พบผลลัพธ์ทั้งหมด 606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5136/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเช็คแล้วนำไปขึ้นเงินก่อนเช็คเคลียร์ ถือเป็นลาภมิควรได้ จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์
โจทก์รับเช็คของจำเลยไปเรียกเก็บเงินตามวิธีการของธนาคารเมื่อเก็บเงินได้แล้วจึงนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลย อันเป็นการเรียกเก็บเงินตามเช็คแทนจำเลย มิใช่จำเลยนำเช็คไปแลกเงินสดจากโจทก์ เมื่อโจทก์ได้นำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยไปก่อนเพราะเชื่อว่าจะเรียกเก็บเงินตามเช็คได้เหมือนคราวก่อน ๆที่โจทก์เคยปฏิบัติมา แต่เช็คดังกล่าวถูกปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นนี้ จึงถือได้ว่าจำเลยได้รับเงินไปจากโจทก์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบเงินจำนวนดังกล่าวจึงเป็นลาภมิควรได้ อันจำเลยจำต้องคืนให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 406
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5107/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิบัตร: การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ลอกเลียนแบบกรรมวิธีตามสิทธิบัตร
โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยรวม 8 คนฐานร่วมกันผลิตภัณฑ์ม่านเหล็กบังตาโดยลอกเลียนหรือใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรของโจทก์โดยไม่มีสิทธิตาม กฎหมายและร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 85, 86, 88 ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อโจทก์แสดงหลักฐานว่าโจทก์แต่ผู้เดียวเท่านั้นที่ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 2 เพียงแต่ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งคุ้มครองเฉพาะการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรมและหัตถกรรมเท่านั้น จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้เป็นผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามที่ได้ยื่นคำขอไว้และการกระทำของจำเลยในคดีนี้ก็เป็นเรื่องของการประดิษฐ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องและนำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องส่วนใหญ่แล้วก็มีลักษณะเป็นอย่างเดียวกับ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของโจทก์ มีข้อแตกต่างเพียงรายละเอียดปลีกย่อยซึ่งเพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่มีมูลความผิดทางอาญาตามฟ้อง จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล เป็นผู้ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จำเลยที่ 5 นิติบุคคล ผลิตหรือประดิษฐ์ขึ้นดังกล่าว ส่วนจำเลยนอกนั้นเป็นกรรมการซึ่งหากจำเลยที่ 1 และที่ 5 กระทำความผิดตามฟ้อง ก็อาจจะเป็นผู้กระทำความผิดได้ตามมาตรา 88 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว คดีของโจทก์จึงมีมูลความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5107/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิบัตร: การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ลอกเลียนแบบกรรมวิธีตามสิทธิบัตร
โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยรวม 8 คนฐานร่วมกันผลิตม่านเหล็กบังตาโดยลอกเลียนหรือใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรของโจทก์โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 มาตรา 85,86,88ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อโจทก์แสดงหลักฐานว่าโจทก์แต่ผู้เดียวเท่านั้นที่ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 2 เพียงแต่ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งคุ้มครองเฉพาะการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรมและหัตถกรรมเท่านั้น จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้เป็นผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามที่ได้ยื่นคำขอไว้และการกระทำของจำเลยในคดีนี้ก็เป็นเรื่องของการประดิษฐ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องและนำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องส่วนใหญ่แล้ว ก็มีลักษณะเป็นอย่างเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของโจทก์ มีข้อแตกต่างเพียงรายละเอียดปลีกย่อยซึ่งเพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่มีมูลความผิดทางอาญาตามฟ้อง จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล เป็นผู้ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จำเลยที่ 5 นิติบุคคล ผลิตหรือประดิษฐ์ขึ้นดังกล่าว ส่วนจำเลยนอกนั้นเป็นกรรมการซึ่งหากจำเลยที่ 1 และที่ 5 กระทำความผิดตามฟ้อง ก็อาจจะเป็นผู้กระทำความผิดได้ตามมาตรา 88 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว คดีของโจทก์จึงมีมูลความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4990/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากความเจ็บป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลทางการแพทย์ประกอบการวินิจฉัย
ในวันนัดสืบพยาน จำเลยที่ 3 ทนายจำเลยที่ 3 ขอเลื่อนคดีอ้างว่าจำเลยที่ 3 ป่วยเป็นโรคเลือดออกใต้เยื่อตาซ้ายไม่สามารถมาศาล มีใบรับรองแพทย์ทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่าไม่ควรให้เลื่อนคดีเพราะจำเลยประวิงคดี โจทก์ไม่ได้คัดค้านว่าจำเลยที่ 3 มิได้ป่วยและคำร้องของทนายจำเลยที่ 3 ไม่เป็นความจริง ดังนี้จึงเชื่อว่าจำเลยที่ 3 ป่วย แพทย์ให้พักรักษาตัวมาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยที่ 3 มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี แม้จำเลยที่ 3 มิได้นำพยานมาเบิกความต่อศาลในวันนัดก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4812/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการมรดกต้องทำบัญชีทรัพย์มรดกตามเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำ ศาลมีอำนาจถอนได้
ทรัพย์มรดกของผู้ตายมีอะไรบ้างเป็นเรื่องสำคัญ กฎหมายจึงได้กำหนดหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้งว่าต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวัน และให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ฟังคำสั่งศาล ถ้าผู้จัดการมรดกมิได้จัดทำบัญชีภายในเวลาและตามแบบที่กำหนดไว้ ศาลมีอำนาจถอนผู้จัดการมรดกได้ การที่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้งมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย โดยอ้างว่าได้ดำเนินการให้เจ้าพนักงานที่ดินลงชื่อผู้คัดค้านในฐานะผู้จัดการมรดกแล้ว แต่ยังไม่สามารถแบ่งปันมรดก เนื่องจากผู้ร้องได้อายัดที่ดินมรดกไว้นั้น ไม่เป็นเหตุผลอันสมควร เพราะนับตั้งแต่ผู้คัดค้านได้รับแต่งตั้งจากศาลจนถึงวันที่ผู้ร้องมาร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกเป็นเวลา 1 ปีเศษ ผู้คัดค้านมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกแต่อย่างใด ทั้งการที่ผู้ร้องอายัดที่ดินมรดกไว้ก็ไม่เป็นเหตุที่ทำให้ผู้คัดค้านไม่สามารถจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกได้ ย่อมมีเหตุที่ศาลจะถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก บัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำขึ้นตามกฎหมายหมายถึงบัญชีทรัพย์มรดกที่ได้จัดทำขึ้นภายหลังที่ผู้จัดการมรดกได้รับแต่งตั้งจากศาลแล้ว มิใช่บัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้คัดค้านยื่นต่อศาลในวันที่ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4749/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อโจทก์ จึงไม่มีสิทธิฟ้อง
การที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนละเว้นดำเนินคดีแก่ผู้จำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละที่ฆ่าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นผลเสียหายแก่รัฐ มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทบกระเทือนต่อสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกและประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรโดยตรง โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4597/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาซื้อขายและสัญญาเช่าบ้านพิพาท: สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา แม้ชนะคดีในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนขายบ้านให้โจทก์จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยขายบ้านให้โจทก์ สัญญาซื้อขายบ้านที่โจทก์อ้างเป็นเอกสารปลอมและเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดโดยไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยทำสัญญาขายบ้านให้โจทก์แล้วจำเลยทำสัญญาเช่าบ้านด้วย แสดงเจตนาซื้อขายบ้านเสร็จเด็ดขาด เมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ ดังนี้แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายชนะคดีในศาลชั้นต้น แต่ที่ศาลวินิจฉัยว่าจำเลยทำสัญญาขายบ้านให้แก่โจทก์แล้วทำสัญญาเช่าบ้านนั้นอาจทำให้จำเลยเสียสิทธิเป็นที่เสียหายหรือเป็นโทษแก่จำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4457/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์เมื่อทิ้งอุทธรณ์ คดียังไม่เข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่ามิได้เจตนาทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์ ดังนี้ คดีของผู้ร้องยังไม่ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จึงยังไม่มีเหตุจะพิจารณาให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4457/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์เมื่อผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์ คดียังไม่เข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่ามิได้เจตนาทิ้งฟ้องอุทธรณ์ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์ ดังนี้ คดีของผู้ร้องยังไม่ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จึงยังไม่มีเหตุจะพิจารณาให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4444/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า: การส่งปืนให้ผู้กระทำความผิด
ส.ชกหน้าผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายล้มลงแล้วลุกขึ้นยืนในระหว่างนั้นจำเลยส่งปืนสั้นให้แก่ ส.ส. ใช้ปืนกระบอกนั้นยิงผู้เสียหาย 1 นัด กระสุนปืนถูกที่แขนขวาเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย แม้จำเลยจะอยู่ด้วยในที่เกิดเหตุก็ตามแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ร้องบอกหรือสั่งให้ ส. ยิงผู้เสียหายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมมือกับการกระทำของ ส. แต่อย่างใดการที่ ส.จะยิงผู้เสียหายหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของส. เองการกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ส.ในการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด