คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาม ยิ้มแย้ม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 924 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทน: แม้โจทก์ผิดสัญญา ส่งผ้าไม่ครบ/ล่าช้า จำเลยก็ต้องชำระค่าผ้าที่รับไป
จำเลยให้การว่า โจทก์ผิดสัญญาส่งผ้าให้แก่จำเลยล่าช้าและไม่ครบจำนวนตามสัญญา ทำให้จำเลยเสียหาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับจำเลยให้ชดใช้ราคาค่าผ้าที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลยตามฟ้องจำเลยอุทธรณ์ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อโจทก์ชำระหนี้ไม่ถูกต้องครบถ้วนในเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทน ดังนี้ แม้คำให้การดังกล่าวจำเลยจะไม่ได้ให้การให้ปรากฏถ้อยคำว่า "สัญญาต่างตอบแทน" ไว้ด้วย แต่ก็มีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า สัญญาซื้อขายผ้าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจำเลยจึงไม่มีหน้าที่ชำระราคาเป็นการตอบแทน ข้ออุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวกับคำให้การจำเลยเป็นเรื่องเดียวกันและเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้จึงไม่ชอบ แต่เมื่อจำเลยได้ยกประเด็นดังกล่าวเป็นข้อฎีกาขึ้นมาแล้วศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อนี้เสียเอง โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกยังไม่โอน ยักยอกไม่ได้ เหตุไม่มีการส่งมอบหรือตรวจนับ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกข้าวเปลือกของโจทก์จำนวน 400 กระสอบซึ่งฝากไว้ที่ยุ้งข้าวของจำเลย โดยข้าวเปลือกจำนวนดังกล่าวจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ แต่พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่ามีการตรวจนับจำนวนหรือคัดเลือกข้าวเปลือกเพื่อกำหนดส่งมอบให้แก่โจทก์ ข้าวเปลือกที่โจทก์กล่าวอ้างจึงยังไม่เป็นวัตถุแห่งหนี้ที่จะชำระให้แก่กัน และกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกยังไม่โอนไปเป็นของโจทก์ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยครอบครองข้าวเปลือกของโจทก์ ไม่อาจเป็นความผิดฐานยักยอก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง และประเด็นการกระทำผิดร่วมกันออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยลงโทษปรับสถานเดียว คดีของจำเลยที่ 1 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 การที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เงินที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 นำเช็คแลกเงินสดทั้งสองฉบับเป็นเงินที่โจทก์มีอำนาจใช้สอยได้ บิดาโจทก์มอบให้โจทก์ไว้โดยเสน่หาเป็นเงินสดส่วนตัวของโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คแล้วจำเลยฎีกาว่าการรับแลกเช็คคดีนี้เป็นการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2โดยเอาเช็คจำเลยที่ 1 เป็นประกันโดยมิชอบ โจทก์รับแลกเช็คแทนบิดามารดาโจทก์ และจำเลยที่ 2 ร่วมกับนายทองเจือ ปลอมเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยที่ 1 จึงต้องห้ามตามกฎหมาย เช็คพิพาทเป็นเช็คของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการในขณะนั้นลงชื่อโดยถูกต้องแต่ลายมือชื่อที่ลงร่วมด้วยไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทมาแลกเงินสดจากโจทก์ การสั่งจ่ายเช็คของห้างจำเลยที่ 1นี้เป็นเรื่องระหว่างธนาคารตามเช็คกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1เป็นนิติบุคคล การกระทำของจำเลยที่ 1 มีจำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้กระทำแทน เมื่อเช็คพิพาทถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยเหตุผลว่าไม่มีเงินในบัญชีพึงให้ใช้เงินตามเช็คกรณีก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันกระทำผิดตามฟ้องส่วนลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 เป็นลายมือชื่อปลอม ไม่เหมือนกับตัวอย่างที่ให้ไว้แก่ธนาคารนั้น ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าผู้ใดปลอมขึ้น แต่ก็ย่อมเห็นเจตนาได้ว่าเป็นการปลอมขึ้นเพื่อให้เหมือนตัวอย่าง ลายมือชื่อที่จำเลยที่ 3 ให้ไว้แก่ธนาคารและตามข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 ทำไว้กับธนาคารซึ่งโจทก์เป็นบุคคลภายนอกไม่ได้ร่วมรู้เห็นด้วย ดังนี้ แม้ลายมือชื่อจำเลยที่ 3 จะเป็นลายมือชื่อปลอมก็มีผลเพียงทำให้คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกระทำผิดไม่มีผลให้การกระทำในส่วนของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ที่เป็นความผิดตามฟ้องแล้วเปลี่ยนแปลงไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2223/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องและการฟ้องแย้ง: ศาลอนุญาตถอนฟ้องได้หากไม่มีผลทำให้คู่ความเสียเปรียบ แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องได้ในภายหลัง
