พบผลลัพธ์ทั้งหมด 504 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 123 แม้ขาดสมรรถภาพ แต่ต้องมีการตักเตือนก่อน
การเลิกจ้างในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับนั้นลูกจ้างจะต้องกระทำผิดตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 123 จึงจะเลิกจ้างได้ การที่ลูกจ้างลากิจ ลาป่วยไม่เกินข้อบังคับและได้รับอนุญาตจากนายจ้าง และขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจ ลาป่วยหรือขาดงานบ่อยนั้นหาก่อให้เกิดสิทธิแก่นายจ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือไปจากบทบัญญัติดังกล่าวไม่ ดังนั้นการที่โจทก์ผู้เป็นนายจ้างเลิกจ้างจำเลยผู้เป็นลูกจ้างเพราะเหตุเหล่านี้ จึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างต้องพิจารณาปรับปรุงแก้ไขก่อน หากเหตุผลไม่ชัดเจนและลูกจ้างปฏิบัติตามระเบียบ
เหตุเลิกจ้างที่ นายจ้าง อ้างว่าลูกจ้างลากิจ ลาป่วยเป็นจำนวนมากมิใช่เหตุจำเป็นนอกเหนือจากข้อยกเว้น 5 ประการ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123 ลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจ ลาป่วยหรือขาดงานบ่อย ๆ นายจ้างจะต้องหาวิธีการปรับปรุงแก้ไขด้วยหลักการบริหารงานบุคคลหรือตักเตือนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน หาก่อให้เกิดสิทธิแก่นายจ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123 (1) ถึง (5) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างต้องเป็นไปตามข้อยกเว้นใน พรบ.แรงงานสัมพันธ์ นายจ้างต้องปรับปรุงแก้ไขก่อนเลิกจ้าง
เหตุเลิกจ้างที่นายจ้างอ้างว่าลูกจ้างลากิจลาป่วยเป็นจำนวนมาก มิใช่เหตุจำเป็นนอกเหนือจากข้อยกเว้น 5 ประการ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 123 การที่ลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจลาป่วยหรือขาดงานบ่อย ๆ นั้น นายจ้างจะต้องหาวิธีปรับปรุงแก้ไขด้วยหลักการบริหารงานบุคคลหรือตักเตือนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนหาก่อให้เกิดสิทธิแก่นายจ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518มาตรา 123(1) ถึง (5) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เหตุผลลากิจ/ลาป่วย ต้องปรับปรุงแก้ไขก่อน
เหตุเลิกจ้างที่ นายจ้าง อ้างว่าลูกจ้างลากิจ ลาป่วยเป็นจำนวนมากมิใช่เหตุจำเป็นนอกเหนือจากข้อยกเว้น 5 ประการ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123ลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจ ลาป่วยหรือขาดงานบ่อย ๆ นายจ้างจะต้องหาวิธีการปรับปรุงแก้ไขด้วยหลักการบริหารงานบุคคลหรือตักเตือนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน หาก่อให้เกิดสิทธิแก่นายจ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518มาตรา 123(1) ถึง (5) ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นวิดีโอเกมเป็นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน แม้ไม่มีการเดิมพันทรัพย์สินโดยตรง การฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพต้องห้าม
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นวีดีโอเกมเป็นพนัน แม้ไม่มีการเดิมพันทรัพย์สินโดยตรง ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อัน เป็นการพนันตาม ที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 ท้าย พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 โดย จำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมง ละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดย มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดังนี้ฟ้องของโจทก์ได้ บรรยายถึง การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้ กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ ดี แล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158(5) แล้ว เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตาม ที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28เพื่อนำมาซึ่ง ผลประโยชน์แก่จำเลยโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตาม ที่โจทก์ฟ้องโดย ไม่ จำต้องบรรยายฟ้องให้ ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้ เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตาม บัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้อง ฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตาม บัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม ศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นวีดีโอเกมเป็นการพนัน แม้ผู้เล่นไม่ได้เล่นพนันกันเอง และการฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพ
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการร้องขอปล่อยทรัพย์ยึด ขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของทรัพย์ ผู้ซื้อแทนไม่ถือเป็นเจ้าของ
เครื่องทำน้ำแข็งที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลย ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งพิพาทแทนจำเลยผู้เป็นมารดาเนื่องจากจำเลยชรามากแล้ว ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของเครื่องทำน้ำแข็งพิพาท จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างป่วย: สิทธิค่าชดเชยเมื่อเหตุป่วยมิใช่ข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงแรงงาน
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานได้กำหนดว่านายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง เมื่อลูกจ้างกระทำการกรณีใดกรณีหนึ่งตามข้อ 47(1)-(6) แต่กรณีของ บ.ลูกจ้างของจำเลยป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่การงานได้ตาม ปกตินั้น เป็นเหตุเกิดตามสภาพร่างกายโดยธรรมชาติ ถือไม่ได้ว่า บ.กระทำการเข้าข้อยกเว้นข้อหนึ่งข้อใดตามประกาศข้อ 47 ดังกล่าวดังนี้เมื่อจำเลยเลิกจ้าง บ. ด้วยเหตุป่วยดังกล่าว บ. จึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากป่วย: สิทธิในการได้รับค่าชดเชยแม้มีข้อบังคับการลา
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ได้กำหนดว่านายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเมื่อลูกจ้างได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 47(1)-(6) แต่กรณีของ บ. ลูกจ้างของจำเลยซึ่งป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่การงานได้ตามปกตินั้นเป็นเหตุที่เกิดขึ้นตามสภาพร่างกายโดยธรรมชาติ ถือไม่ได้ว่าบ. กระทำการอันเข้าข้อยกเว้นตามข้อ 47 ของประกาศดังกล่าวดังนี้ เมื่อจำเลยเลิกจ้าง บ. ด้วยเหตุป่วย บ. จึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชย