พบผลลัพธ์ทั้งหมด 876 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6368/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับเมื่อรู้ถูกหลอกลวง ไม่ใช่เมื่อมีหลักฐาน
โจทก์ร่วมรู้ถึงการหลอกลวงตั้งแต่เดือนกันยายน 2527 แม้เพิ่งมีหลักฐานเมื่อเดือนธันวาคม 2527 แสดงว่าจำเลยฉ้อโกง ก็เป็นเรื่องของการหาหลักฐานในการดำเนินคดี อันเป็นคนละกรณีกับที่โจทก์ร่วมรู้ว่าถูกหลอกลวง อายุความต้องเริ่มนับแต่เดือนกันยายน 2527โจทก์ร่วมร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์2528 จึงเกินกำหนด 3 เดือน เมื่อเป็นคดีความผิดอันยอมความได้คดีจึงขาดอายุความตาม ป.อ. มาตรา 96.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6351/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองที่ดิน: สิทธิผู้รับจำนองชอบที่จะยึดทรัพย์ แม้ผู้ครอบครองรายใหม่มีสิทธิครอบครองดีกว่า
จำเลยเป็นผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์และครอบครองทำกินในที่ดินพิพาท ได้นำที่ดินไปจำนองแก่โจทก์ แม้ต่อมาผู้ร้องได้เข้าแย่งการครอบครองในที่ดินพิพาทจนได้สิทธิดีกว่าจำเลยก็ตามแต่ก็เป็นเวลาหลังจากที่จำเลยได้จำนองโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วจึงไม่เป็นเหตุให้สัญญาจำนองระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 744 นอกจากนี้การจำนองก็เป็นทรัพย์สิทธิที่ติดไปกับตัวทรัพย์ที่จำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 วรรคสอง โจทก์ผู้รับจำนองโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมมีสิทธิยึดที่ดินพิพาทเพื่อบังคับคดีได้ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ดินพิพาท แม้ผู้ร้องได้ยกขึ้นกล่าวอ้างเป็นประเด็นไว้ว่า ที่ดินพิพาทเป็นคนละแปลงกับที่ดินที่โจทก์นำยึด แต่ต่อมาได้แถลงสละประเด็นเองโดยสมัครใจ จึงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และทำให้ประเด็นดังกล่าวยุติไปแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6351/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองย่อมคงอยู่ แม้มีการเปลี่ยนแปลงการครอบครองทรัพย์สินหลังจำนอง ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับคดีได้
ผู้ร้องเข้าแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจนได้สิทธิครอบครองภายหลังจากจำเลยได้จำนองที่ดินพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว การได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของผู้ร้อง จึงไม่เป็นเหตุให้สัญญาจำนองระงับสิ้นไป โจทก์ผู้รับจำนองโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์จำนองเพื่อบังคับคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6343/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากรต้องพิจารณาเวลาและสภาพสินค้าที่นำเข้า ราคาที่ปรากฏในใบกำกับสินค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด
มาตรา 2 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 บัญญัติว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาด หรือราคาแห่งของอย่างใดนั้นหมายความว่า ราคาขายส่งเงินสด (ในส่วนของขาเข้าไม่รวมค่าอากร)ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้โดยไม่ขาดทุน ณ เวลาและที่นำของเข้าหรือส่งออกแล้วแต่กรณี โดยไม่มีหักทอนหรือลดหย่อนราคาอย่างใด โจทก์นำของเข้าเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2531 แต่ของตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าที่จำเลยนำมาใช้เปรียบเทียบนำเข้าเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2530 และวันที่ 15กันยายน 2530 อันเป็นการนำเข้าในเวลาที่แตกต่างกันจนไม่อาจจะนำเอาราคามาเทียบกันได้ เมื่อราคาของที่ขายกันตามใบเสนอขาย และใบกำกับสินค้าเป็นไปตามปกติธรรมดาของของที่ซื้อขายกัน ราคานั้นเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. กรุงเทพมหานคร จึงเป็นราคา ณ เวลาและที่ที่นำของเข้าซึ่งจะพึงขายได้โดยไม่ขาดทุน อันถือได้ว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6279/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดเงินค่าก่อสร้าง: สัญญาจ้างเหมาเลิกกันแล้ว เงินค่าก่อสร้างงานงวดที่ 8 ไม่ใช่สิทธิของจำเลย
