พบผลลัพธ์ทั้งหมด 876 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2461/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าประเด็นคดีเดิมและคดีหลังแตกต่างกัน ไม่ขัดแย้งกัน
คดีเดิม ประเด็นมีว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมายระเบียบแบบแผนหรือคำสั่งของจำเลยโดย จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้จำเลยเสียหายหรือไม่ ส่วนคดีหลังประเด็นมีว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดย ไม่เป็นธรรมหรือไม่ โจทก์มีสิทธิได้ รับค่าจ้าง เงินโบนัสสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยตาม ฟ้องหรือไม่ประเด็นทั้งสองคดีจึงแตกต่าง กัน ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ข้อแรกว่า คดีเดิม กับคดีหลังไม่ใช่มีประเด็นอย่างเดียวกันคำพิพากษาทั้งสองคดีจึงไม่ขัดกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2461/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นต่างกัน คำพิพากษาไม่ขัดแย้ง: คดีเดิมเรื่องปฏิบัติหน้าที่ คดีหลังเรื่องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
คดีเดิมประเด็นมีว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายระเบียบแบบแผนหรือคำสั่งของจำเลยโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้จำเลยเสียหายหรือไม่ ส่วนคดีหลังประเด็นมีว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ โจทก์มีสิทธิได้รับค่าจ้าง เงินโบนัส สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยตามฟ้องหรือไม่ ประเด็นทั้งสองคดีจึงแตกต่างกัน ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ข้อแรกว่า คดีเดิมกับคดีหลังไม่ใช่มีประเด็นอย่างเดียวกัน คำพิพากษาทั้งสองคดีจึงไม่ขัดกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษีบำรุงท้องที่หลังล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่ชำระแทนลูกหนี้ แม้เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังพิทักษ์ทรัพย์
บริษัทลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ยังเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในระหว่างนั้น ย่อมต้องมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มิได้กำหนดมิให้ฟ้องเกี่ยวกับหนี้ที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมายหลังถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่สามารถขอรับชำระหนี้ได้ภายในเวลาตามที่พระราชบัญญัติล้มละลายฯ กำหนดไว้ การเกิดหนี้ขึ้นโดยผลของกฎหมายเช่นนี้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการแทนลูกหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกี่ยวกับภาษีรายนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้รับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษีบำรุงท้องที่หลังล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่ชำระหนี้ตามกฎหมาย
บริษัท ฉ.ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ด ขาดวันที่ 27 กุมภาพันธ์2530 ประกาศหนังสือพิมพ์ลงวันที่ 24 มีนาคม 2530ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 7 เมษายน 2530 บริษัท ฉ. เป็นหนี้ค่าภาษีบำรุงท้องที่ ปี พ.ศ. 2531 ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลังบริษัท ฉ.ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ด ขาดแล้ว โจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯ ไม่ทัน แต่ พ.ร.บ. ภาษีบำรุงท้องที่ฯ มาตรา 7กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินในวันที่ 1 มกราคม ของปีใด มีหน้าที่สำหรับปีนั้นแสดงว่าผู้เป็นเจ้าของที่ดินต้องเสียภาษีที่ดินทุกปีเมื่อบริษัท ฉ. ยังเป็นเจ้าของที่ดินก็ต้องมีหน้าที่เสียภาษีกรณีนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 22 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องเข้าดำเนินการชำระหนี้ภาษี เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โต้แย้งสิทธิของโจทก์ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้รับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ภาษีหลังล้มละลาย: เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องได้ แม้เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลังพิทักษ์ทรัพย์
บริษัทลูกหนี้ถูก พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ ยังเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในระหว่างนั้น ย่อมต้อง มีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มิได้กำหนดมิให้ฟ้องเกี่ยวกับหนี้ที่เกิดขึ้นโดย ผลของกฎหมายหลังถูก พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดซึ่ง เป็นหนี้ที่ไม่สามารถขอรับชำระหนี้ได้ ภายในเวลาตาม ที่พระราชบัญญัติล้มละลายฯ กำหนดไว้ การเกิดหนี้ขึ้นโดย ผลของกฎหมายเช่นนี้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการแทนลูกหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกี่ยวกับภาษีรายนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้รับผิดได้ .
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายและการถือว่าสินค้าขายหมด
โจทก์มิได้ทำและนำบัญชีมาแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือเมื่อสิ้นปี เจ้าพนักงานประเมินจึงมีสิทธิที่จะถือว่าสินค้าที่โจทก์ซื้อมาได้ขายหมดไปแต่ ละปี ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานประเมินนำเอายอดเงินที่อ้างว่าสินค้าที่โจทก์ซื้อมาได้ขายหมดไปแต่ละปีมาคำนวณภาษีและหักค่าใช้จ่ายให้ตามความจำเป็นและสมควร โดยนำเอามาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้บังคับโดยอนุโลมจึงชอบแล้ว
เมื่อโจทก์ตกลงยินยอมให้เจ้าพนักงานประเมินคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยให้หักค่าใช้จ่ายตาม มาตรา 8 วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับ ที่ 11) พ.ศ. 2502 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว (ฉบับ ที่ 70) พ.ศ. 2520 ที่กำหนดให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้บังคับโดยอนุโลมแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ 80 ตาม มาตรา 8 วรรคแรก (25) ได้
เมื่อโจทก์ตกลงยินยอมให้เจ้าพนักงานประเมินคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยให้หักค่าใช้จ่ายตาม มาตรา 8 วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับ ที่ 11) พ.ศ. 2502 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว (ฉบับ ที่ 70) พ.ศ. 2520 ที่กำหนดให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้บังคับโดยอนุโลมแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ 80 ตาม มาตรา 8 วรรคแรก (25) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อผู้เสียภาษีไม่แสดงบัญชีสินค้าคงเหลือ เจ้าพนักงานประเมินมีสิทธิคำนวณภาษีตามความจำเป็นและสมควร
โจทก์มิได้ทำและนำบัญชีมาแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือเมื่อสิ้นปี เจ้าพนักงานประเมินจึงมีสิทธิที่จะถือ ว่าสินค้าที่โจทก์ซื้อ มาได้ ขายหมดไปแต่ ละปี ดัง นั้น การที่เจ้าพนักงานประเมินนำเอายอด เงินที่อ้างว่าสินค้าที่โจทก์ซื้อ มาได้ ขายหมดไปแต่ ละปีมาคำนวณภาษีและหักค่าใช้จ่ายให้ตาม ความจำเป็นและสมควร โดย นำเอามาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้ บังคับโดย อนุโลมจึงชอบแล้ว เมื่อโจทก์ตกลง ยินยอมให้เจ้าพนักงานประเมินคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดย ให้หักค่าใช้จ่ายตาม มาตรา 8 วรรคสองแห่งพระราชกฤษฎีกาออกตาม ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับ ที่ 11)พ.ศ. 2502 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว (ฉบับ ที่ 70) พ.ศ. 2520 ที่กำหนดให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้ บังคับโดย อนุโลมแล้วโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ 80ตาม มาตรา 8 วรรคแรก (25) ได้ .
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกทางไปรษณีย์ลงทะเบียนชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้รับเป็นบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยออกหมายเรียกตาม ป.รัษฎากร มาตรา 32 ถึง อ.หุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ชำระบัญชีของโจทก์ให้ไปพบคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ พร้อมทั้งให้นำสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการขายรถยนต์ ระหว่างโจทก์กับบริษัท ต. จำกัด ไปประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โดยส่งหมายเรียกดังกล่าวด้วยวิธีทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ มี ว. อายุ 16 ปีบุตรชายของ อ. เป็นผู้รับ ซึ่งตามไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2524 ข้อ 353กำหนดว่าไปรษณียภัณฑ์ และพัสดุไปรษณีย์ที่นำจ่ายให้แก่ผู้แทนของผู้รับให้ถือว่าได้นำจ่ายให้แก่ผู้รับแล้ว นับแต่วันเวลาที่นำจ่ายดังนั้น เมื่อ ว.เป็นผู้รับหมายเรียกต้องถือว่าอ.หุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ชำระบัญชีของโจทก์ได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วโดยชอบ เมื่อ อ. ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกดังกล่าวโดยไม่มีเหตุอันสมควร โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตาม ป.รัษฎากร มาตรา 30(2ประกอบกับมาตรา 33.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยให้พิจารณาความชัดเจนของรายการพิกัด
การตีความว่าของใด อยู่ในพิกัดประเภทใด ต้อง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด สินค้าที่จำเลยนำเข้าเป็นอลูมิเนียมแผ่นกลมมีรูตรง กลาง ใช้ สำหรับทำหลอดยาสีฟัน จึงเป็นสินค้าที่มีลักษณะเป็นแผ่นที่จัดเตรียมไว้เพื่อทำหลอดทำด้วย อลูมิเนียมตาม รายการที่ระบุไว้ในพิกัด ประเภทที่ 76.06 จะตี ความว่าเข้าอยู่ในพิกัดประเภทที่ 76.16 ซึ่ง ระบุไว้กว้าง ๆ โดย โจทก์อาศัยหลักเกณฑ์อื่นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไว้มาตี ความย่อมไม่ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพิกัดอัตราศุลกากรต้องยึดตามหลักเกณฑ์ชัดเจนในกฎหมาย หากระบุลักษณะเฉพาะเจาะจง ให้จัดเข้าพิกัดนั้น
การตีความว่าสินค้าใด จะอยู่ในประเภทใด จะต้อง เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.ก. พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2503มาตรา 12 วรรคสอง โดย ไม่อาจจะนำหลักที่นอกเหนือจากที่ กำหนดมาเป็นหลักเกณฑ์ในการตีความได้ เมื่อสินค้าที่จำเลยนำเข้า เป็นอะลูมิเนียมแผ่นกลมเรียบมีรู ตรงกลางใช้ สำหรับทำ หลอดยาสีฟันจึงเป็นสินค้าที่มีลักษณะเป็นแผ่นที่จัดเตรียมไว้ เพื่อทำหลอดทำด้วย อะลูมิเนียมตาม รายการที่ระบุไว้ในพิกัด ประเภท 76.06โดย ชัดแจ้ง ดังนี้ จะตีความเข้าอยู่ในพิกัด ประเภทที่ 75.16 ซึ่งระบุไว้กว้าง ๆ ไม่ได้.