คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 ม. 6

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง และการเบิกความพยานซ้ำ
คดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 (1) ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 009 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของบัญชี โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้แจ้งชัดว่าโจทก์ได้เปิดบัญชีนั้นโดยใช้นามอื่น เชื่อไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางพิจารณา ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างตนเองเป็นพยานแล้ว เมื่อโจทก์ขออนุญาตเบิกความเป็นครั้งที่สอง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมอีก การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เบิกความเป็นพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะอนุญาตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 คำเบิกความของโจทก์ครั้งที่สองจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม กรณีคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 เดือน ปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยฟังข้อเท็จจริงว่าของกลางเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยใช้ในการกระทำผิด จำเลยฎีกาขอให้สั่งคืนของกลางโดยอ้างว่าของกลางไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด เป็นฎีกาคัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2088/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในเรื่องดุลพินิจศาลเกี่ยวกับโทษจำคุกที่ไม่เกิน 1 ปี และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยฐานมีอาวุธปืนฯ 1 ปี และฐานพกอาวุธปืนฯ 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษ การที่โจทก์ฎีกา ขอมิให้รอการลงโทษจำเลยนั้น เป็นฎีกาในเรื่องดุลพินิจของศาล จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จะปรับว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาในฐานความผิดเป็นกระทงๆ ไป คดีนี้เป็นความผิด 2 กระทง แต่ละกระทงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย โจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2184/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในเรื่องดุลพินิจการลงโทษ จำเลยรับสารภาพ ศาลอุทธรณ์แก้โทษรอการลงโทษ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษแต่ก็ยังลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โจทก์ฎีกาในข้อดุลพินิจการลงโทษของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้าม: โจทก์ขอให้ลงโทษจำคุก แม้ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือน 15 วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษไว้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกไปเลย ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6