พบผลลัพธ์ทั้งหมด 606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254-2255/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การโอนสิทธิและอายุการใช้สิทธิก่อนจดทะเบียนมีผลต่อการพิจารณา
บริษัท ฮ. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ พ.ศ. 2501 แล้วได้โอนขายทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทให้จำเลยที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2516 จำเลยที่ 1 ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทมาก่อนโจทก์ แม้โจทก์จะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นก่อน จำเลยที่ 1 ก็ฟ้องแย้งขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ขอจดไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254-2255/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การโอนสิทธิ และการใช้ก่อนย่อมมีน้ำหนักกว่าการจดทะเบียนภายหลัง
บริษัท อ. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ พ.ศ. 2501 แล้วได้โอนขายทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทให้จำเลยที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2516 จำเลยที่ 1 ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทมาก่อนโจทก์ แม้โจทก์จะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นก่อน จำเลยที่ 1 ก็ฟ้องแย้งขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ขอจดไว้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254-2255/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การโอนสิทธิและการใช้ก่อนย่อมมีน้ำหนักกว่าการจดทะเบียนภายหลัง
บริษัท ฮ. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ พ.ศ. 2501 แล้วได้โอนขายทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทให้จำเลยที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2516 จำเลยที่ 1ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทมาก่อนโจทก์ แม้โจทก์จะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นก่อน จำเลยที่ 1 ก็ฟ้องแย้งขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ขอจดไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกของตัวแทนธนาคาร: ธนาคารเป็นผู้เสียหายจากการไม่ส่งมอบเงินที่รับชำระหนี้
จำเลยเป็นพนักงานพิธีการสินเชื่อของธนาคาร ก. มีหน้าที่รับชำระหนี้แทนธนาคาร ก. เงินที่จำเลยรับไว้เป็นของธนาคาร ก.จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก ธนาคาร ก. จึงเป็นผู้เสียหาย การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของพนักงานรับชำระหนี้ที่ยักยอกเงินของธนาคาร: ธนาคารเป็นผู้เสียหาย
จำเลยเป็นพนักงานพิธีการสินเชื่อของธนาคาร ก. มีหน้าที่รับชำระหนี้แทนธนาคาร ก. เงินที่จำเลยรับไว้เป็นของธนาคาร ก. จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนโดยทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอกธนาคาร ก. เป็นผู้เสียหาย
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกทรัพย์ของตัวแทนธนาคาร: ธนาคารเป็นผู้เสียหายจากการไม่ส่งมอบเงินที่รับชำระหนี้
จำเลยเป็นพนักงานพิธีการสินเชื่อของธนาคาร ก. มีหน้าที่รับชำระหนี้แทนธนาคาร ก. เงินที่จำเลยรับไว้เป็นของธนาคาร ก.จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก ธนาคาร ก. เป็นผู้เสียหาย
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2190/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนเช็คเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วน และการฉ้อฉลในการฟ้องร้อง
จำเลยที่ 1 มีอาชีพเป็นผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ จำเลยที่ 2 ว.และส.เข้าหุ้นส่วนกันสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์โดยว.ลงทุนด้วยเงินสด จำเลยที่ 2 และ ส. ลงทุนด้วยแรงงานโดยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึง ได้จากกิจการสร้างภาพยนตร์นั้นส่วนโจทก์เป็นหุ้นส่วนร่วมกับ ว.20 เปอร์เซ็นต์ ของเงินทุนที่ ว. นำมาลง และเป็นทนายความประจำสำนักงานภาพยนตร์ของ ว. จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง มอบให้ ว.โดยมีข้อตกลงว่าว. จะบังคับให้ใช้เงินตามเช็คได้ต่อเมื่อภาพยนตร์ที่ร่วมกันสร้างได้ฉาย ทาง โทรทัศน์ จนมีกำไร เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกให้แก่ ว. ผู้ทรงคนก่อนเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วน เมื่อ ว. ยังไม่ปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วนโดยไม่จัดการชำระบัญชีกันให้ถูกต้อง แล้วกลับโอนเช็คให้โจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสอง โดยโจทก์รู้ถึงข้อตกลงในการเข้าหุ้นส่วนดังกล่าว เป็นการยืมมือโจทก์ฟ้องย่อมถือว่าโจทก์กับ ว. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยทั้งสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2190/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คคืนเงินค้างชำระหุ้นส่วน: การโอนเช็คด้วยเจตนาฉ้อฉลทำให้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยที่ 1 มีอาชีพเป็นผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ จำเลยที่ 2ว.และส.เข้าหุ้นส่วนกันสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์โดยว. ลงทุนด้วยเงินสดจำเลยที่ 2 และ ส. ลงทุนด้วยแรงงานโดยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้จากกิจการสร้างภาพยนตร์นั้น ส่วนโจทก์เป็นหุ้นส่วนร่วมกับ ว.20เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ว. นำมาลงและเป็นทนายความประจำสำนักงานภาพยนตร์ของ ว. จำเลยที่ 1เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง มอบให้ว.โดยมีข้อตกลงว่าว. จะบังคับให้ใช้เงินตามเช็คได้ต่อเมื่อภาพยนตร์ที่ร่วมกันสร้างได้ฉายทาง โทรทัศน์ จนมีกำไร เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกให้แก่ ว. ผู้ทรงคนก่อนเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วน เมื่อ ว. ยังไม่ปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วนโดยไม่จัดการชำระบัญชีกันให้ถูกต้อง แล้วกลับโอนเช็คให้โจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสอง โดยโจทก์รู้ถึงข้อตกลงในการเข้าหุ้นส่วนดังกล่าวเป็นการยืมมือโจทก์ฟ้อง ย่อมถือว่าโจทก์กับ ว. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยิงผู้ตายในบ้านหลังถูกทำร้ายบุตรชาย ศาลฎีกาตัดสินลดโทษตามมาตรา 72 (บันดาลโทสะ)
ผู้ตายใช้อาวุธปืนตบหน้าบุตรจำเลยเป็นบาดแผลมีโลหิตไหลที่ใบหน้า เมื่อบุตรจำเลยวิ่งหนีขึ้นบนบ้าน ผู้ตายซึ่งมีอาวุธปืนยิงติดตามเข้าไปในบ้านอีก แล้วเกิดโต้เถียงกับจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ลดโทษจากฆ่าคนตาย
ผู้ตายใช้อาวุธปืนตบหน้าบุตรจำเลยเป็นบาดแผลมีโลหิตไหลที่ใบหน้าเมื่อบุตรจำเลยวิ่งหนีขึ้นบนบ้าน ผู้ตายซึ่งมีอาวุธปืนยังติดตามเข้าไปในบ้านอีก แล้วเกิดโต้เถียงกับจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72