พบผลลัพธ์ทั้งหมด 924 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6106/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การทวงถามค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่ ไม่ถือเป็นการเริ่มนับอายุความ
การที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายโดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ใน ความรับผิดชอบของจำเลยจึงแจ้งให้จำเลยในฐานะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวชดใช้ทรัพย์สินแก่โจทก์ ภายในกำหนด 3 วันนั้น ย่อมเป็นการทวงถามให้ชดใช้ค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำละเมิด อายุความจึงยังไม่เริ่มนับต่อเมื่อโจทก์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบ และโจทก์ทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2524 ว่า ผู้ต้องรับผิดคือจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 6 พฤษภาคม 2524 ไม่เกิน 1 ปี นับจากทราบผลดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6106/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหาย: การทวงถามในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่ ไม่ถือเป็นการรู้ตัวผู้กระทำละเมิด
การที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายโดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยจึงแจ้งให้จำเลยในฐานะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวชดใช้ทรัพย์สินแก่โจทก์ภายในกำหนด 3 วันนั้น ย่อมเป็นการทวงถามให้ชดใช้ค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำละเมิด อายุความจึงยังไม่เริ่มนับต่อเมื่อโจทก์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบ และโจทก์ทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2524ว่า ผู้ต้องรับผิดคือจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 6 พฤษภาคม 2524ไม่เกิน 1 ปี นับจาก ทราบผลดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5753/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมแบบธรรมดาตกเติมข้อความไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ตกเติม มิได้ทำให้พินัยกรรมทั้งฉบับเป็นโมฆะ
พินัยกรรมแบบธรรมดาซึ่งผู้ทำพินัยกรรมมิได้เขียนเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 การขูดลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลาย มือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น ทั้งนี้ตามวรรคสองของบทมาตราดังกล่าว เมื่อการตกเติมข้อความในพินัยกรรมไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวย่อมมีผลให้ข้อความที่ตกเติมเท่านั้นไม่ สมบูรณ์ ส่วนข้อความเดิมในพินัยกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อความที่ตกเติมจะเป็นข้อสาระสำคัญหรือไม่ก็มีผลเหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5753/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการตกเติมข้อความในพินัยกรรมแบบธรรมดาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
พินัยกรรมแบบธรรมดาซึ่งผู้ทำพินัยกรรมมิได้เขียนเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 การขูดลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น ทั้งนี้ตามวรรคสองของบทมาตราดังกล่าว เมื่อการตกเติมข้อความในพินัยกรรมไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวย่อมมีผลให้ข้อความที่ตกเติมเท่านั้นไม่สมบูรณ์ส่วนข้อความเดิมในพินัยกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ ไม่ตกเป็นโมฆะไม่ว่าข้อความที่ตกเติมจะเป็นข้อสาระสำคัญหรือไม่ก็มีผลเหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5341/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาวุธปืนโดยบรรยายฟ้องเป็นหลายกรรม หากอาวุธปืนเป็นกระบอกเดียวกันและต่อเนื่องกัน ถือเป็นกรรมเดียว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสองกรรมแยกต่างหากจากกันแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่อาวุธปืนตามฟ้องเป็นกระบอกเดียวกันและโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ในตอนต้นว่า จำเลยมีอาวุธปืนกระบอกเดียวกันนี้ตั้งแต่เวลาตามฟ้องในกรรมแรกต่อเนื่องตลอดมาจนถึงเวลาตามฟ้องในกรรมหลัง การกระทำของจำเลยในข้อหานี้จึงเป็นกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5284/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อลักษณะเบี้ยปรับ: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการกำหนดค่าเสียหาย ไม่ใช่ค่าตอบแทนการใช้ทรัพย์
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า ถ้าเจ้าของขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปแล้ว ยังไม่คุ้มราคาค่าเช่าซื้อที่จะต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาเช่าซื้อกับค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ให้เจ้าของจนครบถ้วนตามสัญญานั้นเป็นวิธีการกำหนดจำนวนค่าเสียหาย มิใช่เป็นข้อตกลงที่เป็นข้อกำหนดค่าตอบแทนการใช้ทรัพย์ล่วงหน้าในกรณีเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม แต่มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5280/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่ตกเป็นโมฆะแม้ระบุทรัพย์สินไม่ชัดเจน หากยังพอทราบได้แน่นอน
บทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706(3)นั้นหมายความว่า แม้ระบุทรัพย์สินที่ยกให้ไว้ไม่ชัดแจ้งเมื่อยังอาจพอทราบแน่นอนได้ย่อมหาตกเป็นโมฆะไม่ พินัยกรรมฉบับพิพาทไม่ได้ระบุเลขโฉนดที่ดินแปลงที่ยกให้แต่ระบุไว้เป็นสำคัญว่าคือที่ดินแปลงตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี และยังระบุไว้อีกว่าเป็นที่ดินแปลงที่ผู้ทำพินัยกรรมมีกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่กับนายนามและนายแนมโดยในพินัยกรรมระบุยกที่ดินให้เฉพาะส่วนของผู้ทำพินัยกรรมด้วย แม้ไม่ระบุจำนวนก็ย่อมชัดแจ้งแล้ว พินัยกรรมฉบับพิพาทจึงสมบูรณ์ใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวโจทก์ และการพิพากษาคดีซื้อขายถ่านหิน
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเหลือเพียงรอฟังคำพิพากษาเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 86 วรรคท้าย และ 187 จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดแต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์ และการคิดดอกเบี้ยจากวันผิดนัด
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเพียงรอฟัง คำพิพากษา เพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย และ 187
จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5097/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองทรัพย์มีสิทธิฟ้องยักยอกทรัพย์ แม้มิใช่เจ้าของ
ผู้ครอบครองทรัพย์ แม้มิใช่เป็นเจ้าของ ก็เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)