แม้หากศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปจนเสร็จสำนวนจะต้องพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ถูกต้องก็ตาม แต่การพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยเหตุดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับประเด็นในเนื้อหาแห่งคดี จึงไม่เป็นการต้องห้ามมิให้คู่ความรื้อร้องฟ้องกันอีก ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จึงหามีผลทำให้จำเลยเสียเปรียบในเชิงคดีไม่และเมื่อการอนุญาตให้ถอนฟ้องมีเหตุอันสมควร ฟ้องแย้งย่อมตกไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2201/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้มีการหยุดพักเพื่อรออนุมัติและเสนอราคาเพิ่ม การเพิกถอนต้องมีเหตุสมควร
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ดำเนินการทอดตลาดได้หยุดการขายทอดตลาดไว้เพื่อรอการอนุมัติให้ขายจากรองอธิบดีกรมบังคับคดีเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมบังคับคดีอันเกี่ยวกับการขายทอดตลาด หาได้ปฏิบัติโดยมิชอบแต่อย่างใดไม่ และในระหว่าง ที่ ยังไม่มีการตกลงขายด้วยการเคาะไม้ ผู้สู้ราคาจึงอาจจะถอนคำสู้ราคาหรือเสนอราคาให้สูงขึ้นต่อไปได้ เพราะการขายทอดตลาดนั้นยังไม่บริบูรณ์โดยเป็นการพักไว้ชั่วคราว เมื่อผู้สู้ราคาไว้เดิม เสนอราคาสูงขึ้นก็ได้มีการขานราคาอีกครั้งหนึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้อื่น เข้า สู้ราคาก่อนการเคาะไม้แสดงความตกลง จึงเป็นการขายทอดตลาด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว หาใช่ผู้สู้ราคาเสนอเพิ่มราคาโดยลำพัง โดย ไม่มีการสู้ราคาไม่ เมื่อการขายทอดตลาดไม่มีพฤติการณ์อื่นใดที่ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการสมรู้กันกดราคา หรือกระทำการโดยไม่สุจริต การขายทอดตลาดจึงชอบแล้วข้ออ้างราคาต่ำไม่ใช่เหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ที่จำเลยฎีกาว่า การขายทอดตลาดมีผู้เสนอราคาผู้เดียว และว่าการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องขายให้ได้ราคาเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2201/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้ราคาต่ำกว่าประเมิน หากไม่มีเจตนาทุจริตหรือสมรู้กันกดราคา
ในการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ครั้งที่ 1และครั้งที่ 2 หลังจากนั้นได้หยุดการขายไว้และเรียกโจทก์จำเลยกับผู้สู้ราคาสูงสุดเข้าไปสอบถาม และผู้สู้ราคาสูงสุดได้เสนอราคาเพิ่มขึ้นอีก รองอธิบดีกรมบังคับคดีได้อนุมัติให้ขายในราคาดังกล่าวเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ทำการขานราคานั้นอีกครั้ง โดยเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคา แต่ไม่มีผู้คัดค้านและได้เคาะไม้เป็นครั้งที่ 3 ให้ขายในราคานั้น เป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมบังคับคดีอันเกี่ยวกับการขายทอดตลาด การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายแล้ว แม้ราคาขายทอดตลาดจะต่ำกว่าราคาประเมิน แต่เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าเป็นการสมรู้กันกดราคา หรือกระทำโดยไม่สุจริต การขายทอดตลาดจึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แซงซ้ายด้วยความเร็วสูง ชนกับรถยนต์ที่กำลังเลี้ยวเข้าซอย
ก่อนเกิดเหตุจำเลยขับรถยนต์แซงรถจักรยานยนต์ของโจทก์ตามทางด้านขวาเมื่อถึงซอยเข้าบ้านจำเลย จำเลยได้ขับเลี้ยวซ้ายเข้าซอยซึ่งมีระดับต่ำกว่าถนน ต้องลดความเร็วที่เกิดเหตุมีรอยห้ามล้อรถยนต์จำเลยยาวไม่ถึง 1 เมตร แสดงว่าจำเลยไม่ได้ขับเร็วขณะนั้นเองฝ่ายโจทก์ร่วมขับรถจักรยานยนต์ซึ่งปกติมีความคล่องตัวกว่ารถยนต์มากแซงซ้ายชนรถยนต์ของจำเลยแล้วโจทก์ร่วมกระเด็นข้ามกระโปรงรถยนต์ของจำเลยไปตกที่บริเวณท่อระบายน้ำข้างถนน และรถจักรยานยนต์ของโจทก์ร่วมแฉลบไปชนรั้วบ้าน แสดงว่าโจทก์ร่วมเองเป็นฝ่ายขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วและแซงซ้ายมือโดยไม่ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดเฉี่ยวชนกันได้พฤติการณ์ดังกล่าวฟังไม่ได้ว่าจำเลยประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1965/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียน: ผลกระทบต่อการฟ้องร้องและการพิสูจน์ความผิด
โจทก์และโจทก์ร่วมฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันเลียนเครื่องหมายการค้า คำว่า แจ๊คสัน JACKSON ของโจทก์ร่วมซึ่งได้จดทะเบียนแล้วและโจทก์ร่วมได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าของโจทก์ร่วมประเภทกางเกงยีนสำเร็จรูปนำออกจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป โดยจำเลยทั้งสองใช้เครื่องหมายการค้า คำว่า JACKSONG(แจ๊คซอง) กับสินค้ากางเกงยีนของจำเลยทั้งสองเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยทั้งสองเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วม และร่วมกันจำหน่ายและเสนอจำหน่ายกางเกงยีนที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมแก่ประชาชนทั่วไป แต่ทางนำสืบของโจทก์และโจทก์ร่วมกลับปรากฏว่า โจทก์ร่วมหาได้นำเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนดังกล่าวที่ได้รับโอนมาไปใช้กับสินค้ากางเกงยีนของโจทก์ร่วมไม่ โจทก์ร่วมผลิตและจำหน่ายกางเกงยีนติดเครื่องหมายการค้าคำว่า JACKSON และข้างหน้ามีรูปกีตาร์1 ตัว วางตั้งเฉียง จำเลยทั้งสองได้เลียนเครื่องหมายการค้าJACKSON ซึ่งเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่มีรูปกีตาร์ ของ โจทก์ร่วมโดยเพิ่มอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ตัว G อีก 1 ตัว ท้ายคำว่า JACKSON เป็น JACKSONGและดัดแปลงรูปกีตาร์ ให้แตกต่างจากของโจทก์ร่วมเพียงเล็กน้อยดังนี้ เมื่อปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า JACKSON มีรูปกีตาร์ของโจทก์ร่วมยังมิได้รับการจดทะเบียน จึงมีผลเท่ากับโจทก์และโจทก์ร่วมอ้างว่าจำเลยทั้งสองเลียนเครื่องหมายการค้ายังมิได้จดทะเบียนของโจทก์ร่วมข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาดังกล่าวจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงดั่ง ที่กล่าวในฟ้องไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับกับเงินประกันเป็นค่าเสียหายต่างประเภทกัน สามารถริบเงินประกันและเรียกเบี้ยปรับได้หากสัญญากำหนด
เบี้ยปรับกับเงินประกันนั้นนอกจากจะต่างประเภทกันแล้วยังแยกต่างหากจากกันด้วย ดังนั้นเมื่อริบเงินประกันแล้วยังเรียกเอาเบี้ยปรับได้อีกด้วย ถ้าสัญญามีข้อตกลงกันไว้เช่นนั้น สัญญาซื้อขายรวมความได้ว่า ในกรณีที่ผู้ขายประพฤติผิดสัญญาไม่ว่าผู้ซื้อจะบอกเลิกสัญญาหรือไม่ ผู้ซื้อมีสิทธิริบเงินประกันและเรียกเอาเบี้ยปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาได้ด้วย ผู้ขายจึงต้องชำระเบี้ยปรับแก่ผู้ซื้อนอกเหนือจากริบเงินประกัน
เบี้ยปรับก็คือค่าเสียหายจำนวนหนึ่งที่คู่สัญญากำหนดไว้ล่วงหน้า อันอาจจะมีหรือเกิดขึ้นเนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา เพื่อให้ฝ่ายที่ผิดสัญญาชดใช้ให้แก่ฝ่ายที่มิได้ผิดสัญญาแต่มิได้บังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าจะต้องเป็นไปตามนั้น ศาลอาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนเบี้ยปรับตามที่กำหนดไว้ในสัญญาลงได้ โดยพิจารณาถึงทางได้เสียของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับและเงินประกันเป็นค่าเสียหายต่างประเภท ริบเงินประกันแล้วยังเรียกเบี้ยปรับได้ ศาลอาจลดเบี้ยปรับได้ตามสมควร
เบี้ยปรับกับเงินประกันนั้นนอกจากจะต่างประเภทกันแล้วยังแยกต่างหากจากกันด้วย ดังนั้นเมื่อริบเงินประกันแล้วยังเรียกเอาเบี้ยปรับได้อีกด้วย ถ้าสัญญามีข้อตกลงกันไว้เช่นนั้น สัญญาซื้อขายรวมความได้ว่า ในกรณีที่ผู้ขายประพฤติผิดสัญญาไม่ว่าผู้ซื้อจะบอกเลิกสัญญาหรือไม่ ผู้ซื้อมีสิทธิริบเงินประกันและเรียกเอาเบี้ยปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาได้ด้วย ผู้ขายจึงต้องชำระเบี้ยปรับแก่ผู้ซื้อนอกเหนือจากริบเงินประกัน เบี้ยปรับก็คือค่าเสียหายจำนวนหนึ่งที่คู่สัญญากำหนดไว้ล่วงหน้า อันอาจจะมีหรือเกิดขึ้นเนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา เพื่อให้ฝ่ายที่ผิดสัญญาชดใช้ให้แก่ฝ่ายที่มิได้ผิดสัญญาแต่มิได้บังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าจะต้องเป็นไปตามนั้น ศาลอาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนเบี้ยปรับตามที่กำหนดไว้ในสัญญาลงได้ โดยพิจารณาถึงทางได้เสียของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย.
of 93