พบผลลัพธ์ทั้งหมด 112 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษา – ห้องพิพาทเลขที่ผิดพลาด ไม่ถือว่าเป็นการบังคับนอกเหนือคำพิพากษา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า. จำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์. ศาลพิพากษาตามยอม. เมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้อง. ผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษา.เมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเอง. ไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับคดีตามคำพิพากษาประนีประนอมยอมความ: บริวารของผู้เช่า
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์ศาลพิพากษาตามยอมเมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้องผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษาเมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเองไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บังคับคดีตามคำพิพากษา: การบังคับคดีต่อบริวารของผู้เช่า แม้เลขที่ห้องไม่ตรงกับคำพิพากษา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์ ศาลพิพากษาตามยอม เมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้อง ผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษา เมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเอง ไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เช่า-บริวารหลังหย่า: สิทธิในสัญญาเช่าเดิมเป็นของผู้เช่าเดิม แม้มีการตกลงระหว่างคู่หย่า
ภริยาอยู่ในห้องพิพาทกับสามีซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจากผู้ให้เช่า ต่อมาได้หย่าขาดกัน สามีแยกไปอยู่ที่อื่น โดยยอมยกห้องพิพาทให้เป็นสิทธิแก่ภริยา แต่ผู้ให้เช่าไม่ได้รู้เห็นตกลงด้วย การที่ภริยาคงอยู่ในห้องเช่าต่อมาจนครบสัญญาเช่า ถือว่าเป็นการอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่า
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่า ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่า ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าห้องหลังหย่า: การอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่าเดิม ผู้ให้เช่าไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญา
ภริยาอยู่ในห้องพิพาทกับสามีซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจากผู้ให้เช่าต่อมาได้หย่าขาดกัน สามีแยกไปอยู่ที่อื่น โดยยอมยกห้องพิพาทให้เป็นสิทธิแก่ภริยา แต่ผู้ให้เช่าไม่ได้รู้เห็นตกลงด้วย การที่ภริยาคงอยู่ในห้องเช่าต่อมาจนครบสัญญาเช่า ถือว่าเป็นการอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่า
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่าผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่าผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411-1412/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาที่บังคับใช้กับบริวาร และข้อจำกัดการฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อย
ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ คดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวกจำเลยนั้น นายดวกต่อสู้กรรมสิทธิ์ ทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำนวนที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายหนูจำเลย นายหนูไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ถึงแม้นายหนูจะฎีกาได้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวก เมื่อนายหนูต่อสู้ว่าอาศัยสิทธินายดวก จึงเป็นบริวารนายดวก ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งบังคับแก่นายดวก ย่อมบังคับถึงนายหนูจำเลยด้วย นายหนูจะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้ว ให้วินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411-1412/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดสิทธิฎีกาข้อเท็จจริงในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และผลกระทบของคำพิพากษาต่อบริวาร
ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ คดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวกจำเลยนั้นนายดวกต่อสู้กรรมสิทธิ์ ทุนทรัพย์ไม่เกิน5,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำนวนที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายหนูจำเลย นายหนูไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ถึงแม้นายหนูจะฎีกาได้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวก เมื่อนายหนูต่อสู้ว่าอาศัยสิทธินายดวก จึงเป็นบริวารนายดวก ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งบังคับแก่นายดวก ย่อมบังคับถึงนายหนูจำเลยด้วย นายหนูจะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้วให้วินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษาที่ผูกพันบริวาร และสิทธิในการขอให้บังคับคดีใหม่ แม้จะถอนคำร้องไปก่อน
ศาลฟ้องขับไล่ในชั้นบังคับคดี ศาลชั้นต้นแนะนำว่าโจทก์ควรดำเนินคดีกับผู้ร้องใหม่เพราะเลขบ้านเป็นคนละเลขกับที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ โจทก์แถลงว่าเห็นด้วยและไม่ติดใจบังคับคดีสำหรับผู้ร้องทั้ง 5 คน โดยโจทก์จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นต่างหาก โจทก์ขอถอนการบังคับคดีศาลอนุญาต แม้โจทก์ยอมรับจะทำดังนั้น หาใช่เป็นการสละสิทธิไม่บังคับคดีไม่โจทก์ยังต้องการที่จะให้ผู้เช่าหรือผู้อยู่ในสิ่งปลูกสร้างของจำเลยออกไป เพื่อจำเลยจะได้รื้อออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามคำบังคับ เป็นแต่ว่าจะหาวิธีบังคับในคดีนี้ได้หรือว่าจะต้องฟ้องใหม่เมื่อโจทก์เห็นว่ายังมีทางบังคับในคดีนี้ได้ โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีในคดีนี้ได้อีก เพราะตราบใดที่จำเลยและบริวารยังอยู่บนที่ดินของโจทก์ ยังมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับโจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้จะร้องขอให้บังคับคดีมาแล้วไม่เป็นผลก็ขอให้บังคับคดีใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษาที่ผูกพันบริวาร แม้ศาลแนะนำให้ฟ้องใหม่ โจทก์ยังคงสิทธิบังคับคดีเดิมได้
คดีฟ้องขับไล่ในชั้นบังคับคดี ศาลชั้นต้นแนะนำว่าโจทก์ควรดำเนินคดีกับผู้ร้องใหม่เพราะเลขบ้านเป็นคนละเลขกับที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ โจทก์แถลงว่าเห็นด้วยและไม่ติดใจบังคับคดีสำหรับผู้ร้องทั้ง 5 คน โดยโจทก์จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นต่างหาก โจทก์ขอถอนการบังคับคดี ศาลอนุญาต แม้โจทก์ยอมรับจะทำดังนั้น หาใช่เป็นการสละสิทธิ์ไม่บังคับคดีไม่ โจทก์ยังต้องการที่จะให้ผู้เช่าหรือผู้อยู่ในสิ่งปลูกสร้างของจำเลยออกไปเพื่อจำเลยจะได้รื้อออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามคำบังคับ เป็นแต่ว่าจะหาวิธีบังคับในคดีนี้ได้หรือว่าจะต้องฟ้องใหม่ เมื่อโจทก์เห็นว่ายังมีทางบังคับในคดีนี้ได้ โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีในคดีนี้ได้อีก เพราะตราบใดที่จำเลยและบริวารยังอยู่บนที่ดินของโจทก์ ยังมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้จะร้องขอให้บังคับคดีมาแล้วไม่เป็นผล ก็ขอให้บังคับคดีใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าช่วงที่อาศัยสิทธิจากผู้เช่าเดิมเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด ผู้เช่าช่วงไม่อาจอ้างสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายได้
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ปลูกอาคาร เมื่อครบกำหนดต้องรื้อไป ผู้เช่าอาคาร(ห้องแถว)ของจำเลยไม่ได้เช่าที่ดินของโจทก์ จึงเป็นการอาศัยสิทธิของจำเลยเท่านั้น และตกอยู่ในฐานะบริวารของจำเลย จะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ และพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน ฯ ยันโจทก์ไม่ได้
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป้นเ รื่องทำนองเดียวกัน คือ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่ 337/2500)
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป้นเ รื่องทำนองเดียวกัน คือ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่ 337/2500)