พบผลลัพธ์ทั้งหมด 858 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ชอบด้วยกฎหมายไปยังสำนักทำการงานของหุ้นส่วนผู้จัดการ และผลของการขาดนัดยื่นคำให้การ
เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยที่ 1ซึ่งระบุไว้ในหนังสือรับรองนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทถือว่าเจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2ที่สำนักทำการงานของจำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว การที่จำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ทั้งมิได้แจ้งเหตุขัดข้องต่อศาลภายในกำหนดเวลา ทั้งทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วยังขาดนัดพิจารณา ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ไม่มีเหตุอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทุเลาการบังคับคดี: ศาลต้องสอบถามความเห็นโจทก์เรื่องหลักประกันก่อนมีคำสั่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่ขอให้สั่งให้จำเลยที่ 1นำเงินหรือหลักประกันมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีให้ครบตามคำสั่งศาลฎีกา โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง อุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ดังกล่าวเป็นเรื่องเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับคำสั่งขอทุเลาการบังคับคดีซึ่งเป็นอำนาจแต่ละชั้นศาล ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ได้ ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้สอบถามโจทก์ว่าพอใจในหลักประกันของจำเลยที่ 1 ตามที่จำเลยที่ 1 แถลงหรือไม่ คงฟังจากคำแถลงของทนายจำเลยที่ 1 แต่เพียงฝ่ายเดียวและมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ทำหนังสือประกันชั้นฎีกาไปเลยโดยที่โจทก์ไม่มีโอกาสคัดค้าน ทั้งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าวเสียในวันนัด ดังนั้นการที่โจทก์มิได้คัดค้านจึงไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่ 1 นำเงินหรือหลักประกันมาวางให้ครบตามคำสั่งของศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2216/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์สินตัดสิทธิทายาท การเพิกถอนผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
ศาลมีคำสั่งตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แต่ได้ความภายหลังว่าก่อนตาย ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ทั้งหมดให้แก่โจทก์ที่ 1 และตั้งให้โจทก์ที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก จำเลยจึงถูกตัดมิให้รับมรดก และไม่มีสิทธิที่จะร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก จึงมีเหตุเพิกถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าที่ดินและตึกแถวตามสัญญาต่างตอบแทน สัญญาเดิมไม่ผูกพันผู้รับโอนกรรมสิทธิ์
ฟ้องแย้งที่จำเลยกล่าวอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่ากับผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทให้จำเลยปลูกสร้างตึกแถวลงในที่ดินพิพาท แล้วยกตึกแถวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าโดยผู้ให้เช่ายินยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนด 9 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วก็ยอมให้จำเลยเช่าต่อได้อีก เมื่อโจทก์ทั้งสี่เป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ให้เช่าเดิมจึงต้องมีความผูกพันตามสัญญาที่มีอยู่เดิมด้วย ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวหากจะมี ก็เป็นสัญญาระหว่างจำเลยกับผู้ให้เช่าเดิม เป็นเพียงบุคคลสิทธิที่มีผลบังคับระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น โจทก์ทั้งสี่เป็นบุคคลภายนอกจึงหาผูกพันด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจงดการขายทอดตลาดหลังศาลชั้นต้นยกคำร้องขัดทรัพย์ และฐานะผู้ร้องขัดทรัพย์ตามมาตรา 288
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ที่บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อได้รับคำร้องขัดทรัพย์แล้วให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นไว้ระหว่างรอคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาล หมายถึงศาลที่ออกหมายบังคับคดีนั้นเอง คือศาลชั้นต้น หาได้หมายถึงศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่ ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจขายทรัพย์ดังกล่าวได้ ผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดของผู้ร้อง และขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งงดการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องก่อนศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจว่ามีเหตุสมควรที่จะให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวหรือไม่ ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่า ทรัพย์ที่โจทก์ยึดเพื่อขายทอดตลาดในคดีนี้เป็นทรัพย์ที่ผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วย ดังนี้ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอกันส่วนของผู้ร้องในทรัพย์ที่จะขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ผู้ร้องไม่ได้มีฐานะเป็นผู้ร้องขัดทรัพย์ตามมาตรา 288 จึงไม่มีเหตุที่จะงดการขายทอดตลาดทรัพย์ไว้ในระหว่างอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ที่อยู่ของจำเลยคือถิ่นฐานสำคัญ ไม่ใช่เรือนจำชั่วคราว
"ที่อยู่" ตามนัยมาตรา 22(1) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หมายถึงถิ่นอันบุคคลนั้นมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37การที่จำเลยถูกขังอยู่ที่เรือนจำในคดีอื่นซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และในระหว่างพิจารณาจำเลยอาจได้รับการปล่อยชั่วคราวหรือในที่สุดศาลอาจพิพากษายกฟ้องปล่อยตัวจำเลยก็ได้ เรือนจำดังกล่าวจึงมิใช่ที่อยู่ของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในกุฏิพระ: กุฏิไม่ใช่สถานที่บูชาสาธารณะ แต่เป็นเคหสถาน
กุฏิพระเป็นเคหสถาน แต่ไม่ใช่สถานที่บูชาสาธารณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในกุฏิพระ: กุฏิเป็นเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
คำว่า "กุฏิ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525หมายความว่า "เรือนหรือตึกสำหรับพระภิกษุสามเณรอยู่" ดังนั้นกุฏิพระจึงเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณรเท่านั้น จึงเป็น"เคหสถาน" ตามนัยมาตรา 1(4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา และหาใช่สถานที่บูชาสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(9) ด้วยไม่การลักทรัพย์ในบริเวณกุฏิพระ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดหุ้นของสมาชิกสหกรณ์: เงื่อนไขหนี้ต้องเคารพสิทธิผู้ถือหุ้นก่อน
การอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกหาอาจกระทำให้มีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของบุคคลภายนอกได้ไม่เมื่อหนี้ของผู้ร้องที่จะต้องคืนเป็นค่าหุ้นให้แก่จำเลยทั้งสองเป็นหนี้มีเงื่อนไขว่า ผู้ร้องจะต้องคืนให้ต่อเมื่อจำเลยทั้งสองพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องแล้ว แม้ศาลจะออกคำสั่งอายัดให้ได้แต่คำสั่งศาลดังกล่าวจะเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขแห่งหนี้นั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินพระภิกษุ: เงินที่ได้ระหว่างสมณเพศเป็นสมบัติของวัด, ทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิ
เมื่อเจ้ามรดกเป็นพระภิกษุถึงแก่มรณภาพโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้เงินของเจ้ามรดกที่ได้มาในระหว่างที่อยู่ในสมณเพศจึงตกเป็นสมบัติของผู้คัดค้านซึ่งเป็นวัดที่เป็นภูมิลำเนาของเจ้ามรดก แม้ผู้ร้องที่ 2 จะเป็นบุตรนอกกฎหมายที่เจ้ามรดกได้รับรองแล้วและเป็นทายาทโดยธรรมก็หามีสิทธิในเงินดังกล่าวไม่ จึงไม่ใช่ทายาทสำหรับเงินจำนวนนี้ และมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะมาร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกได้