาทก็ต่างกันกับคดีนี้ จึงยังต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยที่ไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้ดังที่ศาลฎีกาวินิจฉัยมาแล้ว คำพิพากษาคดีนี้จึงบังคับถึงผู้ร้องด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4141-4142/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์และการจดทะเบียนสิทธิ การซื้อขายโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครอง
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวาร ผู้ร้องเป็นบุตรของจำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท ดังนั้นไม่ว่าผู้ร้องจะได้ที่พิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ แต่เมื่อผู้ร้องยังมิได้มีการจดทะเบียนการได้มาเช่นนั้น ผู้ร้องก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ซื้อที่พิพาทมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ทั้งกรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อผู้ร้องไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ร้องมีอำนาจพิเศษที่จะอยู่ในที่พิพาทได้ ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4141-4142/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายโดยสุจริต ผู้ซื้อสิทธิเหนือผู้ครอบครองที่ไม่จดทะเบียน
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวาร ผู้ร้องเป็นบุตรของจำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท ดังนั้นไม่ว่าผู้ร้องจะได้ที่พิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ แต่เมื่อผู้ร้องยังมิได้มีการจดทะเบียนการได้มาเช่นนั้น ผู้ร้องก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ซื้อที่พิพาทมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ทั้งกรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อผู้ร้องไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ร้องมีอำนาจพิเศษที่จะอยู่ในที่พิพาทได้ ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3290/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่และสิทธิในทรัพย์มรดก: บริวารไม่มีสิทธิอยู่อาศัยแม้เป็นทายาท
การที่ผู้ร้องอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทในฐานะเป็นบุตรของจำเลยและ ส. ย่อมถือว่าผู้ร้องอยู่ในฐานะที่เป็นบริวารของจำเลยและ ส. เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากบ้านพิพาท ผู้ร้องจะอ้างว่ามีสิทธิอยู่ในบ้านพิพาท ซึ่งเป็นมรดกของ ส. หาได้ไม่ เพราะสิทธิดังกล่าวยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่และเป็นแต่เพียงสิทธิที่จะได้รับมรดก ไม่ใช่สิทธิที่จะอยู่ในบ้านพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3290/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขับไล่บริวารออกจากบ้านหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด และสิทธิในทรัพย์มรดก
การที่ผู้ร้องอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทในฐานะเป็นบุตรของจำเลยและ ส. ย่อมถือว่าผู้ร้องอยู่ในฐานะที่เป็นบริวารของจำเลยและ ส.เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากบ้านพิพาท ผู้ร้องจะอ้างว่ามีสิทธิอยู่ในบ้านพิพาท ซึ่งเป็นมรดกของ ส. หาได้ไม่ เพราะสิทธิดังกล่าวยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่และเป็นแต่เพียงสิทธิที่จะได้รับมรดก ไม่ใช่สิทธิที่จะอยู่ในบ้านพิพาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3290/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริวารในคำพิพากษาขับไล่: สิทธิมรดกยังไม่ถึงที่สุด ไม่สามารถอ้างเป็นเหตุยกเว้นได้
การที่ผู้ร้องอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทในฐานะเป็นบุตรของจำเลยและ ส. ย่อมถือว่าผู้ร้องอยู่ในฐานะที่เป็นบริวารของจำเลยและ ส. เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากบ้านพิพาทผู้ร้องจะอ้างว่ามีสิทธิอยู่ในบ้านพิพาทซึ่งเป็นมรดกของ ส. หาได้ไม่ เพราะสิทธิดังกล่าวยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ และเป็นแต่เพียงสิทธิที่จะได้รับมรดก ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่: ผู้พักอาศัยในที่ดินเช่าของผู้ขายฝาก ไม่ถือเป็นบริวาร
ผู้ร้องทั้งสองเป็นเจ้าของเรือนไม้ 2 หลังในจำนวนเรือนไม้3 หลัง ที่จำเลยทำสัญญาขายฝากโจทก์ โดยขออาศัยปลูกอยู่ในที่ดินที่จำเลยเช่าจากบุคคลภายนอก และมิได้รู้เห็นยินยอมในการที่จำเลยนำไปขายฝากผู้ร้องทั้งสองจึงไม่ใช่บริวารของจำเลย
of 12