คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 335 (1) (7)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4291-4292/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และลักทรัพย์ โดยมีพยานหลักฐานจากคำรับสารภาพและแผนประทุษกรรม
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุ แต่โจทก์มีคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามประกอบกับคำเบิกความของพนักงานสอบสวนแสดงรายละเอียดการกระทำความผิดตั้งแต่ตอนจำเลยที่ 1 ทาบทามว่าจ้างจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ฆ่าผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยที่ 1 ประชุมวางแผน ลงมือฆ่า ปลดเอาสร้อยข้อมือของผู้ตายกับแสร้งเอาสร้อยคอของจำเลยที่ 1 ไปซ่อน แล้วจำเลยที่ 1 ใช้เศษไม้ขูดคอตนเองให้เป็นรอยเพื่อแสร้งทำว่าถูกคนร้ายตี และจำเลยทั้งสามได้แสดงแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ ทั้งจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ขอขมาศพผู้ตายกับบิดาผู้ตาย แสดงถึงความสำนึกผิด และจำเลยที่ 1 ได้พาพนักงานสอบสวนไปเอาสร้อยข้อมือผู้ตายกับสร้อยคอของตนตรงที่ซ่อนไว้ ส่วนจำเลยที่ 2 ได้พาพนักงานสอบสวนไปเอาเหล็กขูดชาพท์ซึ่งใช้แทงผู้ตายที่ทิ้งไว้ขณะวิ่งหนี กับได้พบมีดปลายแหลมที่จำเลยที่ 3 ใช้แทงผู้ตายแล้วทิ้งไว้ ตรงตามสถานที่ที่ระบุไว้ในคำให้การ และจำเลยที่ 2 ได้พาพนักงานสอบสวนไปพบ อ.ที่ต่างจังหวัดให้นำไปยึดเอาสร้อยคอที่ร้านขายทองคืนมาด้วย นอกจากนี้โจทก์ยังมีคำให้การชั้นสอบสวนของ น. ร. กับ อ.ยืนยันว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็นผู้ขอให้ น.นำสร้อยคอของกลางไปขายตรงตามคำให้การของจำเลยที่ 2 ที่ 3 พยานโจทก์จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 วานให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมกันพาอาวุธไปฆ่าผู้ตายและลักทรัพย์ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2520 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามลักทรัพย์ในพื้นที่คอกสุกร ไม่ถือเป็นเคหสถานตามกฎหมาย
สถานที่เกิดเหตุเป็นคอกสุกรและห้องพักคนงานซึ่งมีรั้วสังกะสีล้อมทุกด้าน คอกสุกรสร้างขึ้นเป็นวัตถุประสงค์อันสำคัญของผู้เสียหายสำหรับเก็บรักษาสุกรโดยเฉพาะ ส่วนที่ห้องพักคนงานและฟ้องแถวเป็นวัตถุประสงค์อันดับรองที่สร้างขึ้นให้คนงานพักอาศัยชั่วคราวเพื่อดูแลสุกร คอกสุกรแม้จะติดอยู่กับห้องแถว ก็ไม่ใช่บริเวณของห้องแถวซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนดังกล่าว คอกสุกรจึงไม่ใช่เคหสถานตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(4) การที่จำเลยเข้าไปยื่นอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้วสังกะสี จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364
จำเลยได้เตรียมค้อน มีด และเชือกของกลางกลับมาที่เกิดเหตุ ได้ขุดรูใต้รั้วสังกะสีเพื่อทำเป็นช่องทางพาสุกรไป จำเลยเข้าไปอยู่ภายในรั้วสังกะสี ยืนอยู่ริมคอกสุกรภายในรั้ว ห่างประมาณ 1 เมตร โดยที่คอกสุกรตามสภาพมิได้ทำไว้กันขโมย แต่ทำไว้เพื่อมิให้สุกรออกไป จำเลยพร้อมที่จะลักเอาสุกรตัวใดตัวหนึ่งได้โดยสะดวกโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวมัดหรือฆ่า แล้วพาไปทางรูใต้สังกะสีที่ขุดไว้ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นลงมือกระทำความผิด เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว แต่ไม่ผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมาย มาตรา 335 (8)