พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,029 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2404/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: การครอบครองและยักยอกทรัพย์
ตามบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่ศาลบันทึกไว้ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 24มิถุนายน 2531 เวลากลางวัน จำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่องราคา 21,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2531 เวลากลางวัน จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริตดังนี้ ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว หาจำต้องบรรยายถึงว่าจำเลยกระทำการเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปไปอย่างไร ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2404/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีเบียดบังยักยอกทรัพย์: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อระบุรายละเอียดการกระทำไม่จำเป็น
ตามบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่ศาลบันทึกไว้ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 24มิถุนายน 2531 เวลากลางวัน จำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่องราคา 21,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2531 เวลากลางวัน จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตน โดยทุจริต ดังนี้ ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว หาจำต้องบรรยายถึงว่าจำเลยกระทำการเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปไปอย่างไร ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2404/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การเบียดบังยักยอกทรัพย์ ความพอเพียงของรายละเอียดฟ้อง
ตามบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่ศาลบันทึกไว้ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 24มิถุนายน 2531 เวลากลางวัน จำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่องราคา 21,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2531 เวลากลางวัน จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริตดังนี้ ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว หาจำต้องบรรยายถึงว่าจำเลยกระทำการเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปไปอย่างไร ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2360/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีลิขสิทธิ์ต่างประเทศ ต้องแสดงให้ชัดเจนว่ากฎหมายของประเทศนั้นคุ้มครองลิขสิทธิ์ของภาคีอื่นด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า แถบบันทึกภาพของโจทก์ร่วมตามฟ้องเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเมืองฮ่องกงซึ่งเป็นประเทศที่เป็นภาคี แห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี อยู่ด้วย และกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ของเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองแก่แถบบันทึกภาพนี้เช่นเดียวกัน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศพ.ศ. 2526 แต่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องเลยว่ากฎหมายของเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคี อื่น ๆแห่งอนุสัญญาดังกล่าว ถ้อยคำที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า "...และกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ของประเทศฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองแก่แถบบันทึกภาพเช่นเดียวกัน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ พ.ศ. 2526"นั้นก็ไม่อาจจะให้แปลไปได้ว่า กฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ของฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคี อื่น ๆแห่งอนุสัญญา ฉะนั้น ฟ้องโจทก์จึงขาดความสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าแถบบันทึกภาพตามฟ้องมีสิทธิ์ ที่จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการฟ้องคดีอาญาในกรณีที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวด้วยงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายต่างประเทศฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2308/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิจากค่ารักษาพยาบาลในสัญญาประกันภัยรถยนต์ และความรับผิดของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้รับประกันภัย
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน รบ.16627ซึ่งเป็นรถของจำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 บุตรชายจำเลยที่ 2เป็นคนขับและคุ้มครองผู้ขับรถตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 1ขับรถคันดังกล่าวชนกับรถของโจทก์ที่ 1 จน ด. คนขับรถโจทก์ที่ 1 ถึงแก่ความตายส่วนจำเลยที่ 1 ได้รับบาดเจ็บและเสียค่ารักษาพยาบาล จำเลยที่ 3 จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่จำเลยที่ 1ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 3 ตกลงคุ้มครอง หาใช่เป็นการประกันชีวิตไม่ ถือเป็นค่าเสียหายที่จำเลยที่ 3 ได้รับจากความประมาทของ ด. ลูกจ้างโจทก์ที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเข้ารับช่วงสิทธิ์ จากจำเลยที่ 1 มาฟ้องเรียกร้องเอาค่าเสียหายดังกล่าวจากโจทก์ที่ 1และโจทก์ที่ 4 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิหลังชดใช้ค่าเสียหายจากการขนส่ง และการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ละเมิด
โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัท ม. เมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่ง โจทก์ย่อมจะต้อง รับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. ตาม สัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ม. โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ผู้กระทำละเมิดและจำเลยที่ 3 ซึ่ง เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 4 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับขนส่งมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิดและนายจ้างได้ หากชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของสินค้าแล้ว
โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัท ม. เมื่อมีผู้กระทำละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่งดังกล่าว และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. ตามสัญญาแล้ว โจทก์ย่อมเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ม. มีอำนาจฟ้องผู้กระทำละเมิดและนายจ้างของผู้กระทำละเมิดให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับขนส่งมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิดและนายจ้างได้ เมื่อชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของสินค้าแล้ว
โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัท ม. เมื่อมีผู้กระทำละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่งดังกล่าว และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. ตาม สัญญาแล้ว โจทก์ย่อมเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ม. มีอำนาจฟ้องผู้กระทำละเมิดและนายจ้างของผู้กระทำละเมิดให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากเรือทัก การรับผิดของเจ้าของเรือและผู้รับขนส่ง ค่าเสียหายจากสินค้าเสียหาย
โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดเมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่ง โจทก์ย่อมจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดตามสัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัดแล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัทไม้อัดไทย จำกัด และมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ผู้กระทำละเมิดและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 4 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: พยานหลักฐานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ จำเลยปฏิเสธการรับซื้อและให้การไม่สมัครใจ ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัย
โจทก์มีพยานปากเดียว เบิกความว่าพบรถจักรยานยนต์ของกลางจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านจำเลยจึงยึดไปตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูก คนร้ายลักไปวันรุ่งขึ้นพยานไปสอบถามจำเลย จำเลยรับว่าซื้อ รถจักรยานยนต์ของกลางมาจากนาย จ. เมื่อพยานแจ้งข้อหาแก่จำเลย จำเลยก็ให้การรับสารภาพฐาน รับของโจร แต่ พยานโจทก์ดังกล่าวเบิกความตอบคำถามค้าน ว่าในวันยึดรถจักรยานยนต์ของกลางไปตรวจสอบพยานไม่ได้สอบถาม จำเลยว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของใคร และจำเลยก็ไม่คัดค้าน หรือโต้แย้งว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของจำเลย คำเบิกความของพยานโจทก์ขัดต่อ เหตุผลมีพิรุธส่วนคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน จำเลยก็ต่อสู้ ว่าไม่ได้ให้การด้วย ความสมัครใจพยานหลักฐานของโจทก์จึงยังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยรับซื้อ รถจักรยานยนต์ของกลางไว้จากนาย จ. หรือไม่ ต้อง ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย.