พบผลลัพธ์ทั้งหมด 454 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชัดเจนและการขาดข้อตกลงเรื่องค่าก่อสร้าง ทำให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใดและโจทก์ในฐานะ ผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้าง ใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนคงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและ กรมธนารักษ์ เท่านั้น ส่วนการ ก่อสร้าง อาคารพาณิชย์ และตลาดสดจะได้มีการตกลง ทำสัญญากันอีกต่างหาก คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้องแต่ โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดย อาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไรและโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่สำเร็จ และสิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่เมื่อไม่มีผู้รับแทน ณ ภูมิลำเนา
พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่ 2 ยังภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 แต่ผู้จัดการของจำเลยที่ 2ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และจำเลยที่ 2 มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่สำเร็จตามภูมิลำเนา/สำนักทำการงาน และสิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่
พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่ 2 ยังภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 แต่ผู้จัดการของจำเลยที่ 2 ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และจำเลยที่ 2 มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อจำเลยมีภูมิลำเนาแน่นอน การลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ไม่ชอบ
จำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานเป็นหลักแหล่งแน่นอนแต่ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ เพราะผู้จัดการของจำเลยที่ 2 ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์จึงไม่ชอบ และจะถือว่าจำเลยที่ 2 ทราบประกาศการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยผลของกฎหมายแล้วไม่ได้ จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำสัญญาประกันภัยไม่ใช่เอกสารสิทธิปลอมตาม ป.อ. มาตรา 1(9)
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่า ผู้เอาประกันมีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอ มีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ และบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เป็นเพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมิใช่หลักฐานแห่งการก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงมิใช่เอกสารสิทธิตาม ป.อ. มาตรา 1(9).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำประกันชีวิตไม่ใช่เอกสารสิทธิ ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่าพ.และส. มีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอมีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ ส่วนบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เป็นเพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมานี้มิใช่หลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตไม่ใช่เอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่า พ. และ ส. มีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอมีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ ส่วนบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบ ในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมานี้มิใช่หลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คหลายฉบับลงวันที่ต่างกัน ถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และศาลมีดุลพินิจในการหักวันคุมขัง
การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็คซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ดังนั้น การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับลงวันที่สั่งจ่ายคนละวันกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็วินิจฉัยได้.
การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็วินิจฉัยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คหลายฉบับลงวันที่ต่างกันถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และศาลมีดุลพินิจในการหักวันคุมขัง
การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ดังนั้น การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับลงวันที่สั่งจ่ายคนละวันกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คบางฉบับในวันเดียวกัน จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็วินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คหลายฉบับลงวันที่ต่างกัน ถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และศาลมีดุลยพินิจในการหักวันคุมขัง
การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็คซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ดังนั้น การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับลงวันที่สั่งจ่ายคนละวันกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๒ วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็วินิจฉัยได้.
การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๒ วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็วินิจฉัยได้.