พบผลลัพธ์ทั้งหมด 349 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3964/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำลายหลักฐานเพื่อช่วยเหลือตนเอง ไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.184
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 จะต้องเป็นการกระทำเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
จำเลยดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน 12 ท่อนซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดและรักษาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ โดยไม้ดังกล่าวมีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อนและกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นกรณีที่จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยให้ตนเองพ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184
จำเลยดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน 12 ท่อนซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดและรักษาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ โดยไม้ดังกล่าวมีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อนและกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นกรณีที่จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยให้ตนเองพ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3919/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้สั่งจ่ายผูกพันตามเช็คแม้ไม่มีมูลหนี้ต่อผู้ทรงโดยชอบธรรม
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ แม้จำเลยจะนำสืบฟังได้ตามข้อต่อสู้ว่าสั่งจ่ายเช็คพิพาทเป็นประกันหนี้เงินกู้ยืมที่ น. กู้ยืมไปจาก บ. มิได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ ก็ถือได้ว่าเป็นการสั่งจ่ายเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คพิพาทได้มาอยู่ในความครอบครองของโจทก์ในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมไม่มีเหตุหรือข้ออ้างอันใดที่จะยกขึ้นต่อสู้เพื่อมิให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ แม้เช็คพิพาทจะไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยกับโจทก์หรือมีมูลหนี้เงินกู้ยืมที่ บ. คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจากจำเลยรวมอยู่ด้วยจำเลยก็จะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างตนกับ บ. ขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลซึ่งจำเลยก็มิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3919/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดแม้ไม่มีมูลหนี้ต่อผู้ทรง หากเช็คโอนเปลี่ยนมือโดยชอบ
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ แม้จำเลยจะนำสืบฟังได้ตามข้อต่อสู้ว่าสั่งจ่ายเช็คพิพาทเป็นประกันหนี้เงินกู้ยืมที่ น. กู้ยืมไปจาก บ. มิได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ ก็ถือได้ว่าเป็นการสั่งจ่ายเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คพิพาทได้มาอยู่ในความครอบครองของโจทก์ในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมไม่มีเหตุหรือข้ออ้างอันใดที่จะยกขึ้นต่อสู้เพื่อมิให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ แม้เช็คพิพาทจะไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยกับโจทก์หรือมีมูลหนี้เงินกู้ยืมที่ บ. คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจากจำเลยรวมอยู่ด้วยจำเลยก็จะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างตนกับ บ. ขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลซึ่งจำเลยก็มิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3912/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการจดทะเบียนรถยนต์สาธารณะต่อเนื่อง แม้มีกฎกระทรวงใหม่ หากจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเดิม
กฎกระทรวง ฉบับที่ 25(พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในมาตรา 5และมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522ที่กำหนดว่า รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะต้องเป็นรถที่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม 2525นั้น เป็นเรื่องกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างเป็นรถยนต์สาธารณะที่มิใช่ได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อรถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะ ขนาด และกำลังของเครื่องยนต์และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5(พ.ศ. 2524) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 24(พ.ศ. 2527) และได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2514 โดยไม่ปรากฏว่าการจดทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่อย่างใด ทั้งได้มีการเสียภาษีประจำปีและได้รับการต่อทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างสาธารณะตลอดมา โจทก์เจ้าของรถย่อมมีสิทธิจะจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีรถยนต์ของโจทก์ในประเภทรถยนต์โดยสารสาธารณะต่อไปได้จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนจะปฏิเสธหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3912/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนรถยนต์สาธารณะต่อเนื่อง แม้มีกฎกระทรวงใหม่ หากจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเดิม
