คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธิระพันธุ์ รัศมิทัต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3644/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดคดีของผู้ร่วมลงทุน: ผลกระทบจากการจดทะเบียนเช่าในราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้น
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารร่วมกับผู้ร้องแล้ว หากโจทก์จะบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่าในอัตราค่าเซ้งที่ต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไป เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้อง ผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงได้ชื่อว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) ผู้ร้องชอบที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3644/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดคดีของผู้มีส่วนได้เสียจากการลงทุนร่วมและการเช่าทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารร่วมกับผู้ร้อง ขอบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่าในอัตราค่าเซ้งที่ต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไป ถ้าหากศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้องผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ดังนี้ ผู้ร้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57(2) จึงร้องสอด เข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฎีกาจำกัดเฉพาะประเด็นค่าเสียหาย และข้อจำกัดในการอุทธรณ์เรื่องความประมาท
โจทก์ที่ 1 ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำละเมิดและเรียกค่าเสียหาย 41,283 บาททุนทรัพย์สำหรับโจทก์ที่ 1 ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำละเมิดให้โจทก์ที่ 1 ได้รับชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้โจทก์ที่ 1 ได้รับชดใช้ค่าเสียหาย 14,250บาท ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จำเลยที่ 3 ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเสียหายมาดังกล่าวสูงเกินไป เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา248 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 มิได้ขับรถประมาทเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายขับรถประมาท แต่จำเลยที่ 3 มิได้อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 1มิได้ขับรถประมาท จึงไม่มีประเด็นข้อนี้ในชั้นศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 จึงไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อนี้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์ประเด็นใหม่ในฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
หลังจากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่าโจทก์เสนอราคาต่ำไปขอให้เลื่อนการขาย ศาลชั้นต้นสั่งรวมสำนวน จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์เสนอราคาต่ำไปและไม่มีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโดยไม่ไต่สวนก่อนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสองนั้น เป็นปัญหาที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลอุทธรณ์ และไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย