คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 821

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 487 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนจำเลยและการรับผิดในละเมิดจากกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน
จำเลยและ อ.กระทำกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันจากรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุ อ.จึงเป็นตัวแทนของจำเลยและจำเลยจะต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของ อ.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนจำเลยและการรับผิดในความเสียหายจากรถแท็กซี่
จำเลยและ อ. กระทำกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันจากรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุ อ.จึงเป็นตัวแทนของจำเลยและจำเลยจะต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของ อ. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน: ความรับผิดในละเมิด
จำเลยและ อ.กระทำกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันจากรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุ อ.จึงเป็นตัวแทนของจำเลยและจำเลยจะต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของ อ.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนทางพฤติการณ์ และหนังสือรับสภาพหนี้ แม้ไม่มีสัญญาตั้งตัวแทน
ชื่อโอเชี่ยนวิวเป็นชื่อในทางการค้าของบริษัทจำเลย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรงแรมโอเชี่ยนวิว จำเลยให้ผู้อื่นเช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวและบังคับให้ผู้เช่าใช้ชื่อเดิม จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวเป็นกิจการของจำเลย ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่บริษัทจำเลยแสดงออกแก่โจทก์และบุคคลทั่วไปว่าการดำเนินกิจการโรงแรมเป็นกิจการของบริษัทจำเลยเอง จึงเป็นการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ดังนั้น เมื่อผู้เช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และไม่ชำระราคาบริษัทจำเลยจะยกเหตุแห่งการเช่าระหว่างกันเองมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตหาได้ไม่
หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนทางธุรกิจและการรับผิดในหนี้จากการสั่งซื้อสินค้า แม้มีการเช่าดำเนินงาน
ชื่อโอเชี่ยนวิวเป็นชื่อในทางการค้าของบริษัทจำเลย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรงแรมโอเชี่ยนวิว จำเลยให้ผู้อื่นเช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิว และบังคับให้ผู้เช่าใช้ชื่อเดิม จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวเป็นกิจการของจำเลย ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่บริษัทจำเลยแสดงออกแก่โจทก์และบุคคลทั่วไปว่าการดำเนินกิจการโรงแรมเป็นกิจการของบริษัทจำเลยเอง จึงเป็นการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ดังนั้น เมื่อผู้เช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และไม่ชำระราคาบริษัทจำเลยจะยกเหตุแห่งการเช่าระหว่างกันเองมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตหาได้ไม่ หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาโดยชอบและผลของการผูกพันตามหนี้จากการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทน
ชื่อโอเชี่ยนวิวเป็นชื่อในทางการค้าของบริษัทจำเลย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรงแรมโอเชี่ยนวิว จำเลยให้ผู้อื่นเช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวและบังคับให้ผู้เช่าใช้ชื่อเดิม จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวเป็นกิจการของจำเลย ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่บริษัทจำเลยแสดงออกแก่โจทก์และบุคคลทั่วไปว่าการดำเนินกิจการโรงแรมเป็นกิจการของบริษัทจำเลยเอง จึงเป็นการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ดังนั้น เมื่อผู้เช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และไม่ชำระราคาบริษัทจำเลยจะยกเหตุแห่งการเช่าระหว่างกันเองมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตหาได้ไม่
หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4359/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญาซื้อขายจากพฤติการณ์ยอมรับรู้ การเชิดตัวเป็นตัวแทน และการไม่ปฏิเสธการซื้อขาย
ช. เคยเป็นกรรมการบริษัทจำเลย และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย ช.ได้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นจำเลยตลอดมาเมื่อช. ไปติดต่อและทำสัญญาซื้อสินค้ากับโจทก์ ก็แสดงนามบัตรว่าทำงานกับจำเลยทั้งจำเลยมิได้ปฏิเสธการที่ ช. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เป็นเวลานานกว่าปี ดังนี้ พฤติการณ์เท่ากับจำเลยได้รับรู้ยอมให้ ช.เชิด ตัวเองเป็นตัวแทนของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4359/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับรู้พฤติกรรมตัวแทนโดยปริยาย ทำให้จำเลยผูกพันตามสัญญา
การที่ ช. ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริษัทจำเลยและปัจจุบันยังคงเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งซึ่งเข้าประชุมผู้ถือหุ้นตลอดมา ได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์โดยแสดงนามบัตรว่าทำงานกับจำเลย เมื่อโจทก์จัดส่งสินค้าแก่จำเลย จำเลยมิได้ปฏิเสธการสั่งซื้อสินค้า หรือจัดส่งสินค้าคืนโจทก์ในเวลาอันควร ทั้งผู้จัดการจำเลยก็รับรู้ตลอดว่า ช. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แต่มิได้ทักท้วงพฤติการณ์เท่ากับจำเลยได้ยอมรับรู้ให้ ช. เชิดตัวเองเพื่อให้โจทก์หลงเชื่อว่า ช. เป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยจึงต้องผูกพันรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำของ ช..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4359/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญาจากการยอมรับพฤติกรรมตัวแทนที่ปรากฏ แม้ไม่ได้แต่งตั้ง
การที่ ช. ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริษัทจำเลยและปัจจุบันยังคงเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งซึ่งเข้าประชุมผู้ถือหุ้นตลอดมา ได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์โดยแสดงนามบัตรว่าทำงานกับจำเลย เมื่อโจทก์จัดส่งสินค้าแก่จำเลย จำเลยมิได้ปฏิเสธการสั่งซื้อสินค้า หรือจัดส่งสินค้าคืนโจทก์ในเวลาอันควร ทั้งผู้จัดการจำเลยก็รับรู้ตลอดว่า ช. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แต่มิได้ทักท้วงพฤติการณ์เท่ากับจำเลยได้ยอมรับรู้ให้ ช. เชิดตัวเองเพื่อให้โจทก์หลงเชื่อว่า ช. เป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยจึงต้องผูกพันรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำของ ช..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4201/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนและการรับผิดในหนี้จากการกระทำของตัวแทนที่ถูกเชิด รวมถึงข้อความที่ขัดต่อกฎหมายในตั๋วสัญญาใช้เงิน
การที่จำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกนำตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทจำเลยที่ 1 ระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ไปให้โจทก์ตรงกับคำพรรณนาของจำเลยที่ 2 ทุกประการพร้อมทั้งให้จำเลยที่ 2 มีนามบัตรซึ่งมีรูปเครื่องหมายและตัวอักษร แสดงว่าเป็นพนักงานของบริษัทจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าเป็นการเชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 เมื่อปรากฏว่าโจทก์มอบเงินจำนวนตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 2 ยักยอกเงินดังกล่าวไป จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริต จากการกระทำของจำเลยที่ 2 เสมือนว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน
ข้อความตามตราประทับด้านหลังตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่มีใจความว่าตั๋วสัญญาใช้เงินจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้เรียบร้อยแล้วนั้น เป็นข้อความที่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983 (2) จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 899 ที่ว่า ข้อความอันใดซึ่งมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน ถ้าเขียนลงในตั๋วเงินข้อความนั้นหาเป็นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋วเงินนั้นไม่
of 49