กฎกระทรวงฉบับที่ 25(พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในมาตรา 5และมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่กำหนดว่ารถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะต้องเป็นรถที่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม 2525 นั้นเป็นเรื่องกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างเป็นรถยนต์สาธารณะ ที่มิได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อรถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะ ขนาด และกำลังของเครื่องยนต์และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5(พ.ศ. 2524) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 24(พ.ศ. 2527)และได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่23 มิถุนายน 2514 โดยไม่ปรากฏว่าการจดทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่อย่างใด ทั้งได้มีการเสียภาษีประจำปีและได้รับการต่อทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างสาธารณะตลอดมา โจทก์เจ้าของรถย่อมมีสิทธิจะจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีรถยนต์ของโจทก์ในประเภทรถยนต์โดยสารสาธารณะต่อไปได้ จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนจะปฏิเสธหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3912/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการจดทะเบียนรถยนต์สาธารณะต่อเนื่อง แม้มีกฎกระทรวงใหม่ หากจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเดิม
กฎกระทรวง ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 และมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522ที่กำหนดว่า รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะต้องเป็นรถที่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม 2525 นั้น เป็นเรื่องกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างเป็นรถยนต์สาธารณะที่มิใช่ได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อรถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะ ขนาด และกำลังของเครื่องยนต์และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2524) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2527) และได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2514 โดยไม่ปรากฏว่าการจดทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่อย่างใด ทั้งได้มีการเสียภาษีประจำปีและได้รับการต่อทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างสาธารณะตลอดมา โจทก์เจ้าของรถย่อมมีสิทธิจะจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีรถยนต์ของโจทก์ในประเภทรถยนต์โดยสารสาธารณะต่อไปได้จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนจะปฏิเสธหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้เช็ค: การยอมรับหนี้และตัวแทนทางกฎหมาย
การที่ปรากฏในบัญชีเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ทำไว้ว่าลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ตามเช็คนั้น เป็นแต่เพียงหลักฐานที่ลูกหนี้ทำไว้เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของตน มิใช่กระทำต่อเจ้าหนี้ว่าลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ และยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นต่อเจ้าหนี้ อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172 ส่วนการที่เจ้าหนี้ได้นำเช็คไปแสดงเจตนาขอเปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินต่อบริษัท ส. เมื่อได้ความว่าบริษัท ส. ไม่ได้เป็นตัวแทนของลูกหนี้ กรณีจึงมิใช่เป็นการกระทำของลูกหนี้อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้เช็ค: การรับสภาพหนี้และเจตนาของตัวแทนลูกหนี้
การที่ปรากฏในบัญชีเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ทำไว้ว่าลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ตามเช็คนั้น เป็นแต่เพียงหลักฐานที่ลูกหนี้ทำไว้เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของตน มิใช่กระทำต่อเจ้าหนี้ว่าลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ และยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นต่อเจ้าหนี้ อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172ส่วนการที่เจ้าหนี้ได้นำเช็คไปแสดงเจตนาขอเปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินต่อบริษัท ส.เมื่อได้ความว่าบริษัทส. ไม่ได้เป็นตัวแทนของลูกหนี้ กรณีจึงมิใช่เป็นการกระทำของลูกหนี้ อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้เช็ค: การแสดงเจตนาในบัญชีและการเปลี่ยนตั๋วไม่ทำให้สะดุดหยุด
การที่ปรากฏในบัญชีเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ทำไว้ว่าลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ตามเช็คนั้น เป็นแต่เพียงหลักฐานที่ลูกหนี้ทำไว้เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของตน มิใช่กระทำต่อเจ้าหนี้ว่าลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ และยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นต่อเจ้าหนี้ อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172 ส่วนการที่เจ้าหนี้ได้นำเช็คไปแสดงเจตนาขอเปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินต่อบริษัท ส. เมื่อได้ความว่า บริษัท ส. ไม่ได้เป็นตัวแทนของลูกหนี้ กรณีจึงมิใช่เป็นการกระทำของลูกหนี้อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3758/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากบาดแผลร้ายแรง: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากการใช้ขวดสุราเป็นอาวุธ
จำเลยใช้ขวดสุราแตกซึ่งมีส่วนที่แหลมคมยาวถึง3 นิ้วฟุต เป็นอาวุธแทงผู้เสียหายถูกที่คอด้านซ้ายในขณะที่คร่อมตัวผู้เสียหายอยู่ เป็นบาดแผลยาว 5 เซนติเมตรลึก 1 ถึง 2 เซนติเมตร แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรงและเป็นอวัยวะส่วนสำคัญที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนามุ่งประสงค์จะฆ่าผู้เสียหาย มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา.