คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นำชัย สุนทรพินิจกิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 858 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-ขาดอำนาจฟ้อง: คดีพิพาทที่ดินที่เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
แม้ในคำบรรยายฟ้องของโจทก์จะกล่าวอ้างเพียงว่า จำเลยทั้งสองไปคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินของโจทก์ต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยไม่ระบุว่าเป็นที่ดินที่มีหลักฐานแสดงถึงสิทธิการครอบครองแปลงใดก็ตาม แต่เมื่อจำเลยทั้งสองให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินตามส.ค.1 เลขที่ 180 โจทก์ก็ไม่ปฏิเสธว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินแปลงอื่นแต่กลับแถลงรับในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า ที่ดินพิพาทตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดินของโจทก์เป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ดินพิพาทซึ่งคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2522ดังนั้น ที่โจทก์ฎีกาว่า ที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นที่ดินแปลงอื่นจึงขัดกับข้อเท็จจริงที่โจทก์แถลงรับในคดี และโจทก์จะฎีกาว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินแปลงอื่นไม่ได้ เมื่อปรากฏว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินแปลงเดียวกันกับที่ดินพิพาทในคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2522 ซึ่งวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของนายยิ้ม จึงเป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายมิ้มที่ผูกพันโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้แสดงสิทธิอื่นขึ้นใหม่โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยที่ 2 บุตรของนายมิ้มซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่ 1 ชั้นผู้สืบสันดาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1629 ผู้มีสิทธิรับมรดกของนายมิ้มขอให้ขับไล่จำเลยที่ 2ออกจากที่ดินพิพาทไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ส่วนจำเลยที่ 1ต่อสู้คดีโดยอ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2จึงเป็นคำให้การที่อาศัยสิทธิของจำเลยที่ 2 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-ขาดอำนาจฟ้อง: คดีเดิมวินิจฉัยเจ้าของที่ดินแล้ว โจทก์ฟ้องทายาทอีกครั้งถือเป็นการฟ้องซ้ำ
คดีก่อนซึ่งโจทก์ฟ้อง ส. ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ม.เป็นจำเลย ศาลได้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นมรดกของ ม.เป็นการวินิจฉัยถึงความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของ ม. คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อน เมื่อคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วการที่โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรของ ม. และมีสิทธิรับมรดกของ ม.ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินพิพาท โดย มิได้แสดงสิทธิอื่นขึ้นใหม่ จึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 และแม้จำเลยที่ 1 จะมิได้เป็นทายาทของ ม. แต่จำเลยที่ 1 ต่อสู้คดีโดย อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2จึงเป็นคำให้การที่อาศัยสิทธิของจำเลยที่ 2 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ซ้ำ: คำพิพากษาถึงที่สุดเรื่องมรดกผูกพันคู่ความเดิม โจทก์ฟ้องทายาทโดยธรรมไม่ได้
ศาลวินิจฉัยในคดีก่อนว่าที่ดินที่พิพาทเป็นมรดกของ ม.เป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงความเป็นเจ้าของที่ดินที่พิพาทของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของ ม. คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อน การที่โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุตรของ ม. และมีสิทธิรับมรดกของ ม. เป็นคดีหลังขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทโดยมิได้แสดงสิทธิอื่นขึ้นใหม่เช่นนี้ คดีหลังเป็นฟ้องผิดซ้ำกับคดีเดิม ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบเนื่องจากทนายไม่มีอำนาจ และไม่แก้ไขข้อบกพร่องตามคำสั่งศาล
ฎีกาของจำเลยมี อ.ลงชื่อเป็นผู้ยื่นฎีกาในฐานะทนายของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แต่งตั้งให้ อ.เป็นทนายของตน และเมื่อศาลฎีกาได้ส่งสำนวนกลับคืนมายังศาลชั้นต้นเพื่อสั่งให้ อ.จัดการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องทนายให้ถูกต้องภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจำเลยทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้วหาได้จัดการแก้ไขแต่อย่างใดไม่ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของ การขอออก น.ส.3 ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังอยู่ในที่ดินพิพาทในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เช่า โดยไม่มีการเปลี่ยนเจตนายึดถือการครอบครองต่อผู้ให้เช่าว่าจำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทในนามของตนเองอย่างเป็นเจ้าของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 การที่จำเลยเพียงดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงไม่ทำให้จำเลยได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท กรณีไม่เป็นการแย่งการครอบครองไม่ว่าจำเลยจะอยู่ในที่ดินพิพาทต่อมาอีกนานเท่าใด จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้แทนเรือไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้ขนส่ง หากไม่ได้มีส่วนร่วมในการขนถ่ายสินค้าจริง