หุ้นส่วนและผู้ค้ำประกันของจำเลยที่ 1 เข้าไปทำการก่อสร้างงานงวดที่ 8 ในฐานะที่ตนเป็นผู้รับจ้างจากผู้ร้อง มิใช่ในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 เงินที่โจทก์ขออายัดนั้นจึงไม่ใช่เงินที่จำเลยที่ 1 จะมีสิทธิได้รับจากผู้ร้อง โจทก์จึงไม่อาจขออายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้ ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระค่าจ้างงานงวดที่ 8 ให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นการวินิจฉัยในผลของประเด็นที่ว่ามีเงินค่าจ้างของจำเลยที่ 1อยู่ที่ผู้ร้องตามที่ขออายัดหรือไม่ อันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นที่ว่ากันมาโดยตรง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6275/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าที่ดินเกษตรกรรมย่อมไม่ระงับ แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อต้องรับภาระผูกพันเดิม
พ.ร.บ. การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 28บัญญัติว่าการเช่านาย่อมไม่ระงับเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์นาที่เช่าการที่โจทก์รับโอนที่พิพาทมาโดยการซื้อได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น ก็ไม่มีบทกฎหมายบัญญัติไว้ว่าจะไม่ต้องรับภาระผูกพันที่มีเหนือทรัพย์นั้น โจทก์จึงต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนคือเจ้าของเดิมที่มีต่อจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้เช่าโจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6275/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินเช่าเกษตรกรรม ผู้รับโอนต้องรับภาระผูกพันตามสัญญาเช่าเดิม
มาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯบัญญัติว่าการเช่านาย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์นาที่เช่าผู้รับโอนต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่านา บทบัญญัติดังกล่าวและในมาตราอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่มีการยกเว้นไว้ว่า การรับโอนในกรณีใดที่จะให้การโอนเป็นผลให้การเช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ระงับไปการที่โจทก์รับโอนที่พิพาทมาโดยซื้อได้จากการขายทอดตลาดก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติยกเว้นที่จะไม่ต้องรับภาระผูกพันที่มีเหนือทรัพย์นั้น กรณีต้องถือว่าโจทก์รับโอนที่พิพาทมาจากเจ้าของเดิมที่เป็นผู้ให้จำเลยทั้งสองเช่า โจทก์จึงต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของเดิม ขณะโจทก์ฟ้องสิทธิการเช่าของจำเลยทั้งสองยังไม่สิ้นสุด โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6263/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า พิจารณาจากลักษณะการกระทำ การแทงด้วยอาวุธในส่วนสำคัญของร่างกายบ่งชี้เจตนา
การที่จะพิจารณาว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่ ต้องดูลักษณะของการกระทำที่จำเลยได้กระทำไปแล้วเป็นสำคัญ ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ แทงผู้เสียหายที่ด้านหลังในขณะที่ผู้เสียหายล้มลง ผู้เสียหายมีเลือดในโพรงปอดด้านขวาประมาณ600ซี.ซี. หากแพทย์รักษาไม่ทันอาจถึงแก่ความตายได้ เป็นการแทงผู้เสียหายโดยแรงในส่วนสำคัญของร่างกายในสภาพที่จำเลยมีโอกาสเลือกแทงได้ และปรากฏว่าจำเลยจะแทงผู้เสียหายอีก แต่มีผู้ร้องห้าม จำเลยจึงไม่แทง แสดงว่าก่อนมีผู้ร้องห้ามจำเลยมีเจตนาที่จะฆ่าผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6250/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างอาคารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการเพิ่มเติมโครงสร้างอาคารที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
จำเลยขออนุญาตก่อสร้างอาคารสูงสี่ชั้น แต่ทำการก่อสร้างเป็นอาคารสูงห้าชั้นเป็นการก่อสร้างเพิ่มทั้งจำนวนชั้นและความสูงของอาคาร เมื่อความสูงของอาคารเป็นส่วนที่จะต้องนำมาใช้คำนวณโครงสร้างของอาคารตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การก่อสร้างอาคารของจำเลยจึงเป็นการเพิ่มเติมส่วนที่เป็นโครงสร้างของอาคาร เป็นการต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 31
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6250/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างอาคารสูงเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการดัดแปลงโครงสร้างอาคารที่ผิดกฎหมาย
จำเลยขออนุญาตก่อสร้างอาคารสูงสี่ชั้น แต่ทำการก่อสร้างเป็นอาคารสูงห้าชั้นเป็นการก่อสร้างเพิ่มทั้งจำนวนชั้นและความสูงของอาคาร เมื่อความสูงของอาคารเป็นส่วนที่จะต้องนำมาใช้คำนวณโครงสร้างของอาคารตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การก่อสร้างอาคารของจำเลย จึงเป็นการเพิ่มเติมส่วนที่เป็นโครงสร้างของอาคารเป็นการต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 31