บริษัท ซ. ผู้ขนส่งสินค้าที่โจทก์รับประกันภัยไว้เป็นผู้ว่าจ้างบริษัท อ. โดยตรงให้เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลจำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ขนสินค้าหรือร่วมขนสินค้าจากเรือเดินทะเลลงเรือเล็ก ลำพังแต่การดำเนินการทางเอกสาร หรือปฏิบัติพิธีการเกี่ยวกับการนำเรือเข้าเทียบท่าในราชอาณาจักรหรือแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าต่อกรมศุลกากร หรือแจ้งต่อเจ้าของสินค้ารวมถึงกำหนดวันขนถ่ายสินค้า ตลอดจนวิธีการที่แจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกกับใบปล่อยสินค้าจากนายเรือตามทางปฏิบัติของการขนส่งทางทะเลนั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทซ. และเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 618 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิจากเจ้าของสินค้าผู้เอาประกันภัยเรียกเอาค่าเสียหายในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายในระหว่างการขนส่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้แทนเรือและผู้ขนส่งร่วม กรณีสินค้าเสียหายระหว่างขนถ่าย
บริษัทผู้ขนส่งสินค้าเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทอ.โดยตรงให้เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเล จำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ขนสินค้าหรือร่วมขนสินค้าจากเรือเดินทะเลลงเรือเล็ก ลำพังแต่การดำเนินการทางเอกสาร หรือปฏิบัติพิธีการเกี่ยวกับการนำเรือเข้าเทียบท่าในราชอาณาจักร หรือแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าต่อกรมศุลกากร หรือแจ้งต่อเจ้าของสินค้า รวมถึงกำหนดวันขนถ่ายสินค้า ตลอดจนวิธีการที่แจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกกับใบปล่อยสินค้าจากนายเรือตามทางปฏิบัติของการขนส่งทางทะเลนั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทผู้ขนส่งสินค้าและผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิจากเจ้าของสินค้าผู้เอาประกันภัยเรียกเอาค่าเสียหายในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายในระหว่างการขนส่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้แทนเรือไม่ต้องรับผิดฐานผู้ขนส่งร่วม หากไม่ได้มีส่วนร่วมในการขนถ่ายสินค้า
บริษัทผู้ขนส่งสินค้าเป็นผู้ว่าจ้างบริษัท อ. โดยตรงให้เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเล บริษัทจำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ขนสินค้าหรือร่วมขนสินค้าจากเรือเดินทะเลลงเรือเล็ก ลำพังแต่การดำเนินการทางเอกสาร หรือปฏิบัติพิธีการเกี่ยวกับการนำเรือเข้าเทียบท่าในราชอาณาจักร หรือแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าต่อกรมศุลกากรหรือแจ้งต่อเจ้าของสินค้า รวมถึงกำหนดวันขนถ่ายสินค้าตลอดจนวิธีการที่แจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกกับใบปล่อยสินค้าจากนายเรือตามทางปฏิบัติของการขนส่งทางทะเลนั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทผู้ขนส่งสินค้าและผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตาม ป.พ.พ. มาตรา 618 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิจากเจ้าของสินค้าผู้เอาประกันภัยเรียกเอาค่าเสียหายในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายในระหว่างการขนส่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ท. บิดาเป็นต่างด้าว: ศาลฎีกาชี้ 'บิดา' ตามกฎหมายครอบคลุมทั้งที่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในชั้นฎีกา จำเลยรับแล้วว่า จำเลยเป็นบุตรของนาย ง.ส่วนข้อที่ว่านาย ง.เป็นบุคคลสัญชาติจีนหรือสัญชาติไทย จำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และยอมรับในคำฟ้องฎีกาว่า จำเลยมีบิดาเป็นคนสัญชาติจีน จึงต้องรับฟังว่าจำเลยมีบิดาเป็นคนต่างด้าว คำว่า "บิดา" ตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพ.ศ. 2482 มาตรา 20 และ มาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว หมายถึงบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำว่า 'บิดา' ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งเทศบาล ครอบคลุมทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำว่า "บิดา" ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสภาเทศบาล พ.ศ.2482มาตรา 20 และ 20 ทวิ หมายถึงทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
of 86